เกิดเป็นหญิง แท้จริงก็บวชได้

PanKaew

08 ก.ค. 2022|2 min read

อ่านบทความอื่นจาก PanKaew

คัดลอกลิงค์

แจ้งตรวจสอบ

ในยุคสมัยที่เปลี่ยนไป การใช้ชีวิตที่วุ่นวาย โดยเฉพาะผู้หญิงอย่างเรา ไหนจะต้องทำงานที่ออฟฟิศ ไหนจะงานบ้านที่มากมาย ไหนจะต้องดูแลตัวเองให้ดูดีเสมออีก ทำให้แต่ละวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว วันๆ ก็แทบจะไม่เหลือเวลาให้ทำอย่างอื่นแล้ว ยิ่งเป็นการเข้าวัดถือศีลปฏิบัติธรรม เรียกว่ายากเข้าไปอีก

แต่ยังโชคดี ที่ Pankaew ได้พบเจอกับพระอาจารย์ท่านหนึ่ง ท่านเป็นพระที่จำพรรษามานานมากแล้ว แต่เนื่องจากท่านเป็นพระไม่อยากยุ่งทางโลก ไม่อยากจะให้เกิดความวุ่นวาย จึงไม่ประสงค์จะออกนาม ท่านได้สอนไว้ว่า เกิดเป็นผู้หญิง แม้จะไม่ได้เข้าวัดบวชเป็นพระเหมือนผู้ชาย แต่ก็สามารถ "บวชใจ" ได้ ไม่ต้องเข้าวัดก็บวชได้ ท่านกล่าวไว้ว่า....

ภาพภิกษุณี "การบวช" ก็คือการมาฝึกแก้ไข้ การพัฒนา จิต กาย ให้ดีขึ้นยิ่งขึ้น
"บวชใจ" ก็คือการสำรวมกริยา ต้องสำรวม สงบนิ่ง การสำรวมนั้นก็เพื่อทำให้เราสามารถควบคุมสภาวะอารมณ์ได้ เพราะการที่เราจะกระทำสิ่งใดลงไป จิตต้องเป็นผู้สั่ง และมักจะสั่งตามอารมณ์ และกายก็จะเป็นผู้กระทำ เมื่อเราสำรวมกาย การยับยั้งของจิตก็จะตามมา การควบคุมอารมณ์ก็จะตามมาเป็นระบบกันไป ดังนั้น การควบคุมร่างกายจึงเป็นสิ่งสำคัญ ให้สังเกตดูศีล 5 ที่ถือกันอยู่ จะเน้นการกระทำที่กายเป็นหลัก ก็เพราะว่าสุดท้ายมันไปลงตรงจุดนี้ และกายมีผลกับผู้อื่น กระทบกับผู้อื่น ดังนั้น ศีลเบื้องต้นจึงต้องเน้นการกระทำการควบคุมทางกาย

ถ้าจะถามว่าในการบวชใจ ควรถือศีลกี่ข้อ สำหรับข้าอาตมาไม่ขอกล่าวว่าถือศีลควรกี่ข้อ แต่ถือเท่าที่สภาวะ ความเหมาะสมที่เราจะทำได้ และควบคุมพฤติกรรมเราไม่ให้ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนและตัวเราเดือดร้อนก็พอ ในตอนแรก ๆ เราอาจจะรู้สึกอึดอัด เพราะเคยประพฤติแบบสบาย ๆ พอเริ่มคิดว่าจะถือบวชใจ เราจะเกร็ง เริ่มอึดอัด หรือไม่ก็สุดโต่ง ดังนั้น ค่อย ๆ ทำไป

ภาพภิกษุณี มาต่อที่จิตก่อน จิตถือเป็นกองบัญชาการแรก ถ้าเราสามารถควบคุมให้จิตเราเข้าสู่ระบบธรรมชาติที่มีความสุข ไม่เบียดเบียนตัวเราและผู้อื่น และทำให้จิตเราพัฒนาขึ้นได้ในรูปแบบการพัฒนาทั้งทางทิพย์ ทางมนุษย์ นั่นแหละก็เพียงพอ และมันจะสอดคล้องกับพฤติกรรมทางกายเอง จิตถือว่าสำคัญ

โดยเฉพาะมนุษย์ทั้งหลาย พวกเจ้าอาจลำบาก เพราะไหนจะต้องควบคุมอารมณ์แบบมนุษย์ ไหนจะต้องควบคุมสภาวะจิตให้เกิดการพัฒนาเข้ารูปแบบทิพย์ ไม่ว่าจะเป็นการสัมผัส การมองเห็น การมีหูทิพย์ ดูมันจะยาก ทำให้จิตเจ้าสับสนปั่นป่วน วิธีที่ง่าย คือ ไม่เคร่งเครียด เราจงคิดว่า เรามาบวช เรามาฝึก เราไม่ได้มาแข่งกับใคร ก็ฉันทำดีที่สุด มีความสามารถได้เท่านี้ ฉันพอใจเท่านี้ จิตเราก็จะเป็นสุข เมื่อจิตเป็นสุข จิตจะสงบ เกิดปัญญา การพัฒนาก็จะตามมาและยิ่งเราตระหนักว่า เรามาบวชใจ ย่อมทำให้จิตเราโล่งโปร่ง สงบได้เร็วยิ่งขึ้น

ภาพภิกษุณี

และหากถามว่า ระยะเวลาแค่ไหนในการบวชจึงจะสัมฤทธิ์ผล ขอตอบว่า อยู่ที่ตัวเรา เราจะรู้เอง และเป็นสิ่งที่ทำไม่ยาก เมื่อทำไปสักระยะ มันจะกลายเป็นธรรมชาติของตัวเราเอง และนั่นแหละ เราก็จะเข้าสู่ระบบบวชใจได้ตลอดเวลา ไม่จำเป็นต้องกะเกณฑ์ และที่สำคัญ ถ้าวันใดจิตเรา กายเราเผลอไป ทำผิดไป ก็อย่าลงโทษตัวเองจนจิตตก จำไว้ ใครตำหนิเราไม่เท่ากับตัวเราตำหนิตัวเราเอง และถ้าเราตำหนิตัวเรา ความนับถือในตัวเราเองก็จะหมดไป ถึงตรงนั้น ความมั่นใจในการกระทำทุก ๆ อย่าง ก็จะหมดไปด้วย ลองคิดดู เรายังไม่นับถือตัวเราเลย แล้วใครจะมานับถือเรา

ที่จริง ข้าฯ จะบอกให้ เมื่อเราทำในสิ่งที่ดี จิตเราจะภูมิใจ จิตเราจะเคารพในตัวเรา พลังตรงนี้มันจะออกมา ซึ่งมีผลต่อคนรอบข้างที่เค้าสัมผัสเราได้ เค้าจะรู้สึกเกรงใจ เคารพเราไปด้วย เป็นเสมือนบารมีที่แสดงออกมา จงจำไว้ ทำให้ตัวเรา สามารถเคารพตัวเราได้ กราบไหว้จิตเราได้ก็เพียงพอ และนั่นแหละ คือความสำเร็จของการบวชใจ

ภาพภิกษุณี

หวังว่าบทความนี้จะเกิดประโยชน์กับผู้อ่านบ้างนะคะ และขอบุญจากการเผยแพร่บทความนี้ถึงผู้ที่เกี่ยวข้องทุกท่านตามวาสนาค่ะ

-ภาพหมู่ภิกษุณี 52 องค์ ภายในพระวิหารวัดเทพธิดาราม โดย Pankaew

-ภาพหน้าปก "พระศรีศากยะทศพลญาณ" ณ พุทธมณฑล โดย Pankaew

*STAR COVER"อย่ามัวแต่ดูมาดังกัน"*
ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ขอชวนทุกคนมาสนุกโคฟเวอร์ พร้อมลุ้นรับเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 7,000 บาท (5 รางวัล) โคฟคนที่ใช่ ไลค์คนที่ชอบ`ร่วมสนุกได้ที่ ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ห้อง cover บนแอปทรูไอดี`