อื่นๆ

“เขย” ความเชื่อเมื่อมีการตายของชาวภูไท (บ้านกุดหว้า)

527
คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
“เขย” ความเชื่อเมื่อมีการตายของชาวภูไท (บ้านกุดหว้า)
    ประเพณีสืบทอดมายาวนาน จนกลายเป็นตำนาน หลักความเชื่อคนภูไทกุดหว้า หลักปฏิบัติที่ไม่เสื่อมหาย หลังจากมีการตายเกิดขึ้น  หน้าที่สุดท้ายเขยต้องทำ ไม่มีใครทำแทนได้ 

 ชีวิตที่จากไปสิ้นแล้วซึ่งความเจ็บป่วย ไม่มีใครช่วยได้ แล้วแต่บุญธรรมกรรมแต่ง คนอยู่เท่านั้นที่จะคงทำหน้าที่ตอบแทนความดี แสดงความเคารพให้กับผู้ที่สิ้นแล้วซึ่งลมหายใจ  ประเพณีในแต่ละพื้นที่มีการปฏิบัติแตกต่างกันไปคนละแบบ  หรือบางที่นั้นมีการปฏิบัติเหมือนกัน แต่การปฏิบัติกับแตกต่างกัน  เพราะก่อนที่ศาสนาพุทธเข้ามาแต่ยังไม่ได้มีคนทำความเข้าใจและรู้จักมากนัก  ประกอบกับศาสนาพราหมณ์เข้ามามีอิทธิพล ทำให้ชาวบ้านมีความเชื่อเรื่องผี ในหลายๆเรื่อง แต่นับถือศาสนาพุทธ  แต่เป็นพุทธที่ใช้พราหมณ์ในการทำพิธีกรรมไม่ว่าจะเป็นการแต่งงาน การสู่ขวัญ การบูชา พิธีกรรมตามความเชื่อหลายอย่าง  ซึ่งพิธีที่จะเล่าต่อไปนี้ เป็นพิธีที่สำคัญที่สืบต่อมาอย่างยาวนาน จะต้องทำทุกครั้งและทุกคนที่เสียชีวิต ไม่ว่าจะตายปกติหรือตายโหง

Advertisement

Advertisement

เขยนั่งล้อมวง

ครั้งนี้จะจะเล่าถึงเรื่องสำคัญในการทำพิธีเคลื่อนศพ ซึ่งชาวภูไทนั้นจะใช้เขยทำพิธีทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการจับข้าวของผู้ตาย เสื้อผ้า อาหารเตรียมสำหรับไปทานในภพหน้า ซึ่งพิธีกรรมเหล่านี้จะใช้ผู้ชาย ซึ่งหน้าที่ของผู้หญิงคือการจัดเตรียม แต่เมื่อถึงเวลาทางชาวภูไทจะถือว่าเป็นหน้าที่ของเขย ในการทำยกสิ่งของทั้งหมด แต่สำหรับโลงศพนั้นญาติพี่น้องที่เป็นชายจะช่วยกันยกขึ้นรถ 

        คำว่า เขย   ในหนึ่งตระกูลจะมีเขยหลายคน แต่คนที่จะมาทำพิธีนี้ คือเขยกก ซึ่งเขยกก คือเขยคนแรกของตระกูล ซึ่งจะมีเขยรอง เขยที่สองที่สามไล่ไปตามๆกัน  เขยคือคนที่แต่งงานกับลูกสาวของตระกูล  ซึ่งการนับเขย ในสมัยแต่ก่อนนั้น ปู่ย่า ตายาย จะมีลูกจำนวนมาก 

เมื่อมีการตาย จะต้องมีการบอกเขยให้ทราบเพื่อมาช่วยงานและทำพิธีส่งร่างและดวงวิญญาณผู้ตายในครั้งสุดท้าย 

Advertisement

Advertisement

ไม้เขย

ไม้เขยกก  ไม้นี้ถูกทำขึ้นมาเพื่อให้เขยคนแรกของตระกูลถือนำขบวนศพ ซึ่งจะเป็นเขยเท่านั้นที่ถือ ซึ่งจะทำหลังจากทำพิธีเสร็จทั้งหมด และพระสงฆ์เดินออกจากบ้านเพื่อเตรียมเคลื่อนขบวนศพ ซึ่งเขยกกจะเดินมาจับ และเขยคนที่สอง คนที่สามจะช่วยกันจุด เมื่อธูปติดก็จะเดินนำขบวน ตามด้วยเขยอีกสองคือ คนหาบข้าวของเครื่องใช้ที่จะให้ผู้ตาย มีข้าวปลาอาหาร เสื้อผ้าข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็น

        ข้อปฏิบัติในการเดินของเขย  เมื่อเขยจุดไฟไม้เขยติดแล้ว ให้เขยเดินนำหน้าไปทันที โดยไม่รอและไม่มองมาด้านหลัง นั่นคือไม่ให้เหลียวหลังกลับมาดู ว่าศพเคลื่อนทันไหม ให้เดินไปเรื่อยๆ จนถึงจุดหมาย เขยที่สองและสาม ที่เรียกว่าเขยหาบจะเดินตามไปโดยการแบกไม้ไผ่ ซึ่งเป็นไม้ไผ่ท่อนเดียวที่ทำไม้แบก 
เขยจุดไฟจุดไฟและแบกใส่บ่าเดินนำขบวน โดยเขยทั้งสาม  เขยทั้งสามจะร่วมกันจุด ซึ่งเขยกก หรือเขยคนแรกนั้นจะนับโดยใช้ลูกคนโตเป็นหลัก ตามธรรมเนียมนั้นลูกสาวคนโตจะต้องแต่งงานออกเรือนก่อนเป็นคนแรก เมื่อแต่งงานก็จะมีลูกเขย คนภูไทจะเรียกว่าเขยกก คือเขยคนแรกที่จะมาทำพิธีการตายของคนในตระกูลทั้งหมด  แต่ถ้าหากว่าเขยกกเสียชีวิตก็จะนับเขยคนถัดมาเป็นคนทำพิธี  ซึ่งถ้าหากมีการตายเกิดขึ้นพิธีจะขาดเขยไปไม่ได้  ความเชื่อเรื่องการจุดไม้เขยเดินนำหน้า เป็นเหมือนการนำทางดวงวิญญาณไปสู้สุคติ เพราะวิญญาณเมื่อออกจากร่าง ยังไม่ครบสามวันนั้นจะยังไม่รู้ว่าตนเองเสียชีวิตแล้ว การจุดปะทัดจึงเป็นการบอกกล่าวดวงวิญญาณให้รู้ก่อนเคลื่อนศพออกจากบ้านสู่เชิงตะกอน

Advertisement

Advertisement

ความยาว   หน้าที่ของเขยทั้งสาม (หนึ่งคนแบก สองคนหาม)

     คนแบก เขยกก  คนหามเขยที่สองและสาม ตามธรรมเนียมของคนภูไทในความเชื่อจะใช้เขยเพียงสามคน  สิ่งที่อยู่ในไม้แบกเขยกก จะมีธูปที่ใส่ตามความเหมาะสมไม่ได้นับแต่ใส่เพื่อให้เวลาเดินไปเกิดควัน เชื้อว่าวิญญาณจะตามควันนั้นมา ใช้จำนวนที่คิดว่าเดินไปถึงวัดไม่เผาไหม้หมด   

       ไม้เขยสมัยก่อน นานมาแล้ว จะใช้ฟืนราดด้วยน้ำมัน ซึ่งจะลำบากมากหนึ่งเรื่องของการหาฟืน แต่พอมาถึงปัจจุบันนี้ฟืนค่อนข้างหายากจึงมีการใช้ธูปและกาบกล้วยมัดรวมกันแทน ซึ่งทำให้สะดวกสบายหาง่ายขึ้น

เขย          หลังจากที่เขยกลับมาจากการเผาศพ จะต้องมาทำหน้าที่หลายอย่าง  หน้าที่ของเขยยังไม่หมดสิ้น เมื่อกลับมาจากการส่งดวงวิญญาณสู่เชิงตะกอนเรียบร้อย จะต้องกลับมาที่บ้านอีกครั้ง เพื่อทำพิธี  ปัดขี้ตะล้า ในภาษาภูไท แปลว่าปัดสิ่งที่มันไม่ดีออกจากบ้าน  ล้างมือด้วยไก่ต้ม ฉีกไก่ ทำซั่วไก่  หมายถึงต้มไก่อาหารของชาวภูไท ที่จะทำเนื่องในโอกาสสำคัญเช่นการเลี้ยงเจ้าปู่ตา เป็นต้น ร่วมกัน โดยเขยจะมีทั้งหมดสามคน แต่ครั้งนี้ เนื่องจากว่าผู้ตายมีเขยจำนวนมาก เพราะฝั่งทางสามีและภรรยามีความเชื่อเดียวกัน จึงทำให้มีเขยทั้งหมด 6 คน ฝ่ายละ 3 คน ซึ่งก็ไม่ใช่ปัญหาเพราะเขยยิ่งมีจำนวนมาก ยิ่งดีเพราะจะได้ช่วยงาน ในการยกของออกจากบ้านบ้าง ช่วยยกโลงศพออกจากบ้าน ส่วนเขยกกนั้นส่วนมากจะมีอายุค่อนข้างเยอะ

นั่งฉีกไก่พิธีเขย ความเชื่อเรื่องของเขยยังคงเป็นสิ่งที่เชื่อมาจนถึงปัจจุบัน แม้สังคมจะกระโดดก้าวไปไกล บ้านของผู้ตายนั้น จะเริ่มเก็บตั้งแต่รู้ว่าหมดลม เพื่อรอการเคลื่อนศพมาที่บ้าน ชาวบ้านจะเก็บทำความสะอาดให้เรียบร้อย  เมื่อศพเดินทางมาถึงบ้านแล้ว จะห้ามกวาดบ้านจนกว่าศพจะออกจากบ้าน เชื่อว่าการกวาดบ้านนั้นจะทำให้คนอยู่ไม่มีความสุข 
     หลังจากที่เขยกลับจากการเผาศพ เขยจะต้องมาที่บ้าน จับไม้กวาดทำความสะอาดบ้าน ปัดสิ่งที่ไม่ดีออกจากบ้าน ให้ทั่วสะอาดจากนั้นก็จะโยนไม้กวาดทิ้งเป็นการกวาดสิ่งไม่ดีออกและ ทิ้งไป ต่อจากนั้นพรมน้ำมนต์ รอบบ้านเป็นการล้างบ้าน  ล้างมือโดยต้มไก่ (ล้างซั่ว) ซึ่งภูไทจะเรียกต้มไก่ว่าซั่วไก่  โดยในการนั่งฉีกไก่จะต้องนั่งหยองยอฉีก นั่งด้วยกันทั้งหมด เมื่อฉีกเรียบร้อยจึงลงมือรับประทานร่วมกัน 

     ข้อห้าม คือ ห้ามนำต้มไก่ออกจากบ้าน และห้ามนำอาหารอื่นเข้ามา อาหารคือเพียงต้มไก่อย่างเดียว ในส่วนของน้ำ จะมี เหล้าขาวเขย ซึ่งในพิธีกรรมหลายอย่างของชาวภูไทจะใช้เหล้าขาว พิธีการตายก็มีเหล้าเขยเช่นกัน 

มอบสินน้ำใจ เจ้าบ้าน เมื่อเขยทำภารกิจสิ้นสุดลง จะมีการนำปัจจัยมาให้เขยเพื่อเป็นขวัญกำลังใจ ไม่ให้เศร้าไม่ให้หมอง ซึ่งบางที่ก็จะให้เขยทั้งหมด บางความเชื่อก็จะให้เฉพาะเขยที่ทำกานแบกและหาม นั้นคือสามคน แต่เขยก็จะทานไก่ด้วยกัน ซึ่งนี่ถือเป็นการสิ้นสุดพิธีเขย 

     หลังจากที่เขยกลับบ้าน เจ้าของบ้านจึงสามารถเก็บของทำความสะอาดบ้านได้ แต่ถ้าหากว่าเขยยังไม่ทำพิธีปัดกวาดบ้าน จะห้ามกวาดบ้านเด็ดขาด 

     นอกจากนั้นในการจัดงานศพจะต้องมีญาติหรือชาวบ้านมานอนอุ่นบ้าน นั้นคือการนอนเฝ้าศพเพื่อที่จะทำให้เจ้าบ้านรู้สึกอบอุ่นใจ และถ้าเป็นหญิงจะมานอนเพื่อตื่นขึ้นมานึ่งข้าวทำอาหารให้ทันเช้า และคอยดูเทียนที่วางไว้หน้าศพไม่ให้ดับ 

วัฒนธรรมของการตาย ในชุมชนภูไทนั้นมีขั้นตอนพิธีการยุ่งยากกว่าการเกิดมาก สมัยก่อนทำอย่างไร ลูกหลานไม่เลยหลงลืมเพราะเน้นในเรื่องของการทำให้ดู และทำตาม  ในการนำศพออกจากบ้าน ตั้งแต่ยกเก็บของทุกอย่างของผู้ตายนั้นจะเป็นชายทั้งหมด ซึ่งผู้หญิงจะอยู่ที่ครัวทำอาหาร ล้างจาน เตรียมข้าวของเพื่อให้ชายยกและนำไป แห่ศพไปจนถึงวัด แบกโลงศพก็จะเป็นชาย จึงไม่แปลกเมื่อไหร่ที่เห็นขบวนแห่ศพแล้วมีผู้ชายจำนวนมากเดินตามขบวน เพราะคนภูไทนั้นมีขั้นตอนและพิธีกรรมบอกไว้ชัดเจน แบ่งหน้าที่ให้พร้อม จึงทำให้เมื่อไหร่ที่มีคนตายในหมู่บ้าน ทุกคนจะได้รับข่าวครบทั้งหมด ทั้งพี่น้องบ้านใกล้และไกลก็จะมาช่วยงานจนแล้วเสร็จ 

 ภาพถ่ายทั้งหมดโดยผู้เขียน (อุ้งเท้าแมว)

เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
อุ้งเท้าแมว
อุ้งเท้าแมว
อ่านบทความอื่นจาก อุ้งเท้าแมว

รักอิสระ มีพื้นที่ส่วนตัว ชอบเดินทางท่องโลกกว้าง

ดูโปรไฟล์

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์