ไลฟ์แฮ็ก

เคล็ดลับ การจับผิด คนโกหก !

3.4k
คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
เคล็ดลับ การจับผิด คนโกหก !

หากคนเราเปรียบเหมือนหนังสือเล่มนึง มันคงง่ายที่จะเปิดดูสิ่งที่ซ่อนอยู่ภายเล่มของคนคนนั้น แต่คนเรากลับยุ่งยากและซับซ้อนกว่านั้น เพราะเมื่อคุณกำลังจะเปิดไปหน้าหนังสือที่ต้องการค้นหา กลับพบเจอกับหน้าอื่นที่ไม่ใช่ความจริง "การโกหก" เป็นสิ่งที่เบี่ยงเบนสิ่งต่าง ๆ ไปจากความเป็นจริง

การที่เราสงสัยใครคนนึง ว่าคนคนนั้นโกหกหรือไม่ คุณมีทางเลือกอยู่แค่ 3 ทางคือ

  1. ถามตรง ๆ : เป็นการเผชิญหน้ากับ "ผู้ต้องที่สงสัย" ที่ดี แต่ผลลัพธ์อาจจะทำให้เกิดความขัดแย้งได้ ไม่ว่าอีกฝ่ายจะโกหกจริง หรือไม่ได้โกหก ก็ดูเหมือนจะทำให้ความสัมพันธ์ของคุณและเขาพังลงเอาได้ง่าย ๆ
  2. วางเฉย : เหมือนจะดีแต่การที่วางเฉย แล้วปล่อยให้ความสงสัยยังครอบงำความคิดของคุณ ย่อมเป็นทรมานตัวเอง
  3. สืบข้อมูล : อาจจะต้องเสียเวลาและทำให้ความสัมพันธ์แย่มากขึ้น และบางอย่างก็ใช่ว่าจะสามารถสืบเข้าไปถึงภายในใจอีกฝ่าย

Advertisement

Advertisement

จะเห็นว่า ไม่ว่าทางไหนก็ดูจะไม่ใช่ทางออกที่ดีนัก ที่จะให้รู้คำตอบว่า อีกฝ่าย "โกหก" เราหรือไม่ ดังนั้นเราจึงมีเคล็ดลับที่ไม่ใช้วิธีนี้กัน

quiet(Photo by Kristina Flour on Unsplash)

เคล็ดลับการจับผิด

หลักของเคล็ดลับคือ จับพิรุธจากท่าทีการตอบสนอง ต่อเรื่องที่ใกล้เคียงกับสิ่งที่เขาโกหก

ถ้าเราดูกันตามตรง เวลาคนเราโดนถามตรง ๆ เรื่องที่กำลังโกหก อีกฝ่ายย่อมต้อง "ปกป้อง" ตัวเองทั้งสิ้น ไม่ว่าจะด้วยการปฏิเสธ ย่อมหาคำตอบที่ชัดเจนได้ยาก แล้วพอเขาปฏิเสธ แล้วเราไม่เชื่อ มันก็ยิ่งแย่ไปอีก ดังนั้นสิ่งที่เราต้องทำ คือการสื่อสารสิ่งที่ "ไม่โทษ" อีกฝ่าย แล้วค่อยดูท่าทีตอบสนองแทน โดยมีกลวิธี ได้แก่

  1. ถามอีกฝ่ายถึงสิ่งที่เขาโกหกแต่ไม่ได้ชี้ว่าเขาเป็นคนทำ
    • การถามคำแนะนำ เช่น คุณสงสัยว่าอีกฝ่ายขโมยของไป คุณอาจไปเกริ่น ๆ ถามเขาว่า "มีบางคนพยายามขโมยของฉัน คุณมีคำแนะนำในการป้องกันมั้ย ไม่ให้เขาขโมยอีก" หากเขามีท่าทีอึดอัด บ่ายเบี่ยงหรือไม่ตอบอย่างเต็มใจ ก็แสดงว่ามีพิรุธว่าเขาจะเป็นคนขโมยของที่ปิดบังอยู่ แต่ถ้าตอบวิธีแก้ไข ช่วยเหลืออย่างเต็มใจก็มีความเป็นไปได้สูงที่จะไม่ได้โกหก
    • การเล่าเรื่อง เช่น คุณอาจจะเล่าเรื่องงานวิจัย ดังตัวอย่างที่อีกฝ่ายเช่นอีกฝ่าย คบชู้ คุณอาจจะใช้งานวิจัยที่สร้างขึ้นมาเองในการพูดคุย เช่น เขามีนิสัยชอบเขย่าขาและกำลังเขย่าขา คุณอาจจะสร้างเรื่องพูดออกมาว่า "มีคนบอกว่า คนชอบเขย่าขาเป็นคนที่กำลังคบชู้" ซึ่งท่าทีที่เขาตอบสนองมีผลต่อการจับพิรุธ ถ้าเขาทำอะไรที่บ่งบอกเพื่อป้องกันตัวเอง อาจจะเป็นการพูดปฏิเสธ หรือ หยุดเขย่าขา แสดงว่าเขากำลังโกหกอยู่ แต่ถ้าเขายังเขย่าต่อ (เพราะเขารู้สึกว่าเขาไม่ได้เป็นแบบนั้น ไม่ได้เกี่ยวข้องกัน) หรือบอกเรื่องที่พูดเป็นเรื่องไร้สาระ ไม่เกี่ยวเลย ก็แสดงว่าเขาไม่ได้โกหกได้

      talk(Photo by Christin Hume on Unsplash)
  2. การเสนอข้อมูลที่เท่าเทียมเพื่อให้อีกฝ่ายแสดงท่าทีลำเอียง
    • ให้ทางเลือก หรือ ข้อมูลที่เท่ากัน แต่อีกฝ่ายไม่เท่ากัน เช่น คุณกำลังจับโกหกแฟนคุณ ว่าแฟนคุณเคยรู้จักกับผู้หญิงคนนี้หรือไม่ คุณอาจจะให้แฟนคุณดูรูปผู้หญิง ที่อาจจะมีความสวยเหมือนกันหมด จากใน Friend List ซึ่งถ้าเป็นคนปกติ อาจจะแสดงท่าทีเท่ากัน ในแต่ละคน แต่ถ้าเขาเคยรู้จักกับคนนั้นมาก่อนก็อาจจะมีท่าทีที่ต่างออกไป เช่น ทำท่าไม่ค่อยสนใจ หรือ ทำจ้องมองนานเป็นพิเศษ

Advertisement

Advertisement

จากสองข้อที่กล่าวมาอาจเป็นเทคนิคคร่าว ๆ แต่ทั้งหมดทั้งมวลคืออยู่บนหลักการ "ไม่โทษอีกฝ่าย เพื่อไม่ให้อีกฝ่ายป้องกันตัวเอง" แต่จะเน้นการให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องเพื่อจับพิรุธ

ทั้งนี้การใช้เทคนิคนี้อาจจะไม่ได้พิสูจน์ว่าอีกฝ่ายโกหกหรือไม่โกหกแม้จะค่อนข้างชัดเจน แต่ไม่ 100% เนื่องจากนิสัยและพฤติกรรมของคนแตกต่างกันออกไป เช่น คนที่โกหกบ่อย ๆ จะสามารถทำตัวได้แนบเนียนจนจับพิรุธไม่ได้ หรือคนที่ตื่นวิตกเกินเหตุ ก็สามารถแสดงพิรุธออกมาทั้ง ๆ ที่ไม่ได้โกหกได้เช่นกัน

magnifier(Photo by João Silas on Unsplash)

อ้างอิงหนังสือ : You Can Read Anyone - David J. Lieberman, Ph.D.

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
Puntaiji
Puntaiji
อ่านบทความอื่นจาก Puntaiji

เขียนสไตล์จับฉ่าย เจ้าของเว็บ [www.puntaiji-ent.com] [www.shitsuren-tarot.com] [www.datasciya.com]

ดูโปรไฟล์

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์