ไลฟ์แฮ็ก
เคล็ดลับ "การมีวาทศิลป์" กับงานบริการด้านการขาย
สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ ทุกคน มีใครเคยทำงานพวกร้านพาร์มไทม์แบบผู้เขียนไหมค่ะ ถ้าลองย้อนเวลากลับไปเมื่อสมัยที่ผู้เขียนยังเรียนอยู่และช่วงปิดเทอมผู้เขียนก็จะไปสมัครงานตามร้านเคเอฟซี หรือร้านเซเว่นอีเลฟเว่นเพื่อสมัครงานพาร์ทไทม์ทำงานในช่วงปิดเทอมเป็นการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์แถมยังได้เงินมาใช้อีกด้วย วันนี้ผู้เขียนเลยนำ เคล็ดลับ "การมีวาทศิลป์" กับงานบริการด้านการขาย ซึ่งเป็นเคล็ดลับจากประสบการณ์ของผู้เขียนเอง ว่าแต่จะมีอะไรบ้าง เรามาชมไปพร้อม ๆ กันเลย
ขอบคุณภาพจาก : freepik.com URL https://bit.ly/2wFCum3
1. ยิ้มให้เป็น
สิ่งนี้เป็นสิ่งที่รุ่นพี่ที่ทำงานสอนให้ผู้เขียนยิ้มแย้มแจ่มใสเสมอเวลาที่เราเจอลูกค้ามาซื้อของในร้าน แล้วเขายังสอนอีกว่าถ้าลูกค้าหน้าบึ้งหรืออารมณ์เสียแค่ไหน เราควรจะยิ้มให้ลูกค้าก่อนเสมอ และที่สำคัญเราอย่าอารมณ์เสียใส่ลูกค้าเด็ดขาด เราควรยิ้มเข้าไว้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เพราะพี่ที่ทำงานได้สอนผู้เขียนว่า "รอยยิ้มก็ถือเป็นวาทศิลป์อย่างหนึ่งที่ทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อของที่ร้านเราอีกได้"
Advertisement
Advertisement
2. พูดคุยกับลูกค้าบ้าง
เราควรพูดคุยกับลูกค้าบ้างซึ่งการพูดคุยกับลูกค้าเปรียบเสมือนเพื่อนทักทายกันเมื่อเวลาเจอหน้ากัน เราอาจจะทักลูกค้าว่า "วันนี้แต่งตัวสวยน่ะค่ะ" หรือ"วันนี้ทำผมหล่อน่ะค่ะ" ซึ่งการพูดแบบนี้ก็เปนการมีวาทศิลป์กับลูกค้าอีกอย่างหนึ่ง เราสามารถพูดทักทายพร้อมกับเสนอขายสินค้าโปรโมชั่นไปด้วยในตัว ว่ามีอะไรลดราคาบ้าง ก็อาจจะทำให้ลูกค้าสนใจและซื้อสินค้าจากร้านเราในที่สุด
ขอบคุณภาพจาก : freepik.com URL https://bit.ly/38OGD5a
3. การกล่าวต้อนรับ
การกล่าวต้อนรับก็เป็นเรื่องที่สำคัญเลยก็ว่าได้เพราะเมื่อตอนที่ผู้เขียนได้ทำงานอยู่ที่เซเว่นอีเลฟเว่นนั้น พี่ที่สอนงานเขาจะกำชับให้เราพูดกล่าวทักทายตอนลูกค้าเข้าร้านเสมอว่า "สวัสดีค่ะยินดีต้อนรับค่ะ" แล้วต้องพูดพร้อมกับยกมือสวัสดีแล้วยิ้มให้ลูกค้าด้วย พี่ที่สอนงานเคยบอกว่าการที่เราต้องทำแบบนี้เหมือนกับการดึงดูดลูกค้าให้มาซื้อของในร้านเรา และยังทำให้ลูกค้าอยากจะมาซื้อของที่ร้านเราอย่างเป็นประจำอันเนื่องมาจากเราเป็นพนักงานขายที่มีวาทศิลป์จนใคร ๆ ก็ต้องกลับมาซื้อสินค้าบ่อย ๆ แน่นอน
Advertisement
Advertisement
4. ช่วยเหลือลูกค้าเวลาที่หาสินค้าไม่เจอ
ข้อนี้ต้องใช้หลักจิตวิทยาสักนิดว่าลูกค้ากำลังสินค้าอะไร ถ้าลูกค้าเดินไปเดินมาทั่วร้านแล้วไม่เจอสินค้า เราอาจจะเข้าไปถามลูกค้าว่า "คุณลูกค้าหาสินค้าประเภทไหนอยู่หรอค่ะ" เราพูดพร้อมกับหาสินค้าชิ้นนั้นให้ลูกค้าพร้อมยิ้มให้กับลูกค้าด้วย ซึ่งการที่เราช่วยเหลือลูกค้านั้นพี่ที่ทำงานบอกว่า เหมือนกับเราดูแลเอาใจใส่ลูกค้าเป็นอย่างดีว่าเขาต้องการอะไรบ้าง แถมยังเป็นการสร้างมีวาทศิลป์อย่างหนึ่งในงานบริการด้านการขายอีกด้วย
5. มีจิตวิทยาด้านการขาย
ตอนที่ผู้เขียนได้ทำงานในร้านเซเว่นอีเลฟเว่นพี่ที่ทำงานจะสอนให้ขายสินค้าโปรโมชั่นเสมอ ซึ่งช่วงแรกผู้เขียนขายสินค้าโปรโมชั่นไม่ได้เลย ที่พี่ทำงานเลยบอกว่า ควรใช้หลักวิทยาในการนำเสนอขายบวกกับการมีวาทศิลป์ด้วย โดยการบอกว่า "ถ้าคุณลูกค้าซื้อลาเต้หนึ่งแก้วมีสิทธิ์ลุ้นรับของรางวัล" หรืออาจจะเอาสิทธิ์ในการแลกซื้อมาล่อตาล่อใจลูกค้า ก็จะทำให้เราประสบความสำเร็จในการขายอีกด้วย
Advertisement
Advertisement
6. อย่าอารมณ์เสียใส่ลูกค้า
ไม่ว่าเราจะอารมณ์เสียจากการทำงานที่เหนื่อย เราอย่าแสดงอาการเหล่านั้นมาให้ลูกค้าเห็นเด็ดขาด เพราะในช่วงแรกที่ผู้เขียนได้ไปทำงานในเซเว่นอีเลฟเว่นผู้เขียนเคยอารมณ์เสียใส่ลูกค้าบ้างเลยทำให้บางวันแถมไม่มีลูกค้าแถมของก็ขายไม่ดี ผู้เขียนปรับปรุงตัวเองใหม่ ว่าถ้าเจอหรืออารมณ์เสียอะไรมาให้อดทนและยิ้มพูดคุยกับลูกค้าให้ดี ๆ
7. ใช้น้ำเสียงที่น่าฟัง
ตอนที่ผู้เขียนเข้าไปทำงานในร้านเซเว่นอีเลฟเว่นในช่วงแรก ผู้เขียนใช้เสียงที่พูดคุยกับลูกค้าเบามากแถมขี้อายด้วย พี่ที่ทำงานเลยสอนให้ผู้เขียนให้พูดจาให้ชัดถ้อยชัดคำและควรเป็นน้ำเสียงที่น่าฟัง เพื่อที่ลูกค้าจะได้กลับมาซื้อสินค้าที่ร้านเราอีก
ขอบคุณภาพจาก : freepik.com URL https://bit.ly/3bVmj4h
จบกันไปแล้วนะคะสำหรับบทความ เคล็ดลับ "การมีวาทศิลป์" กับงานบริการด้านการขาย ซึ่งการที่เราทำงานด้านการขายไม่ว่าจะเป็นการขายอะไรก็ตามเราควรมีวาทศิลป์กับลูกค้ามีการกล่าวทักทายยกมือไหว้อย่างนอบน้อมพร้อมกับมีรอยยิ้มให้กับลูกค้าเสมอ การที่เรามีวาทศิลป์นั้นจะส่งผลให้เราสามารถขายสินค้านั้นได้แถมยังทำให้ลูกค้าติดใจและกลับมาซื้อสินค้าเราอีกแน่นอน
ขอบคุณภาพปกจาก : freepik.com URL https://bit.ly/2VetNJK
ความคิดเห็น
