เคล็ดลับการเมคเฟรนด์แบบง่าย ๆ สไตล์เรา

เมคเฟรนด์ยังไง ให้เกิดประสิทธิภาพ ?

สวัสดีค่ะทุกคน ยินดีต้อนรับเข้าสู่บทความ เคล็ดลับการเมคเฟรนด์แบบง่าย ๆ สไตล์เรา ในวันนี้นะคะ วันนี้เราจะมาพูดถึงเคล็ดลับเล็ก ๆ น้อย ๆ ของเราที่ใช้จริงในการเมคเฟรนด์กับเพื่อนใหม่ มันอาจเป็นวิธีที่เพื่อน ๆ บางคนทราบดีอยู่แล้วและเป็นวิธีที่ไม่เคยทราบมาก่อนปนกันไป แต่ทุกอย่างคือเราใช้เองจริง ๆ เห็นว่าน่าจะมีประโยชน์ต่อผู้อ่านที่สนใจเรื่องนี้ เลยอยากนำมาแชร์กัน เอาล่ะ ไปเริ่มกันที่ข้อแรกเลยค่ะ

---

ขอบคุณภาพประกอบจาก https://unsplash.com/photos/vRAYwESFc-U

1. ชวนคุยเรื่องที่เบาสมอง และเป็นไปในเชิงสร้างสรรค์

อาจจะฟังดูเครียด แต่มันเวิร์คจริง ๆ ค่ะ มันจะส่งผลไปถึงทั้งหมดของบทสนทนาเลย อยากแนะนำให้เพื่อน ๆ หาหัวข้อเพื่อเปิดประเด็นคุยที่สร้างสรรค์ นั่นรวมถึงเรื่องที่เขาชอบ ถ้าสามารถสังเกตได้หรือรู้อยู่แล้วว่าเขาชอบอะไร ก็คุยเรื่องนั้นก็ได้ค่ะ

ขอบคุณภาพประกอบจาก https://unsplash.com/photos/tJHU4mGSLz4

2. เอาใจใส่รายละเอียด

พวกดีเทลเล็กน้อยอย่าไปมองข้าม เช่น สมมตินั่งกินข้าวกับเพื่อนใหม่ อยากสนิทด้วย เราพยายามสังเกตก่อนเลยว่ามันมีช่องตรงไหนที่สามารถทำได้บ้าง เรายกตัวอย่างในกรณีนี้ สมมติเพื่อนไม่มีทิชชู่ กำลังกินข้าวอยู่ เรามีเราก็ยื่นให้เลยค่ะ คือเขาอาจจะไม่ได้อยากได้ขนาดนั้นหรอก แต่เราจะได้ระดับความใส่ใจในใจเขาไปเต็มประตูเลย

หรือลองคิดต่อจากข้อแรกก็ได้นะ เวลานั่งคุยกันอยู่ถ้าเราสังเกตเห็นรายละเอียดเล็ก ๆ อย่างสมมติ เราเห็นแล้วล่ะว่าเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า นู่นนี่นั่นของเขาส่วนใหญ่เป็นสีเหลืองหมดเลย ก็ให้ลองถามแบบเป็นมิตรดูเลยว่า "ชอบสีเหลืองเหรอคะ สีน่ารักจังค่ะ" มันอาจจะดูปกติ แต่มันเป็นความใส่ใจอย่างหนึ่งค่ะทุกคน และคนที่ไม่สังเกตจริง ๆ เขาจะไม่ถามเพราะไม่ได้ใส่ใจมอง คนถูกถามเขาแยกออกอยู่แล้วว่าเราใส่ใจ

แต่ต้องไม่เป็นดีเทลที่ละเอียดอ่อนนะ เราว่าทุกคนพอแยกออกว่าอะไรถามได้ถามไม่ได้สำหรับการทำความรู้จักเพื่อนใหม่ อย่างเรื่องครอบครัว เรื่องศาสนา หรืออะไรทำนองนั้นอย่าเพิ่งไปแตะเลย ให้สนใจสิ่งรอบตัวเขาเยอะ ๆ พวกของใช้อะไรแบบนี้จะเซฟค่ะ

หรือถ้าไม่รู้จะยังไงจริง ๆ ลองชมเขาก็เวิร์คค่ะทุกคน อันนี้ก็เป็นเคล็ดลับที่เราชอบใช้ (แต่ต้องไม่เสแสร้งนะ) ลองชมเขาว่า "วันนี้เสื้อสวย เหมาะกับเธอดี" แบบนี้ก็โอเคเลย ต้องชมให้เขารู้สึกว่าไม่ได้ดูเวอร์จนเกินจริง ไม่ประจบ แต่แค่เราเป็นคนช่างสังเกตและใส่ใจก็เลยเห็น ถึงจะเวิร์คนะ

จะทำให้เขาประทับใจเราด้วยว่าเป็นคนช่างสังเกต ธรรมชาติของคนเวลาได้รับคำชมก็จะดีใจอยู่แล้ว เพื่อน ๆ ต้องทำยังไงก็ได้ให้การเจอกันครั้งแรก (หรือครั้งที่เท่าไหร่ก็ตามแต่) เป็นไปอย่าง happy และสบายใจ ให้เขาเห็นถึงความจริงใจของเรา แล้วครั้งต่อไปที่เข้าไปคุยจะค่อย ๆ ง่ายขึ้น

ขอบคุณภาพประกอบจาก https://unsplash.com/photos/W3Jl3jREpDY

3. ถามตอบให้ถูกจังหวะ

ข้อนี้สำคัญมาก ๆ บางคนสถานการณ์ awkward มาก เพราะไม่รู้จังหวะ ต้องใช้การสังเกตพฤติกรรมของเพื่อนใหม่นิดหน่อย ตั้งใจฟังเวลาเขาพูดเขาตอบดี ๆ มันจะมีจังหวะที่ต้องปล่อยเงียบ จังหวะที่ต้องถามกลับ คือถ้าเป็นคนรู้จังหวะอยู่แล้วข้อนี้ไม่ต้องกังวลเลยล่ะ

ซึ่งพูดยากเหมือนกันถ้าจะมาบอกว่าแล้วจังหวะไหนควรทำอย่างไร เราแนะนำว่าให้สังเกตพฤติกรรมเอาค่ะ จะช่วยได้เยอะ ลองยกตัวอย่างง่าย ๆ สมมติคู่สนทนาเราดู happy ดูกระตือรือร้นที่จะตอบคำถาม ดูมีอารมณ์ที่ปกติร่าเริง อันนี้เราสามารถถามได้เรื่อย ๆ เลยค่ะ แต่ถ้าคู่สนทนาบางคนขี้อาย อาจจะต้องเว้นจังหวะการถามสักหน่อย สัก 5-10 วินาทีหรือแล้วแต่สถานการณ์ จากนั้นค่อยถามคำถามใหม่ ต้องให้เวลาเขาหายใจบ้างเนอะ หรือถ้าคู่สนทนาอยู่ในสภาวะอารมณ์ที่ไม่คงที่ ให้เซฟที่สุดเราแนะนำว่าเลี่ยงไปก่อนดีกว่าค่ะ เขาอาจจะไม่สะดวกใจที่จะคุยกับเราตอนนั้น อย่าลืมว่าเพิ่งรู้จักกันเอง รอให้ทุกอย่างปกติแล้วค่อยเข้าไปจะเหมาะสมและเสี่ยงน้อยสุด

ขอบคุณภาพประกอบจาก https://unsplash.com/photos/zGlDzmQkL0Y

4. สังเกตอากัปกิริยาฝ่ายตรงข้ามเยอะ ๆ

สืบเนื่องมาจากข้อที่แล้ว การสังเกตจะช่วยเราได้มากในการชวนคุย การเปิดบทสนทนา ทำให้ตัวเราเป็นความประทับใจที่ดีของเขาอีกด้วย อย่างในข้อแรกที่เราบอกว่าให้ชวนคุยใช่ไหม อันนี้ก็ต้องมาดูข้อนี้อีกทีว่าเขาอยากให้ชวนคุยหรือเปล่า หรือชอบให้เราเป็นผู้พูด ผู้เล่าแทน ถ้าจับจุดตรงนี้ได้ทุกอย่างไม่ยากเลย เหมือนเรารู้ทันเขานั่นแหละ

ที่ต้องทำข้อนี้เพราะบางคนไม่ชอบให้ซักถามเท่าไหร่ ชอบเป็นคนถามเองมากกว่า เหมือนพอมีใครมาเล่าเรื่องราวของตัวเองให้ฟังแล้วจะสบายใจน่ะค่ะ จะรู้สึกว่าเราสนิทกันแล้วนะ อะไรแบบนี้ (อันนี้เราเป็น) ซึ่งส่วนนี้ทุกคนจะรู้ได้จากการสังเกตอากัปกิริยาทั้งหมดเลย และถ้าเราต้องเป็นฝ่ายพูด เพื่อนใหม่เราเป็นฝ่ายถาม ก็ให้สังเกตอีกว่าเขาชอบเรื่องอะไรเป็นพิเศษไหม แล้วพยายามโยนประเด็นนั้นเข้าสู่บทสนทนาของเราให้ได้

ขอบคุณภาพประกอบจาก https://unsplash.com/photos/COzpvQtcqMA

5. การแสดงความคิดเห็น

ความจริงเป็นประเด็นที่พูดยากเหมือนกัน เราแนะนำว่าให้ตอบตามความจริงของเรานั่นแหละค่ะทุกคน แต่ต้องตอบแบบมีเหตุผลรองรับและเปิดใจรับฟังความคิดเห็นของอีกฝ่ายด้วย แต่ไม่ต้องซีเรียสนะ หัวข้อมันจะไม่ deep มากจนเครียดขนาดนั้น

เผื่อใครนึกไม่ออก เราจะลองยกตัวอย่างนะคะ สมมติเพื่อนใหม่ถามเราว่า "เธอคิดว่ากาแฟอร่อยไหม ?" คำถามง่าย ๆ แบบนี้เลย และส่วนใหญ่สำหรับคนเพิ่งเจอกันมันก็จะไม่ลึกไปกว่านี้ค่ะ คำตอบในข้อนี้แน่นอนว่าเราสามารถตอบได้ตามตรงเลยว่าส่วนตัวคิดแบบไหน สมมติตอบว่า "ไม่อร่อย" แนะนำว่าอย่าพูดแค่นั้นอย่างเดียวค่ะ ให้ขึ้นต้นประโยคมาก่อนเลยว่า "สำหรับเราคิดว่า..." จากนั้นพูดต่อไปอีกนิด เช่น "สำหรับเราคิดว่าไม่อร่อยค่ะ แต่คนที่ชอบก็คงว่าอร่อย ซึ่งไม่เถียง เพราะคนเราชอบไม่เหมือนกัน" อะไรแบบนี้ ให้คำตอบมีเหตุผลประกอบและมีการเปิดใจยอมรับความแตกต่างอยู่ด้วย จะดีมากเลยนะ

อย่าเลือกไปโกหกเด็ดขาดนะทุกคน ยกตัวอย่างต่อเนื่องจากย่อหน้าข้างต้น สมมติเรารู้อยู่แล้วว่าเพื่อนใหม่คนนี้ชอบดื่มกาแฟ เราไม่จำเป็นต้องไปตอบเอาใจเขานะว่าอร่อย มันไม่จริงใจ และเขาจะรู้ด้วย พอรู้แล้วยิ่งเสียความรู้สึกไปกว่าเดิมอีก ให้ตอบตรง ๆ ไปเลยค่ะ แต่พูดเพิ่มอย่างที่บอกไป แบบนี้เพื่อนใหม่ก็จะไม่รู้สึกต่อต้าน รู้สึกว่าเราจริงใจ กล้าพูดกล้ารับฟัง และมองว่าเราอยู่กับเขาได้ยาว ๆ

---

ขอบคุณภาพประกอบจาก https://unsplash.com/photos/4R6pg0Iq5IU

ทั้งหมดนี้ก็เป็นเคล็ดลับส่วนตัวที่เราใช้เองจริง ที่บางคนอาจจะทราบหรือไม่ทราบมาก่อน ;D ก็หวังว่าทุกคนจะเมคเฟรนด์กับเพื่อนใหม่สำเร็จนะคะ! สำคัญคือคือความจริงใจและใส่ใจ ถ้าเขารับรู้ถึงใจจริงของเรารับรองว่าได้เพื่อนใหม่แน่ ๆ ค่ะ ขอให้เป็นวันที่ดีของทุกคนนะ เราลาไปก่อน สวัสดีค่ะ

เครดิตภาพปกจาก https://unsplash.com/photos/p0ZvBVpW3KY