อื่นๆ
เจริญสติดูกาย ง่าย ๆ ใครก็ทำได้
"จิต" คำนี้หลาย ๆ ท่านคงเคยได้ยินกันมานานพอสมควร โดยเฉพาะในกลุ่มนักปฏิบัติธรรมผู้แสวงหาหนทางแห่งการดับทุกข์ และผู้มุ่งหวังไปยังแดนนิพพาน ถ้าจะให้เห็นภาพง่าย ๆ ตามความคิดเห็นของผู้เขียน "จิต" ก็เหมือนมหาสมุทร ไม่ว่าผิวน้ำจะมีอะไรมากระทบ คลื่นลม ความร้อน ความเย็น สภาวะแวดล้อมที่กระทบผิวน้ำในทุกขณะ ไม่ว่าผิวน้ำจะเป็นอย่างไรจะมีช่วงเวลาที่ราบเรียบบ้างหรือเต็มไปด้วยคลื่นน้อยใหญ่ก็ตาม แต่ลึกลงไปในมหาสมุทรนั้นมีแต่ความสงบ ร่มเย็น ถ้าเรานั่งอยู่ที่ก้นมหาสมุทร เราจะเห็นสภาพของผิวน้ำและสังเกตเห็นสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นบนผิวน้ำในมหาสมุทร
เช่นเดียวกับความลึกในจิตใจ คุณก็สามารถมองได้ในแบบเดียวกัน สิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในจิตใจไม่ว่าจะเป็น ความคิด อารมณ์ ความรู้สึกและความทรงจำที่ผ่านเข้ามาในจิต มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอคิดเรื่องนี้ ไปคิดเรื่องนั้น ดีใจ เสียใจ วิ่งไปคิดถึงอดีต กังวลถึงอนาคต ยามหลับก็ยังฝันต่อไม่รู้จบวนไป ๆ ในโลกแห่งแดนจิต จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเราต้องการที่จะทำจิตให้ว่าง แต่ไม่ว่าจะพยายามเพียงใดเป็นต้องเผลอไปนึกถึงเรื่องที่เป็นทุกข์หรือเป็นกังวลอยู่ตลอดเวลา เช่นเดียวกับหากจิตคือก้นมหาสมุทรที่ความสงบร่มเย็น ถึงแม้ว่าผิวน้ำจะมีคลื่นกระทบอยู่ตลอดเวลาก็ตาม สิ่งต่าง ๆ ที่มากระทบผิวน้ำส่วนมากจะเป็นความคิดอกุศลหรือความคิดที่เศร้าหมอง ความกังวลถึงปัญหาและอุปสรรคในชีวิตทั้งที่กำลังเกิด และคิดต่อไปอีกในอนาคตว่า "ถ้า" เราจะทำอย่างไร
Advertisement
Advertisement
เราต้องมีสติอยู่กับกายและใจตลอดเวลาให้ได้ไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยากจนเกินไป พอเผลอไปคิดเรื่องต่าง ๆ เหล่านี้แค่รับรู้ความคิด แล้วกลับมาอยู่ที่ลมหายใจหรือกลับมาดูกายว่าขณะนั้นเรากำลังทำอะไรอยู่ เช่น กำลัง "ล้างจาน" แต่ขณะที่กำลังล้างจานเผลอไปคิดว่าถ้าติดเชื้อโควิดเราคงลำบากแย่ เราต้องตายแน่นอน ให้เตือนตัวเองทันทีว่า "ล้างจานอยู่" เผลอไปคิดอีก ถ้าเราติดเชื้อโควิดครอบครัวเราก็ต้องติดเชื้อไปจากเรา คงเดือดร้อนกันทั้งครอบครัว ตายแน่ ๆ เลย ให้เตือนตัวเองทันทีว่า "ล้างจานอยู่"
ถ้าฝึกเจริญสติด้วยการอยู่กับลมหายใจยิ่งง่ายมากคะ จาก "ล้างจานอยู่" ก็ดึงสติด้วยคำว่า "หายใจอยู่" มีความคิดอะไรจรมาดึงสติกลับมาบอกตัวเองอีก "หายใจอยู่" แล้วกลับมารู้ที่คำบริกรรมดูลมหายใหม่ คำบริกรรมจำเป็นมากในการฝึกสติด้วยการดูลมหายใจ เพราะในแต่ละวันบางทีเราไม่รู้ตัวเองด้วยซ้ำว่าหายใจกี่ครั้ง คำบริกรรมเป็นเครื่องผูกจิตไว้ไม่ให้หลงไปตามกระแสต่าง ๆ ที่จรมา พอเผลอไปคิดอกุศล คิดเรื่องเศร้าหมอง ให้มีสติดึงจิตด้วยคำบริกรรมแทน แล้วกลับมาดูลมหายใจ คือ อยู่กับปัจจุบันขณะนั้นว่าเรากำลัง "หายใจอยู่" ไม่มีวิธีไหนผิดหรือถูก อยู่ที่วิธีไหนเหมาะกับเราผู้ปฏิบัติด้วยเช่นกัน
Advertisement
Advertisement
หากเราหมั่นดูกาย ดูจิต สม่ำเสมอ ทำได้บ้างเผลอบ้าง ไม่เพ่งไม่จ้อง แต่ไม่ขี้เกียจละเลย ถ้าเรายังหายใจอยู่ แสดงว่าเรายังเจริญสติได้อยู่ทุกเมื่อ ไม่มีข้ออ้างว่า "ไม่ว่าง" คำบริกรรมจะใช้ว่าอะไรก็ได้เป็นเชือกดึงจิต เชือกของท่าน ๆ ท่านเลือกได้ให้เหมาะกับตนเอง แต่เมื่อเลือกแล้วก็ควรยึดคำนั้น ไม่เปลี่ยนกลับไปกลับมาควรเชื่อมั่นในจิตตนเอง ไม่ต้องไปคิดว่าคนนั้นทำแบบนี้ คนนี้ทำแบบนั้น ฉันไม่เห็นเหมือนคนอื่น ถ้าคนเราเหมือนกันทุกคน นิ้วมือของเราคงจะยาวเท่ากันทุกนิ้ว
เมื่อเราเจริญสติดูความคิด ดูกาย สม่ำเสมอในชีวิตประจำวัน จนเกิดเป็นนิสัยเป็นกิจวัตรประจำวัน เวลาที่มีปัญหาหรืออุปสรรคอะไรมากระทบ "สติ" จะทำให้เราตั้งรับได้ทันในการแก้ไขปัญหาแต่ละเรื่อง ทุกปัญหาย่อมมีทางออก หากเราคิดว่าเราลำบากให้ย้อนไปดูคนที่เราลำบากกว่าเราทำไมเขายังสู้ จิตใจจะเข้มแข็งได้ต้องมีปัญญา ปัญญาจะเกิดขึ้นได้ต้องมีสติ เป็นกำลังใจให้ตนเองและผู้อื่นด้วยการให้อภัย ยิ้มให้กัน ช่วยเหลือกันและกันตามที่ตนทำได้เมื่อถึงเวลาในช่วงที่เราประสบปัญหาความยากลำบากเราจะผ่านมันไปได้ทุกครั้งเช่นเดียวกัน.........ว.บุญแสงทอง
Advertisement
Advertisement
เครดิต
- ภาพปกจาก: Karin Henseler จาก Pixabay
- ภาพที่ 1 จาก: Engin Akyurt จาก Pixabay
- ภาพที่ 2 จาก: phangpanung จาก Pixabay
- ภาพที่ 3 จาก: Quân Lê Quốc จาก Pixabay
- ภาพที่ 4 จาก : 李磊瑜伽 จาก Pixabay
- ภาพที่ 5 จาก : Đức Nguyễn จาก Pixabay
เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
ความคิดเห็น