อื่นๆ

เจอดีที่ริมทาง

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
เจอดีที่ริมทาง

ที่มาของรูป

https://pixabay.com/th/photos/%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%A7-%E0%B8%96%E0%B8%99%E0%B8%99-%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%89%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%9A%E0%B8%B4%E0%B8%99-%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%89-3916093/

เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้เป็นประสบการณ์ตรงของเพื่อนสนิทเรา เพิ่งเกิดเมื่อวันปีใหม่ที่ผ่านมา เรื่องมีอยู่ว่าเพื่อนเราชื่อ บีม กับ โต ทั้งคู่เป็นเพื่อนเรา โตมาด้วยกัน มาแยกย้ายตอนเรียนมหาลัย โดยทั้งคู่ยังคงเรียนที่ราชภัฏด้วยกันในตัวเมืองนครสวรรค์ ส่วนเรามาเรียนที่ ม.ราม แต่เราได้เจอกันบ่อย วันหยุดเทศกาล เราจะกลับบ้านและแวะไปมาหาสู่กันตลอด ปีใหม่ปีนี้ก็เช่นกัน เรากลับมาบ้านนอก ส่วนสองคนนั้น ยังไม่กลับเพราะต้องทำงานส่งอาจารย์เลยยังต้องนอนที่หอ โดยบีมบอกเราว่าจะกลับมาให้ทันตักบาตรเช้าวันที่ 1 ให้ได้ แล้วเราก็นัดกันไปเจอที่วัดประจำหมู่บ้านเลยทีเดียว

Advertisement

Advertisement

ในคืนวันที่ 31 ส่งท้ายปีเก่าเราจึงอยู่ฉลองกับที่บ้านของเราเอง บีม กับ โตยังคงอยู่ที่หอพักกัน และจะขี่มอเตอร์ไซด์กลับในเช้าตรู่ของวันที่ 1 ระยะทางจากปากน้ำโพธ์ มาบ้านเราขี่มอเตอร์ไซด์ ประมาณ 40 นาที ทั้งคู่จึงกะเวลาไว้ว่าจะออกจากหอพัก สัก ตี 5 เพื่อให้มาทันตักบาตรทันพอดี

ทั้งคู่เล่าว่า บีมเป็นคนขี่รถ โตเป็นคนซ้อนท้าย ขี่มาได้เกินครึ่งทาง ด้วยความหนาวเย็นของหน้าหนาวปีนี้ และ สองข้างทางเป็นทุ่งนา จึงทำให้อากาศเย็นมาก ทั้งคู่จึงปวดฉี่ เลยจอดแวะที่โรงสีร้างข้างทางเพื่อทำธุระ ระหว่างที่ทั้งคู่ทำธุระอยู่นั้น โตหันไปมองที่ถนน เห็นมีเด็กเดินอยู่คนเดียว จากรูปร่างน่าจะเป็นเด็กประถม เพราะยังตัวเล็กอยู่ โตจึงเรียกบีมให้หันไปดู และบอกว่า เด็กคนนี้มาเดินทำไมป่านนี้ เดี๋ยวรถก็ชนเอา เพราะถนนเส้นนี้ไม่มีไฟถนน อีกทั้งนานๆจะมีรถแล่นผ่านมาสักคัน จึงไม่ต้องสงสัยเลย คนที่ขับรถเส้นนี้จึงขับรถเร็วๆกันทั้งนั้น พอโตพูดอย่างนั้น บีมก็ว่าโตว่า มึงจะพูดทำไม เค้าไม่ให้ทัก โตได้ยินแบบนั้นจึงหัวเราะ และพูดว่ามึงจะกลัวอะไร นั่นมันเด็กออกมาช่วยพ่อช่วยแม่เลี้ยงวัวรึเปล่า

Advertisement

Advertisement

เมื่อทั้งคู่ทำธุระเสร็จ ก็ไปที่รถเตรียมเดินทางต่อ ก็เป็นเวลาเดียวกับที่เด็กคนนั้นเข้ามาใกล้ จึงทำให้ทั้งคู่เริ่มเห็นเค้าลาง ของหน้าเด็กคนนั้น ซึ่งทำให้ทั้งคู่ต้องร้องเสียงหลงกันเลย ที่เห็นตรงหน้านั้นคือ คนแก่ใบหน้าเหี่ยว ตาโปน ถ้าจะให้จินตนาการถึงได้ก็คงเหมือน กอลั่มในเรื่อง ลอร์ด ออฟ เดอะริง นั่นเอง บีมซึ่งเป็นคนขี่ในตอนแรก ถึงกับทำอะไรไม่ถูก โตเห็นเพื่อนเป็นแบบนี้ จึงสวมหัวใจสิงห์มาขี่เอง และเบียดบีมให้กระเถิบไปซ้อนแทน แล้วรีบบิดรถให้ออกจากตรงนั้นให้เร็วที่สุด โตเล่าว่าตอนที่โตขี่ผ่านร่างเล็กๆนั้น โตได้มองกระจกมองหลังร่างนั้นเหมือนจะนั่งลงกับพื้น และทำท่าเหมือนจะคลานตามรถของทั้งคู่

ทั้งคู่จึงขี่รถแบบไม่มีสติ อาศัยตรงอย่างเดียว ขี่ไปได้สักพัก เจอบ้านคนเปิดไฟ เพราะเวลานั้นผู้คนเริ่มตื่นกันแล้ว จึงแวะไปบ้านคนตรงนั้น มีผู้ชายออดมาแล้วถามทั้งคู่ว่ามาทำอะไร ทั้งคู่จึงเล่าเรื่องที่เกิดให้ฟัง คนที่นั่นจึงบอกว่าที่ทั้งคู่เห็น ไม่ใช่คน แต่เป็นผีที่คนแถวนั้นเลี้ยงไว้ เพื่อหลอกผู้คนที่สัญจรไปมา หากคนใดเกิดอุบัติเหตุ ก็จะลงไปปลดทรัพย์ หากผู้ใดตายด้วยก็จะสะกดวิญญานผู้นั้นเลี้ยงไว้ใช้งานต่อไปอีก

Advertisement

Advertisement

พอทั้งคู่มาถึงวัด ก็รีบไปหาพ่อเราแล้วเล่าเรื่องที่เกิดให้ฟัง แต่ที่เราทั้งตกใจและเหลือเชื่อกว่าคือ เราเพิ่งเห็นอาการที่เค้าเรียกว่าหัวโกล๋นก็คราวนี้ เพราะบีมเพื่อนเราผมล่วงเป็นกระจุกติดมือเลย พ่อเราจึงบอกทั้งคู่ว่า ไม่เป็นอะไรแล้ว และพาทั้งคู่ให้หลวงพ่อรดน้ำมนต์ และแผ่เมตตาให้ผีตนนั้น

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์