เทคนิคจดโน้ตน่ารักๆ ให้น่ากลับมาอ่าน

Hello everyone!!

เรายังเป็นนักเขียนมือใหม่อยู่นะคะ และยังเป็นนักเรียนอยู่เลย หากมีข้อผิดพลาดอะไรก็ขออภัยด้วยนะคะ

มีใครที่ชอบการจดโน้ตกันบ้างเอ่ย หรือใครที่มีปัญหาจดโน้ตแล้วพอกลับมาอ่านแล้วมีความคิดมาในหัวว่า "เอ๊ะ นี่เราจดอะไรของเรากันนะ" ไม่ต้องห่วงนะคะ เราเองก็เคยเป็นค่ะ เป็นบ่อยด้วยสิ ปัญหาเหล่านั้นก็มีทางแก้อยู่นะคะ เดี๋ยวเราจะมาแชร์เทคนิคการจดโน้ตน่ารักๆ น่ากลับมาอ่านกันนะคะ

เทคนิคที่เราจะมาเสนอคือเป็นเทคนิคส่วนตัวของเรานะคะ บางทีมันอาจจะไม่ได้เหมาะกับทุกคนนะคะเพราะสไตล์การจดของแต่ละคนก็ไม่ได้เหมือนกันซะทีเดียว แต่ทุกคนก็สามารถนำเทคนิคของเราไปปรับใช้กันได้นะคะ อันนี้คือไว้เป็นแนวทางเฉยๆค่ะ

เราขออนุญาตเขียนตัวอย่างโน้ตในแท็บเล็ตของเรานะคะ ช่วงนี้คือเราติดแท็บเล็ตอยู่เลย แต่ก็สามารถนำไปใช้กับการเขียนลงสมุดโน้ตได้เช่นกันค่ะ ถ้าถามว่าเราใช้แอปอะไรเขียน เราใช้แอป Samsung Notes นะคะ เราไปดูเทคนิคของเรากันเลยดีกว่า

อันนี้เป็นตัวอย่างสไตล์การเขียนหัวข้อที่เราชอบทำนะคะ เราสามารถเขียนหัวข้อภาษาไทยแนวนี้ได้เช่นเดียวกันค่ะ หากโน้ตที่เราจะเขียนมันมีหัวข้อที่แตกออกจากหัวข้อใหญ่อีกทีก็แนะนำให้เขียนหัวข้อคนละสไตล์ไปเลยค่ะ เราจะได้แยกออกนะคะว่าเราตั้งใจจะเจาะจงเนื้อหาที่หัวข้ออะไรกันแน่ จากรูปก็คือเราเซ็ตไว้ว่าหัวข้อหลักจะเขียนสไตล์บรรทัดแรกๆ ส่วนหัวข้อย่อยๆต่างๆก็จะลดขนาดลงมาค่ะ

เรามักจะจัดวางหัวข้อแบบนี้นะคะ คือเขียนหัวข้อหลักไว้กลางหน้ากระดาษเลย ส่วนหัวข้อย่อยจะเขียนชิดซ้ายไว้ สำหรับเราคิดว่าแบบนี้จะทำให้เราอ่านโน้ตได้ง่ายขึ้นค่ะ

3. เขียนเนื้อหาโน้ตแบบ Bullet Point เราเป็นคนที่ไม่ชอบการอ่านที่มาเป็น paragraph ยาวๆ เพราะเรารู้สึกว่าตัวหนังสือมันเยอะไปหมดเลยซึ่งทำให้เรารู้สึกหมดไฟในการอ่านไปเลยค่ะ และมันยังทำให้เรารู้สึกตาลายด้วยพออ่านไปนานๆค่ะ เราก็เลยต้องจดโน้ตที่มีการแยกเนื้อหาจาก paragraph ยาวๆมาเป็นโน้ตที่อ่านได้ง่ายๆ ตาไม่ลาย และสามารถกลับมาอ่านทำความเข้าใจใหม่ได้ง่ายค่ะ

อย่าถือสาลายมือของเราเลยนะคะ แหะๆ

การจดโน้ตแบบ Bullet Point จะเป็นการจดโน้ตเป็นข้อๆ ย่อยเนื้อหาออกมาเฉพาะส่วนสำคัญ ซึ่งสำหรับเราคือเป็นวิธีการจดที่ง่ายที่สุดแล้วค่ะ และรู้สึกว่ามันอ่านง่ายดูไม่เยอะ(หรือเปล่านะ)

เวลาเราจดเนื้อหาในห้องเรียนแล้วครูพูดไวมากแล้วเรากลัวจดไม่ทัน เราชอบจดเป็นปากกาสีเดียวไปก่อนเพื่อความรวดเร็ว หากมีข้อความสำคัญหรือคำสำคัญก็จะใช้ปากกาเน้นข้อความมาขีดทับข้อความหรือคำๆนั้นเอาค่ะ แต่ปกติเราจะชอบจดเป็นปากกาสีถ้าเรามีเวลามากพอ

4. จดแบบมีการเลือกใช้สีปากกาที่มีความเข้ากัน ถ้าเราอยากจดเป็นแบบโน้ตที่มีสีสัน เราแนะนำว่าเราควรเลือกใช้เป็นสีโทนเดียวกัน หรือไม่ก็เป็นสีที่ดูเข้ากัน มันจะทำให้โน้ตของเราน่าอ่านมากเลยค่ะ

นี่เป็นตัวอย่างเซ็ตสีที่เราจดนะคะ เราชอบเลือกใช้สีประมาณแนวพวกนี้ในการจดโน้ตแบบแยกสีปากกาค่ะ จะเห็นได้ว่าเรามักเลือกใช้ 3 สีในการจดโน้ตแต่ละโน้ต แต่ละสีก็จะมีความเข้ากันหน่อย เราสามารถเลือกใช้สีอื่นๆได้นอกเหนือจากนี้ไปได้อีกนะคะ แต่เราแนะนำว่าเราไม่ควรใช้หลากสีเกินไป เพราะมันจะทำให้เราตาลายมากๆเลยค่ะ

5. ตกแต่งโน้ตเล็กๆน้อยๆ การตกแต่งโน้ตจะทำให้เราไม่ได้โฟกัสกับการเขียนตัวหนังสือมากเกินไปค่ะ เหมือนเป็นการพักสมองจากเนื้อหาโน้ตไปบ้าง และจะทำให้โน้ตของเราดูน่ารักตะมุตะมิขึ้นนะคะ

เวลาเราจดโน้ตบนแท็บเล็ต เราจะชอบตกแต่งโดยการแปะสติ๊กเกอร์เอานะคะ มันง่ายดี ซึ่งเราก็สามารถหาโหลดเอามาตกแต่งเองได้เลยค่ะ ส่วนการตกแต่งโน้ตในสมุดเรามักจะวาดรูปเพิ่มเอาค่ะ แต่ทุกคนก็สามารถตกแต่งได้ตามใจชอบเลยนะคะ

6. ร่างโน้ตด้วยดินสอก่อนลงปากกา วิธีนี้เป็นเทคนิคจดโน้ตในสมุดอย่างหนึ่งที่เราไม่ค่อยได้ทำบ่อยนักแต่ก็เป็นวิธีหนึ่งที่ดีอยู่เหมือนกัน บางครั้งเราก็ใช้วิธีนี้จดเนื้อหาในห้องเรียนเวลาครูพูดแบบติดสปีดมากๆแล้วเรากลัวจดไม่ทันเอา แต่ก็ให้เวลาเราจัดการสมุดก่อนที่จะเรียกเก็บสมุดไปตรวจ เราจะใช้วิธีก็ต่อเมื่อเราต้องรีบจดโน้ตมากๆแล้วไม่มีเวลามาบรรจงลายมือจริงๆ ก็คือพอหลังจากเราจดเนื้อหาต่างๆด้วยดินสอเสร็จแล้วก็เขียนทับด้วยปากกาแบบบรรจงลายมือตามปกติ หลังจากนั้นก็ลบรอยดินสอออกให้สะอาดก็จะได้โน้ตที่ดูดีออกมาได้แล้วค่ะ

และนี่ก็คือเทคนิคทั้งหมดในการจดโน้ตของเรานะคะ แต่ทุกคนก็ไม่จำเป็นต้องทำตามวิธีของเราเป๊ะๆก็ได้นะคะ สามารถนำไปปรับเปลี่ยนตามสไตล์การจดของตัวเองได้เลยค่ะ

รูปภาพที่เรานำเอามาใส่ทั้งหมดเป็นภาพแคปหน้าจอแท็บเล็ตของเราเองนะคะ

================

ตามติดข่าวสารดีๆ เทรนด์โดนๆ และอัปเดตหนังพร้อมกับซีรี่ส์สุดปัง ของคุณได้แล้วที่

แอปทรูไอดีคลิกเลย >> TrueID App << ฟรี