อื่นๆ

เปรียบเทียบให้เห็น Apple Airpods รุ่นไหนคุ้มกับเราที่สุด

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
เปรียบเทียบให้เห็น Apple Airpods รุ่นไหนคุ้มกับเราที่สุด

จบไปแล้วกับงาน Apple Event Unleash ซึ่งภายในงานนี้ก็ได้ทำการเปิดตัว Macbook Pro , Homepods mini , Airpods 3rd Generation และแอพที่ผลิตโดย Apple  ใครแอบเล็งอะไรไว้บ้างคะ ? ส่วนตัวนักเขียนนี่แอบสนใจ Airpods อยู่ ซึ่ง Airpods ในคลังของ Apple นี่ มีตั้งหลายรุ่น แต่ละรุ่นก็แตกต่างกันออกไป ทำให้นักเขียนตัดสินใจไม่ได้เลยว่าจะเอารุ่นไหนดี เมื่อได้ทำการหาข้อมูลยิ่งสับสนเลยค่ะ แถมข้อมูลก็เยอะแยะไปหมด และนักเขียนก็เชื่อว่าต้องมีใครหลายคนสับสนอยู่แน่ ๆ วันนี้นักเขียนก็ได้ทำการรวบรวมข้อมูลและจะมาสรุปว่า รุ่นไหนดีอย่างไร

ในการสรุปครั้งนี้ นักเขียนจะจำแนกง่าย ๆ เหมาะสำหรับมือใหม่มากก และคนที่ไม่ค่อยรู้เรื่องเทคโนโลยีสักเท่าไรแบบตัวนักเขียน แต่นักเขียนจะเน้นในเรื่องของการควบคุมแบตเตอรี่ในการใช้งานหรือการชาร์จในเคส น้ำหนักของเคสเมื่อเวลาพกพา จุดเด่น และที่สำคัญที่สุด ราคานั้นเอง

Advertisement

Advertisement

ก่อนอื่นเราต้องรู้ก่อนว่าทาง Apple ได้ผลิต Airpods มาทั้งหมด 5 รุ่น ประกอบด้วย Airpods , Airpods รุ่น 2 , Airpods รุ่น 3 , Airpods Pro และ Airpods Max นักเขียนจะเปรียบเทียบให้ดูแค่ รุ่น 2 , รุ่น 3 และ รุ่น Pro ค่ะ


1 . Airpods 2nd Generation

เรียกว่าเป็นรุ่นอัปเกรดของ Airpods รุ่นแรกที่เปิดตัวในปี 2016 แต่ต่อมาในปี 2019 ทาง Apple ได้เปิดตัว Airpods รุ่นนี้ โดยใช้ชื่อว่า Airpods 2nd Generation โดยมีคำเคลมที่ว่า ' ไม่มีสาย ไม่มีความยุ่งยาก มีแต่ความหัศจรรย์ล้วน ๆ '

2nd

จุดเด่น : สลับไปมากับอุปกรณ์ได้เร็วขึ้น 2 เท่า เชื่อมต่อรับสายโทรศัพท์เร็วขึ้น 1.5 เท่า ลดอัตราความหน่วงขณะเล่นเกมได้ถึง 30%

การควบคุม : แตะ 2 ครั้ง เพื่อข้ามเพลงถัดไปหรือรับสายโทรศัพท์

พูดว่า ' หวัดดี Siri ' เพื่อทำอย่างอื่นเช่น โทรออก เล่นเพลง

Advertisement

Advertisement

แบตเตอรี่   :Airpods อย่างเดียว ฟังได้นานสูงสุด 5 ชั่วโมงและคุยโทรศัพท์ได้นานสูงสุด 3 ชั่วโมง /การชาร์จหนึ่งครั้ง Airpods พร้อมเคส ฟังได้นานสูงสุด 24 ชม. คุยโทรศัพท์ได้นานสูงสุด 18 ชม. แต่ถ้าใครต้องการใช้งานแค่ชาร์จ 15 นาที ก็ฟังได้นานสูงสุด 3 ชม.หรือคุย โทรศัพท์ได้นานสูงสุด 2 ชม.

น้ำหนักของเคส : สูง 53.5 มม. กว้าง 44.3 มม. หนัก 38.2 กรัม หนา 21.3 มม.

ขนาดราคา 4,490 บาท (สลักข้อความได้ฟรี)

สำหรับรุ่นนี้นักเขียนคิดว่าเหมาะสำหรับคนที่ไม่ต้องการฟังก์ชันอะไรเยอะแยะ หรือคนที่ต้องการไว้ใช้สำหรับดูหนัง ฟังเพลงหรือนักศึกษาที่ต้องการหาหูฟังไร้สายเพื่อเรียนออนไลน์ แถมราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับสามรุ่นเหมาะสมสำหรับคนที่ต้องการหาหูฟังไร้สายสักตัว

2 . Airpods 3rd Generation

ใหม่ล่าสุดเพิ่งเปิดตัวไปในงาน Apple Event Unleash 2021 นี่เองทุกคน ทาง Apple เขาได้อัปเดตจากรุ่นก่อนโดยการปรับระบบเสียง ทนน้ำทนเหงื่อ และทาง Apple เองก็เคลมไว้ว่า ' ใหม่หมด ระบบตามตำแหน่ง '

Advertisement

Advertisement

3

จุดเด่น : ระบบ EQ ปรับเสียงให้เข้ากับหูของผู้ใช้งานแต่ละคน ลดเสียงรบกวนจากลมขณะคุยโทรศัพท์ ระบบเสียงแบบไดนามิกที่ติดตามตำแหน่งของหัวผู้ใช้งาน ไม่ว่าจะหันไปทางไหน ทนน้ำทนเหงื่อฟังเพลงออกกำลังกายไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ใช้งานได้กับที่ชาร์จ Magsafe

การควบคุม : บีบ 1 ครั้งเพื่อเล่น/หยุด และรับสายโทรศัพท์ บีบ 2 ครั้ง เพื่อข้ามไปข้างหน้า บีบ 3 ครั้งเพื่อข้ามไปข้างหลัง บีบค้างเพื่อเรียก Siri พูดว่า ' หวัดดี Siri '

เพื่อทำอย่างอื่นเช่น โทรออก เล่นเพลง

แบตเตอรี่   : Airpods อย่างเดียว ฟังได้นานสูงสุด 6 ชั่วโมง ( 5 ชม. ใช้ระบบตามตำแหน่ง) และคุยโทรศัพท์ได้นานสูงสุด 4 ชั่วโมง /การชาร์จหนึ่งครั้ง

Airpods พร้อมเคส Magsafe ฟังได้นานสูงสุด 30 ชม. คุยโทรศัพท์ได้นานสูงสุด 20 ชม. แต่ถ้าใครต้องการใช้งานเลยแต่แบตหมด แค่ใส่เคสชาร์จ 5 นาที ก็ฟังได้นานสูงสุด 1 ชม.หรือคุย  โทรศัพท์ได้นานสูงสุด 1 ชม.

น้ำหนักของเคส : สูง 46.40 มม. กว้าง 54.40 มม. หนัก 37.91 กรัม หนา 21.38 มม.

ขนาด 3

ราคา 6,790 บาท

ถ้าใครต้องการฟังก์ชันเพิ่มขึ้นมาหน่อยตัวนี้น่าจะตอบโจทย์ ไม่มีเสียงลมมารบกวน ดูหนัง ฟังเพลง คุยโทรศัพท์ได้ตื่นตาตื่นใจ และยังเหมาะกับคนที่ชอบฟังเพลงขณะออกกำลังกายเพราะทนน้ำทนเหงื่อ อีกทั้งยังมาพร้อมกับเคสชาร์จ Magsafe ไม่ต้องกลัวในเรื่องของแบตหมดระหว่างวัน แถมเวลาควบคุมก็สามารควบคุมที่หูฟังได้ในระดับหนึ่ง

3 . Airpods Pro

โปรสมชื่อ เพราะทาง Apple ได้ใช้เทคโนโลยี ตัดเสียงรบกวนภายนอกและยังมีโหมดที่เปิดไว้รับฟังเสียงข้างนอกอีก ดังคำเคลมที่ว่า' สิ่งเดียวที่สัมผัสได้ก็คือ เสียง '

pro

จุดเด่น : ตัดเสียงระบบกวนแบบ Active ระบบ EQ ปรับเสียงให้เข้ากับหูของผู้ใช้งานแต่ละคน ระบบเสียงแบบไดนามิกที่ติดตามตำแหน่งของหัวผู้ใช้งาน ระบบระบายอากาศเพื่อรักษาแรงดันให้เท่ากัน ใช้งานได้กับที่ชาร์จ Magsafe ทนน้ำและทนเหงื่อ มีโหมดฟังเสียงภายนอก

การควบคุม : บีบ 1 ครั้งเพื่อเล่น/หยุด และรับสายโทรศัพท์ บีบ 2 ครั้ง เพื่อข้ามไปข้างหน้า บีบ 3 ครั้งเพื่อข้ามไปข้างหลัง บีบค้างเพื่อสลับระหว่างการตัดเสียงรบกวนและโหมดฟังเสียงภายนอก เรียก Siri พูดว่า ' หวัดดี Siri 'เพื่อทำอย่างอื่นเช่น โทรออก เล่นเพลง

แบตเตอรี่   : Airpods อย่างเดียว ฟังได้นานสูงสุด 4.5 ชั่วโมง ( 5 ชม. สำหรับการเปิดใช้ระบบตัดเสียงรบกวนและฟังเสียงภายนอก) และคุยโทรศัพท์ได้นานสูงสุด 3.5 ชั่วโมง /การชาร์จหนึ่งครั้ง

Airpods พร้อมเคส Magsafe ฟังได้นานสูงสุด 24 ชม. คุยโทรศัพท์ได้นานสูงสุด 18 ชม. แต่ถ้าใครต้องการใช้งานเลยแต่แบตหมด แค่ใส่เคสชาร์จ 5 นาที ก็ฟังได้นานสูงสุด 1 ชม.หรือคุย                      โทรศัพท์ได้นานสูงสุด 1 ชม.

น้ำหนักของเคส : สูง 45.2 มม. กว้าง 60.6 มม. หนัก 21.7 กรัม หนา 45.6 มม.

pro

ราคา 8,992 บาท

ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า Pro จัดเต็มในเรื่องของฟังก์ชันเป็นที่สุด ดูจากจุดเด่นแล้ว นักเขียนว่าน่าจะได้รับเสียงเหมือนเสียงในโรงภาพยนตร์แน่ ๆ  ขนาดของการพกพานักเขียนคิดว่าน่าจะหนักอยู่สำหรับตัวเคส เหมาะสำหรับคนที่ต้องการดูหนัง ฟังเพลงให้ได้อารมณ์เดียวกับในโรงภาพยนตร์ อันแน่นด้วยฟังก์ชันขนาดนี้ เรื่องของแบตเตอรี่ ถ้าไม่มีเคสชาร์จ ก็อยู่ได้ไม่นานเท่ากับ Airpods รุ่นที่ 3 แต่ถ้ามีเคสชาร์จด้วย ชาร์จแค่ไม่กี่นาทีก็อยู่ได้ 1 ชม.แล้ว

สรุป

รวม

หลังจากอ่านรายละเอียดและลูกเล่นทั้งสามรุ่นแล้ว นักเขียนมองว่าสำหรับใครอยากได้แค่หูฟังไร้สายแนะนำว่ารุ่น 2 บวกกับราคาที่ไม่แพง แค่ต้องการฟังเพลง ดูหนัง เรียนออนไลน์แบบไม่อยากให้สายหูฟังมารบกวน แต่ถ้าเราเพิ่มเงินขึ้นมา 2,300 บาท เราก็จะได้หูฟังรุ่น 3 พร้อมกับฟังก์ชันระบบเสียงดียิ่งขึ้น มีระบบเสียงที่ไปรอบทิศทางแต่ก็ยังได้ยินเสียงโลกภายนอก แถมเหมาะกับคนที่ชอบออกกำลังกายไปฟังเพลงไปด้วยเพราะรุ่นนี้เขาทนน้ำทนเหงื่อ และการควบคุมสามารถปรับตรงหูฟังได้เลยไม่ต้องไปปรับในโทรศัพท์อีก แต่ถ้าใครสนใจระดับเทพไม่อยากให้เสียงภายนอกมารบกวนอยากได้อารมณ์แบบโลกส่วนตัว ดูหนังในโรงภาพยนตร์ รุ่น Pro ตอบโจทย์สุดค่ะ รุ่น Pro และ รุ่น 3 มีความคล้ายคลึงกันอยู่แล้ว รุ่นโปรเพิ่มในเรื่องของการตัดเสียงรบกวนภายนอก สำหรับคนที่ตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเอารุ่นโปรหรือรุ่น 3 ให้มองว่าเพิ่มเงินอีก 2,202 บาทเพื่อความเป็นส่วนตัวยิ่งขึ้น ส่วนเรื่องแบตเตอรี่นักเขียนมองว่ามันไม่ได้ต่างกันมาก ยังไงเราก็พกเคสชาร์จอยู่แล้ว

ไม่ว่าจะเลือกรุ่นไหน ก่อนเลือกซื้อลองสำรวจความต้องการของตัวเองก่อนนะคะ ดูว่าเราใช้งานในระดับไหน จะได้คุ้มค่ากับเงินที่เสียไปนะคะ


เครดิต

รูปปกและภาพประกอบโดยนักเขียนและ Apple

แหล่งอ้างอิงข้อมูล : Airpods 2nd Generation / Airpods 3rd Generation / Airpods Pro จาก Apple

อัปเดตบทความรีวิวโปรดักต์ใหม่ ๆ สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID ฟรี !

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์