เพลง(สากล)จากหนังดี ที่ให้เราได้ทบทวนตัวเอง และก้าวต่อไป

เพลงจากหนังที่ให้เราได้ทบทวนตัวเอง และก้าวต่อไป

ช่วงชีวิตของเรามักจะมีช่วงที่เราต้องตัดสินใจ ซึ่งอาจเป็นการตัดสินใจที่จะเปลี่ยนชีวิตครั้งใหญ่ ไม่ว่าจะย้ายบ้าน เปลี่ยนงาน ขอคบหรือขอเลิกกับคนรัก หรือเรื่องอะไรก็ตามที่เพื่อนๆ รู้สึกว่าหนักใจในการตัดสินใจ มันหนักอึ้งเสียจนแทบไม่อยากตัดสินใจเลย บางคนอาจหนีการตัดสินใจโดยไม่ตัดสินใจ หรือบางคนอาจชะลอการตัดสินใจออกไป ถ้าเพื่อนๆ อยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ มาลองทบทวนกันสักหน่อยดีกว่า ว่าจะตัดสินใจอย่างไรดี

บางทีการคิดวนๆ ในหัวอาจไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุด ถ้ามันไม่ได้นำมาซึ่งคำตอบหรือข้อสรุป เราอาจต้องทบทวนกับตัวเองจากมุมมองอื่นบ้าง ทบทวนถึงตัวตนของเรา เราต้องการอะไร ถ้าเราเลือกทางนั้น มันจะดีกับเราที่สุดจริงหรือ หรือทางนั้นคือทางที่เราอยากไปเพราะเหตุผลอะไร ผมรวบรวมเพลงเหล่านี้มาให้เพื่อนๆ ได้มีเวลาทบทวนตัวเอง และหวังว่าจะช่วยผ่อนคลายความกังวลต่างๆ ลงไปได้บ้าง

Sing Street - Drive It Like You Stole It

เพลงจากเรื่อง รักใครให้ร้องเพลงรัก อีกเพลงหนึ่ง เพลงนี้จะมีจังหวะขึ้นมาสักหน่อย แต่ใจความของเนื้อเพลงจะให้แรงบันดาลใจเช่นเดิม โดยเพลงจะพูดถึงการออกไปใช้ชีวิตอย่างที่เราต้องการ เหมือนคำพูดที่ว่า Drive it like you stole it มีความหมายว่าใช้ชีวิตโดยที่ไม่ต้องกลัวเสียดาย และอย่าลืมไปให้สุด ให้เต็มที่ แต่เพลงก็ไม่ได้บอกว่าทุกอย่างจะสวยงาม เราอาจจะเจอเรื่องเจ็บปวดระหว่างทางที่เราไปบ้าง แต่สิ่งสำคัญคือเราต้องไปต่อ

ชีวิตของเพื่อนๆ เพื่อนๆ เลือกเองได้เลยว่าจะไปทางไหน ซ้ายหรือขวา ลงอุโมงค์หรือขึ้นสะพาน โลกนี้มีทางให้ไปมากมาย แน่นอนว่าระหว่างที่ไปก็จะมีเสียงคนรอบข้างตะโกนมาบ้าง เราก็ฟังหูไว้หู เพราะอย่างไร สุดท้ายการตัดสินใจก็ขึ้นอยู่กับเรา เราเป็นคนเลือกอนาคตของเราเอง ถ้าเราทำพลาดหรือล้มลง เราก็ต้องยืดอกรับมันไว้ และก้าวต่อไป แต่ก็อย่าลืมว่าเราไม่จำเป็นต้องขับตรงไปเสมอไป เราเลี้ยว หยุดพัก หรือแม้แต่กลับรถได้เสมอ ที่สำคัญคือเราต้องรู้ว่าเราอยากไปทางไหน เพราะอะไร ลองเดินหน้าไปเผชิญกับมันดูสักตั้ง ที่ได้มาจะนับเป็นประสบการณ์

Keira Knightley - A Step You Can’t Take Back

เพลงนี้มาจากภาพยนตร์เรื่อง Begin Again หรือชื่อไทยว่า เพราะรัก คือเพลงรัก โดยหนังจะเล่าถึงหญิงสาวนักดนตรีที่มีความสามารถและมีแมวมองมาชวนไปทำเพลงด้วย และระหว่างนั้นก็มีเรื่องราวมากมายคอยกวนใจ เช่น แฟนที่นอกใจ เงิน ชีวิตประจำวัน โดยทั้งคู่จะค่อนข้างรู้สึกหลงทาง เมื่อพวกเขาเจอกัน ก็เหมือนได้เจอสิ่งที่จะนำพาเข้าสู่หนทางอีกครั้ง โดยรวมหนังเรื่องนี้เป็นหนังที่อบอุ่นหัวใจ และเพลงรักจะค่อยๆ เยียวยาความรู้สึกข้างในที่เรามีไปพร้อมๆ กับหนัง หนังเรื่องนี้มีเพลงดังอย่าง Lost Stars ที่บอกเล่าถึงการหลงทางแบบชัดเจน และตัวเพลงเองก็ดังมากทีเดียว

สำหรับเพลง A Step You Can’t Take Back จะเหมือนกับก้าวที่ไม่อาจหวนกลับ เรานำพาโลกทั้งใบของเรามาด้วย เพื่อจะเริ่มต้นใหม่ ออกจากเรื่องเดิมๆ หรือกระทั่งจบชีวิต แต่เพลงก็เอาคำถามสั้นๆ ตบหน้าเรา

"Are you ready for the last act?

To take a step you can’t take back?"

มันเป็นคำถามที่ปักเข้าไปกลางอกเลยว่า "ถามตัวเองดีหรือยังที่ตัดสินใจจะทำอย่างนั้นน่ะ ถ้าทำไปแล้ว มันย้อนกลับคืนมาไม่ได้แล้วนะ"

*แถมทิ้งท้ายว่าฉากเปิดตัวเพลงนี้ในหนังคือฉากที่ตราตรึงใจผมสุดๆ

Owl City - To The Sky

มาแนวสดใสกันบ้างดีกว่า หลังจากน้ำตารื้นกันไปแล้ว รอบนี้ Owl City ได้มาร้องเพลงฟีลกู๊ดให้กับหนังที่เกี่ยวกับ Owl (นกฮูก) กับภาพยนตร์ Legend of the Guardians : The Owls of Ga'Hoole หรือชื่อไทยว่า มหาตำนานวีรบุรุษองครักษ์ นกฮูกผู้พิทักษ์แห่งกาฮูล โดยเรื่องนี้จะเป็นเรื่องราวของความแค้นของนกฮูกรุ่นพ่อกับความกลัว ความเป็นผู้นำ และอิสรภาพของรุ่นลูก ผมอยากจะโฟกัสกับความกลัวของรุ่นลูก โดยในหนังจะทำภาพของความกลัวได้ชัดเจนมาก ทำให้ลุ้นไปด้วยเลย ทั้งการกลัวสัตว์ที่ใหญ่กว่า กลัวอำนาจของนกฮูกตัวอื่น พระเอกของเราจะต้องเผชิญหน้ากับความกลัวด้วยความกล้าหาญที่ต้องปลุกมันให้ตื่น

มาพูดถึงเพลงกันบ้าง เพลงจะเน้นที่ความอิสระในการทำตามฝัน หลายคนจะชอบเปรียบว่านกเป็นตัวแทนของอิสรภาพที่บินไปไหนก็ได้ เพลงนี้ก็เช่นกัน เราติดอยู่ในสภาพแวดล้อมที่กดทับเราไว้ จนลืมเลือนไปถึงความฝันที่จะเป็นอิสระ หากลองเงยหน้าขึ้นไป จะเห็นได้ถึงความอิสระของฟ้าสีคราม และนกที่บินตามแรงลม เราต้องอย่าลืมความรู้สึกนี้ และพยายามสยายปีกให้ได้ เพื่อที่เราจะได้บินไปได้ตามใจชอบ ถึงจะเจอฝนฟ้าคะนองบ้าง แต่เราก็ได้ใชีปีกของเราเองบินไปในที่ที่เราอยากไป พร้อมความฝันที่พาติดตัวมาด้วย

A world of your own - Timothée Chalamet

มาถึงภาพยนตร์ที่เพิ่งฉายไปเมื่อปลายปีที่แล้วกันบ้าง Wonka นั่นเอง ภาพยนตร์เรื่องนี้เปี่ยมด้วยความฝัน ความอบอุ่น และความเป็นเด็กหรือความสร้างสรรค์ที่หลายคนอาจลืมไป หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่ภาพสวย ลื่นไหลมาก มีความมิวสิคัลแบบลงตัว แถมเพิ่มความอบอุ่นใจให้เราได้อย่างดี ถ้าใครได้ชมเพลงนี้ในหนังจะยิ่งชอบแน่นอนครับ

เพลงจะเริ่มด้วยการให้เราหลับตา นึกสิ่งที่เราปรารถนา จากนั้นให้ลืมตาขึ้นดูโลกที่คุณปรารถนาด้วยตัวเอง โลกที่เป็นเหมือนที่หลบภัย ที่เพื่อนๆ มีอิสระได้ดั่งใจ และนึกภาพตัวเราสมัยเด็กวิ่งไปทั่วดินแดนนั้นอย่างร่าเริง แล้วไม่ว่าชีวิตจริงจะพาคุณไปไกลแค่ไหน ไปพบเจออะไร ดีหรือร้ายเพียงใด เพื่อนๆ ก็จะมีโลกใบนี้ ที่มีตัวเราเองกับเด็กน้อยในอดีตคอยสะท้อนภาพเราเสมอ จากนั้นให้เราออกไปเปิดรับสิ่งที่เราไม่รู้จักและสนุกกับการผจญภัยในโลกภายนอกอีกครั้ง

เพลงแต่ละเพลงจะมีความหมายที่ต่างกันไป บางทีก็ขึ้นอยู่กับคนฟังด้วยว่าอยากจะให้เพลงมีความหมายว่าอย่างไร แต่เพลงที่ผมรวบรวมมานี้ หลักๆ แล้วอยากให้เพื่อนๆ ได้ทบทวนตัวเอง ได้หวนนึกถึงตัวเราเมื่อก่อน หรือแม้กระทั่งตอนนี้ว่าเราเป็นยังไงบ้างแล้ว และเราอยากเป็นไปอย่างไรต่อในอนาคต ให้เพลงพวกนี้ปลอบโยนหัวใจเพื่อนๆ นะครับ

ส่วนตัวผมอยากจะสนับสนุนคนที่กำลังสับสนให้ก้าวไปข้างหน้าด้วยความชอบของตัวเอง เพราะถ้าเราได้ทำสิ่งที่ชอบ เราก็คงจะรู้สึกสนุกกับมัน และอยากตื่นมาเจอมันทุกวัน

สุดท้ายนี้อยากให้ทุกคนอย่าลืมความสนุกของการใช้ชีวิต ขอให้สนุกกับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ก็ยังดี

"Are you ready for the last act?
To take a step you can’t take back?"

ผู้สนับสนุนอย่างไม่เป็นทางการ: เครื่องดื่มชูกำลังยี่ห้อแรงเด้อ ดื่มได้ดื่มดี ดื่มทีแรงเด้อ

เครดิตวิดีโอและภาพ

• วิดีโอที่ 1 จาก Youtube: SingStreetVEVO
• วิดีโอที่ 2 จาก Youtube: SingStreetVEVO
• วิดีโอที่ 3 จาก Youtube: Keira Knightley - Topic
• วิดีโอที่ 4 จาก Youtube: Owl City
• วิดีโอที่ 5 จาก Youtube: WaterTower Music
• ภาพหน้าปกจาก Facebook/Twitter(X)
• ภาพที่ 1 จาก Adam Levine
• ภาพที่ 2 จาก Sing Street
• ภาพที่ 3 จาก Keira Knightley Fans
• ภาพที่ 4 จาก Owl City
• ภาพที่ 5 จาก Timothée Chalame

จะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !