อื่นๆ

เมืองซ่อนกล : คนจนเมือง

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
เมืองซ่อนกล : คนจนเมือง

ในขณะที่โลกยังคงหมุนไปแบบวันต่อวัน เมืองใหญ่ ๆ ก็ต่างแข่งขันกันพัฒนาทั้งความสะดวกสบายที่จะตอบสนองสังคม เทคโนโลยี และนวัตกรรม นั่นเป็นเสมือนแรงดึงดูดให้ผู้คนต่างหลั่งไหลกันเข้ามา ไม่มีใครปฏิเสธความเจริญก้าวหน้า หากแต่ในสังคมรวมศูนย์นั้น ในมุมกลับกันก็ย่อมเป็นศูนย์รวมของความแตกต่างด้วย และเมื่อทุกอย่างรวมกันอยู่เพียงที่ใดที่เดียวโดยไม่สามารถกระจายตัวออกไปยังที่อื่นได้ความแออัดก็ย่อมเกิดขึ้นเป็นเงาตามตัว หากเศรษฐกิจรวมศูนย์อยู่ที่นี่ การจ้างงานอยู่ที่นี่ รายได้อยู่ที่นี่ คนก็ย่อมอยากอยู่ที่นี่ด้วยเช่นกัน

4ขอบคุณภาพประกอบจาก pxhere

กรุงเทพมหานครเป็นเมืองใหญ่ ค่าครองชีพสูง ทุกคนต่างก็มุ่งหน้าเข้าสู่กรุงเทพฯ และพื้นที่ของเมืองหลวงก็ไม่ได้มีไว้ให้คนที่มีฐานะอาศัยอยู่เท่านั้น มันถูกแบ่งออกเป็นพื้นที่ทับซ้อนทางเศรษฐกิจด้วย หลายคนเข้ามาเสี่ยงโชคชะตา เข้ามาหางานทำ และทำงานได้รายได้เพียงน้อยนิด ก็ต้องหาที่อยู่อาศัยตามขนาดของรายได้ หลังคอนโดหรูหรา เราอาจพบเห็นชุมชนแออัด ทางเดินหลังหมู่บ้านหลังใหญ่ เราอาจพบเห็น “สลัม” หรือแหล่งเสื่อมโทรมที่มีบ้านหลังเล็ก ๆ เบียดเสียดกันอยู่ แต่นี่คือโลกของความเป็นจริง เมืองที่จะปฎิเสธความ “เป็นอื่น” ไม่ได้ กับการมีอยู่จริงของ “คนจนเมือง”

Advertisement

Advertisement

8ขอบคุณภาพประกอบจาก pxhere

เมื่อการเติบโตทางเศรษฐกิจมุ่งพัฒนาเฉพาะสังคมเมือง โดยทิ้งสังคมชนบทไว้เบื้องหลัง เมื่อสังคมชนบทขาดรายได้เลี้ยงชีพ ผู้คนก็ต่างทิ้งที่อยู่อาศัยมุ่งหน้าเข้ามาหาแหล่งรายได้เป็นธรรมดา คอนโดหรู ๆ ห้างสรรพสินค้าโอ่อ่าราคาแพง ถูกสร้างโดยแรงงานคนจนทั้งนั้น แต่คนจนเมืองเหล่านี้กลับไม่มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ซ้ำยังตกอยู่ในสถานภาพผู้บุกรุก พร้อมจะถูกไล่ที่ทุกเมื่อ สังคมเมืองไม่สามารถแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำนี้ได้ หากไม่ยกระดับปัญหาขึ้นมาถกกันอย่างจริงจัง และเลิกปฏิเสธปัญหาการมีอยู่จริงของคนจนเมืองเสียที ศักดิ์ศรีของความเป็นคนของทุกคนบนโลกย่อมเท่าเทียมกัน สิทธิในการเข้าถึงสิทธิ์ต่าง ๆ ก็ย่อมต้องเท่าเทียมกัน ลดระดับการทับซ้อนในทางรายได้ นโยบายการสร้างคนสร้างงาน การเข้าถึงแหล่งงานสาขาอาชีพ อำนาจการต่อรองในสังคม ฯลฯ สิ่งเหลานี้จะช่วยลดความเหลื่อมล้ำได้ในระยะยาว 2ขอบคุณภาพประกอบจาก pxhere

Advertisement

Advertisement

เราจะเห็นได้จากชุมชมเก่าป้อมมหากาฬที่ถูกรื้อไล่ที่ ทั้ง ๆ ที่สร้างบ้านครอบครองอาศัยอยู่ตรงนั้นมาเป็นระยะเวลายาวนาน สุดท้ายรัฐก็เลือกผลักภาระให้คนจน เลือกที่จะลบประวัติศาสตร์อันยาวนานเพียงเพื่อพื้นที่ทับซ้อนทางเศรษฐกิจจากสังคมทุนใหม่ ทั้ง ๆ ที่สามารถพัฒนาทางออกร่วมกันได้ รักษาคุณค่าทางประวัติศาสตร์ร่วมกันได้ นี่เป็นหนึ่งตัวอย่างของการตีมูลค่าที่ไม่เหมือนกัน การมีส่วนร่วมในการออกความเห็นของคนในพื้นที่กลายเป็นเพียงคำกล่าวอ้างลอย ๆ จากภาครัฐ

7

ขอบคุณภาพประกอบจาก pxhere

หากปัญหาความเหลื่อมล้ำยังถูกซุกไว้ใต้พรมของชนชั้น และความจริงถูกพูดถึงเพียงด้านเดียว รวมทั้งการพยายามปฏิเสธการมีอยู่จริงของคนจนในเมืองใหญ่ เราก็ต้องถามตัวเองกันดูว่า เมืองที่น่าอยู่อาศัย หรือเมืองที่นักท่องเที่ยวอยากมาเที่ยว มีหน้าตาอย่างไร? มีตึกหรูโอ่อ่า ระบบขนส่งสาธารณะที่รวดเร็วสะดวกสบาย แต่กลายเป็นเมืองที่ไร้ชีวิต กลายเป็นเมืองที่ไร้หัวใจ แล้วเราจะมีเมืองที่น่าอยู่แบบนี้ไปเพื่ออะไรกัน?

Advertisement

Advertisement

---------------------

ภาพปก Graphic โดย iSSANDY

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์