อื่นๆ

เมืองยะลายามค่ำคืน

475
คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
เมืองยะลายามค่ำคืน

ถ่ายโดยผู้เขียน ก่อนอื่นก็ขอกราบสวัสดีท่านผู้อ่านทุกท่านนะครับ  บทความนี้เป็นบทความแรกของผม  ต้องขอออกตัวก่อนเลยว่าไม่ใช่นักเขียนอาชีพ  ส่วนตัวก็เป็นคนชอบอ่านเรื่องราวต่างๆ ในหนังสือบ้าง ตามเว็บไซต์บ้าง ชอบเปิดอินเทอร์เน็ตค้นหาข้อมูลไปเรื่อย จนเจอพื้นที่ตรงนี้ให้เขียนบทความ ผมคิดว่าเป็นพื้นที่ๆเปิดโอกาสให้สำหรับนักเขียนสมัครเล่นอย่างผมได้ลองปลดปล่อยความคิดเป็นตัวอักษรลงในพื้นที่ตรงนี้ ขอบคุณนะครับ

เข้าเรื่องกันเลยละกัน  ผมได้มีโอกาสก้าวเข้าสู่จังหวัดยะลาเมื่อปี พ.ศ 2548 โดยตัวผมเองเป็นคนจังหวัดนครศรีธรรมราช ก็อยู่จังหวัดนครศรีธรรมราชมาตั้งแต่เล็กจนโต ไม่เคยก้าวย่างออกจากจังหวัดบ้านเกิดของตัวเองเลย มีโอกาสได้มาจังหวัดยะลา (มาทำงาน) ตอนแรกก็กลัวนะไม่กล้าออกไปไหน ผิดกับตอนนี้ ผมคิดว่าที่นี่น่าอยู่มาก ก็ตั้งแต่ปี พ.ศ.2548 จนถึงปี พ.ศ.2563 ผมอยู่นี่มา 15 ปี  (โอ้โห! ไวเหมือนโกหก) ที่ผมกล่าวถึงว่าน่าอยู่มากๆ จะอธิบายให้ผู้อ่านได้เห็นภาพยังไงดีนะ ค่อนข้างที่จะอธิบายยากมากๆ มันเป็นความรู้สึกล้วนๆ ความรู้สึกที่มีต่อที่นี่เป็นมุมบวกทั้งหมด   ผู้คนที่นี่ปะปนกันมีทั้งศาสนาพุทธและอิสลาม  การอยู่ร่วมกันในสังคมนั้นเป็นไปด้วยความเรียบร้อย คืออยู่ร่วมกันได้ไม่มีปัญหาอะไร  พูดถึงเมืองยะลายามค่ำคืนตามหัวเรื่อง ผมเป็นคนหนึ่งที่ชอบขับรถออกมาเที่ยวเล่น ขับไปบนถนนเรื่อยๆเข้าซอยนี้ออกซอยนั้น ถือว่าเป็นผู้ชำนาญทางคนนึงเลยทีเดียว เป็นไกด์นำเที่ยวได้เลยนะ ผมชอบนั่งร้านน้ำชาริมทาง ร้านน้ำชาที่นี่มีมนต์เสน่ห์อย่างนึง คือเป็นโต๊ะนั่งพื้น สไตล์ชิวๆ พอเข้ามานั่งแล้วก็สั่งของกินกันเลย อาหารก็มีทุกอย่าง เป็นอาหารตามสั่ง เช่น ข้าวผัด ก๋วยเตี๋ยวผัดซีอิ้ว ข้าวมันไก่หรือข้าวหมก  ส่วนเรื่องน้ำชาอันนั้นแน่นอนอยู่แล้วต้องสั่ง จะเป็นชาเย็นชาร้อน ไมโล โกโก้ โอวัลติน ร้อน หรือเย็น มีหมด ที่สำคัญคือราคาไม่แพงมานั่งเล่นได้ทุกคืน  พอออกจากร้านน้ำชาไปไหนต่อ  ส่วนตัวผมก็จะขับรถไปหอนาฬิกาเหมือนเป็นกิจวัตรประจำวันของผม หอนาฬิกาที่นี่มีไฟระยิบระยับสวยงามเป็นแลนด์มาร์คจุดหนึ่งของเมืองยะลาเลยก็ว่าได้ ออลืมบอกไปตรงหอนาฬิกานี้ตั้งอยู่ใจกลางวงเวียน

Advertisement

Advertisement



แต่เป็นวงเวียนเล็กนะ ส่วนวงเวียนใหญ่ต้องเป็นวงเวียนหลักเมือง อยากบอกว่าการวางผังเมืองที่นี่สวยงามมาก ตรงวงเวียนแต่ละวงเวียนมีเส้นทางถนนแตกสาขาออกไปเหมือนใยแมงมุม ผู้ที่ไม่เคยมาเนี่ยผมรับประกันได้ครับว่าหลงแน่นอน พูดถึงวงเวียนหลักเมือง ผมเนี่ยมาแรกๆหลงเลยครับ ไปไม่เป็นเลย ต้องขับรถสำรวจไปเรื่อยๆ ทำซ้ำๆอยู่แบบนั้นอยู่หลายวัน จนจำเส้นทางและชำนาญทาง  ตรงวงเวียนหลักเมืองนี้ จะมีศูนย์ราชการต่างๆ อยู่รอบๆวงเวียน ส่วนในวงเวียนใหญ่ที่เรียกว่าวงเวียนหลักเมืองนี้มีศาลหลักเมืองตั้งอยู่  บริเวณนี้ไม่มีร้านค้าขายของกินนะครับ  งั้นเดี๋ยวผมพาย้อนกลับไปย่านคุรุดีกว่า  ที่เรียกว่าคุรุก็คืออยู่ข้างๆมาวิทยาลัยราชภัฏหรือวิทยาลัยครูนั่นเอง (นี่ผมคิดเองนะไม่รู้ถูกหรือป่าว) ถ่ายโดยผู้เขียน

ถนนย่านคุรุนับตั้งแต่ สี่แยกถนนเทศบาล3 จนถึง สี่แยกผังเมือง4ตัดกับถนนอาคารสงเคราะห์ หรือที่รู้จักกันในนาม แยกนกเอี้ยง เป็นถนนย่านการค้าที่มีการค้าขายตลอดทั้งเส้น และมีร้านเปิดขายตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน เรียกได้ว่าเป็นย่านของกินที่มีให้เลือกอิ่มกันได้ตลอด24ชม.จึงเป็นถนนเส้นที่ไม่เคยเงียบเต็มไปด้วยผู้คน ที่ออกมาจับจ่ายซื้อของกินของใช้กันตลอดทั้งกลางวันและกลางคืนเป็นอีกย่านที่มีเสน่ห์คู่เมืองยะลา มาตลอด รีวิวนี้เป็นการรวบรวมร้านอาหารอร่อยย่านคุรุบางส่วนมานำเสนอให้เหล่าบรรดานักชิมได้รู้จักกัน จากร้านอร่อยตลอดทั้งสองฝั่งถนนร่วมร้อยร้านค้าทั้งอาหารหวาน คาว ขนม น้ำชา กาแฟ ทั้งแบบสไตล์โบราณถึงโมเดิรน์

Advertisement

Advertisement

ถ่ายโดยผู้เขียน

เอาอย่างนี้ดีกว่า ผมจะยกตัวอย่างร้านราคาประหยัดแถบย่านนี้ให้ท่านผู้อ่านได้รู้ เผื่อมีโอกาสผ่านมาทางนี้

ร้านที่ 1 ร้านลูกชิ้นปิ้งป้าก้อย

ร้านลูกชิ้นปิ้งย่านคุรุ ร้านขึ้นชื่อของย่านนี้เลยคือร้านป้าก้อย ที่ขายลูกชิ้นปิ้งมานานกว่า  22ปี จุดสังเกตร้านป้าก้อยคือ เป็นรถพ่วงข้างที่มีตู้ลูกชิ้นขนาดใหญ่ มีลูกชิ้นมากมายกว่า 1000ไม้ และที่ทำให้ขายดีมาตลอด22 ปีเลยคือน้ำจิ้มสูตรเด็ดของทางร้าน ที่มีมากถึง 4ระดับ  คือเผ็ดยกล้อ เผ็ดจัด เผ็ดกลาง และน้ำจิ้มหวาน จุดสังเกตุอีกอย่างที่เป็นจุดเด่นคือคนมุงร้านจนมองไม่เห็นแม่ค้ากันเลยทีเดียว อร่อยแค่ไหนคงไม่ต้องอธิบายคงเห็นด้วยภาพว่าอร่อยเด็ดจริงๆ

ร้านที่ 2 ปังปิ้งไส้ทะลัก

ร้านขนมปังปิ้งไส้ทะลัก โดยมีคุณดาวเป็นเจ้าของสาขา ยะลา เป็นร้านเดียวที่ขายขนมปังไส้ทะลัก จุดเด่นของร้านขนมปังไส้ทะลักร้านนี้คือ ขนมปังที่นุ่ม หอม และไส้ที่เยอะจนไหลเยิ้ม ไส้ที่ขายดีที่สุดและเป็นเมนูแนะนำของทางร้านเลยคือ ขนมปังไส้สังขยาฝอยทอง และ ไส้ไข่เค็มลาวา ที่คุณดาวทำไส้เองทั้งหมด และยังมีไส้ต่างๆอีกมากว่า 15ไส้  และเป็นสาขาแรกในจังหวัดยะลากับขนมปังไส้ทะลัก  หากมาย่านนี้ ต้องมาลองชิมดูว่าไส้จะทะลักสมดั่งชื่อร้านรึเปล่า

Advertisement

Advertisement

ร้านที่  3 อามีนะห์ โรตี

ร้านอามีนะห์โรตี  เป็นร้านที่ขายย้าวยำ โรตี และชากาแฟ โดยมีคุณ อามีนา หรือคุณ มะลิวรรณ เป็นเจ้าของร้าน และเปิดขายมานานกว่า  20ปี  โดยมีเมนูที่ขายดีคือ ข้าวยำดอกอัญชัญ น้ำบูดูต้มเอง และละแซ ที่เป็นของชึ้นชื่อในร้าน มาตลอด20ปี และยังมีโรตี ใส้ต่างๆที่คุณอามีนา บอกว่าลูกค้า ติดใจทานกันมาตลอด 20ปี ลูกค้าส่วนใหญ่คือกลุ่มนักศึกษา ที่มานั่งทานหลังเลิกเรียน เพราะทานร้านเดียว ครบทั้งอาหารคาวหวานน้ำดื่ม

ร้านที่ 4 ร้านส้มตำนครปฐม

ร้านส้มตำที่มาย่านคุรุแล้วต้องนึกถึงเป็นร้านแรกเลยคือ ร้านส้มตำนครปฐม ของคุณแก้ว หรือพี่แก้วในนามที่ลูกค้าส่วนใหญ่เรียกกัน รู้กันดีว่าในย่านนี้ส้มตำร้านนี้มีความแซ่ป รสชาติกลมกล่อม เพราะคุณแก้ว ต้มน้ำปลาร้าด้วยตัวเอง ที่มีกลิ่นหอมรสชาติดี เมนูที่ลูกค้าเรคคอมเม้นท์มากที่สุดเลยคือ  ตำหอยแครงใส่น้ำปลาร้า ทานคู่กับ ไก่ย่างของสูตรทางร้าน รับรองว่าเด็ดไม่แพ้ใครเลย และมีเมนูตำอีกหลากหลายเมนูที่ อร่อยครองใจพี่น้องชาวยะลาและพี่น้องย่านคุรุ

ร้านที่ 5  ร้าน อามีน

แน่นนอนว่าย่านคุรุสิ่งที่เห็นได้ชัดและเป็นจุดเด่นของถนนเส้นนี้คือ ร้านข้าวเหนียวไก่ทอด ซึ่งส่งกลิ่นหอมมาตั้งแต่เข้าถนนเส้นนี้ กันเลยทีเดียว และร้านข้าวเหนียวไก่ทอดมีมากกว่า 5 ร้าน แต่ร้านที่เป็นร้านที่ต้องนึกถึงเลยก็คือ ร้านอามีน ร้านอามีนโดยมีคุณ รูตูน หรือก๊ะตูน เป็นเจ้าของร้าน จุดเด่นของร้านก๊ะตูนเลยคือไก่ทอดที่กรอบนอกนุ่มใน หอมเจียวหอมๆ ขายมานาน กว่า 30ปี และคิดสูตรน้ำจิ้ม และไก่เองทั้งหมด และสิ่งที่ขายดีที่สุดในร้านก๊ะตูน คือ หนังไก่ทอด ที่หมดไวมากหากมาซื้อช้า คืออด ทานกันเลยทีเดียว และยังมีข้าวหมกที่หอมถึงเครื่องเทศน่าทานสุดๆไปเลย  หากอยากทานข้าวเหนียวไก่ทอด ต้องมาย่านคุรุ และนึกถึงร้านอามีนอย่างแน่นนอน

ร้านที่ 6 ร้านทาโก๊ะจังหู้

ร้านทาโกะยากิโดยมีคุณ อารีดเป็นเจ้าของร้าน  ร้านนี้เป็นร้านทาโกะยากิที่คุณอารีดได้สูตรมาจากเพื่อนที่เป็นเชฟชาวญี่ปุ่นที่สอนเมนูนี้จนคุณอารีดมาเปิดร้านเป็นของตัวเอง เมนูที่ลูกค้าถึงกับต้องเข้าคิวรอเลย สำหรับร้านทาโก๊ะจังหู้ เลยก็คือ ทาโกยากิ ปลาหมึกยักษ์ที่หมดไวและลูกค้าถึงกับต้องรอกระทะต่อกระทะกันเลยทีเดียว เอกลักษณ์อีกอย่างของร้านนี้เลยคือ ซอสที่ราดทาโกะยากิ ที่คุณอารีดปรุงและคิดสูตรขึ้นมา มีกลิ่นหอมและรสเฉพาะตัวที่เป็นเอกลักษณ์ของทางร้าน และยังขายสูตรให้ผู้ที่สนใจ เปิดขายโดยไม่ผูกมัดอีกด้วย

ร้านที่ 7 ร้านลุงเริญ

ร้านลุงเริญ เป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ของร้านกาแฟโบราณที่เปิดขาย มานาน กว่า35 ปี โดย มีลุงเริญเจ้าของร้านเป็นผู้จัดตั้งร้านมาจนถึงรุ่นปัจจุบัน รุ่นลูกจนถึงรุ่นหลาน ของลุงที่รับช่วงต่อในขณะนี้ ร้านลุงเริญจะเป็นร้านที่ส่วนใหญ่ลูกค้าคือกลุ่มราชการ หรือคนวัยเกษียณ ที่เป็นเหมือนสภากาแฟ

ร้านที่ 8 ร้านกาแฟอาเหลียง

ร้านกาแฟอาเหลียง ร้านที่ถือได้ว่าเป็นร้านน้ำชายอดนิยมของย่านคุรุเลยก็ว่าได้ โดยมีเจ้าของร้านคือ คุณอาเหลียง ร้านนี้เปิดให้บริการมานานถึง 25ปี แล้ว เมนูที่ลูกค้าสั่งมากที่สุดคือ ชาเย็นและขนมปังอบไอน้ำ ร้านกาแฟอาเหลียงถือว่าเป็นจุดนัดพบนึงของ นักเรียน นักศึกษาหรือ คนวัยทำงาน ที่จะมานัดพบปะพูดคุยหลังจากเลิกเรียน เลิกงาน หรือหลังจากออกกำลังกาย จึงเป็นร้านยอดฮิต สำหรับย่านคุรุเลยทีเดียว

ร้านที่ 9  ร้านเครปไส้แตกคุรุยะลา

ร้านเครปไส้แตกคุรุยะลา เครปร้านนี้ไม่ธรรมด้เลยจริงๆ เพราะเป็นปุบเฟ่ต์ เครปสามารถเลือกหน้าได้ตามใจชอบ จุใจไม่อั้นเพียง 49บาท ร้านเครปไส้แตกเป็นร้านของคุณฟาง ร้านนี้เป็นที่นิยมของเหล่านักเรียน นักศึกษา ที่ชอบกินเครปเป็นชีวิตจิตใจ ต้องโทรสั่งกันล่วงหน้ากันเลยทีเดียว และยัง พิเศษตรงที่หาก ตรงกับวันเกิด เราสามารถยื่นบัตรประชาชน รับเครปฟรีไปเลย มีเมนูเครปไส้ต่างๆ กว่า50หน้า และแป้ง มีมากถึง 8 ชนิดแป้ง เรียกได้ว่าจุใจกันไปเลย  ร้านเครปไส้แตก

ร้านที่ 10 ร้านเจ๊ปลาขนมหวาน

ร้านขนมหวานที่อยู่คู่กับย่านคุรุ มาอย่างยาวนานร้านนี้คือร้านเจ๊ปลาขนมหวาน เจ้าของร้านปัจจุบันคือคุณ ปลา ทายาทรุ่นที่ 3 ที่ส่งต่อรุ่นกันมาตั้งแต่คุณยายร้านขนมหวานฝีมือระดับตำนานรวมเวลาขายมามากกว่า 80 ปี เรียกได้ว่ารสชาติที่ส่งต่อกันมาคือต้นตำหรับความอร่อยโบราณแท้แน่นนอน  สูตรเด็ดความอร่อยของร้านคือใช้น้ำตาลแท้ในการทำขนมหวานเป็นน้ำตาลจากอัมพวา ที่มีกลิ่น และความหวานที่แตกต่างจากน้ำตาลทั่วไป  มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว ร้านนี้มีจุดเด่นที่มาแล้วต้องกินคือ ข้าวเหนียวกวนสูตรโบราณ ที่หาทานยากมากในปัจจุบัน  และ ขนมหัวล้าน ที่เป็นซิกเนเจอร์ ของลูกค้าที่มาแล้วต้องสั่งและซื้อกลับไปทาน ในร้านยังมีเมนูขนมหวานสูตรโบราณอีกมากกว่า 10 เมนูของหวานที่ห้ามพลาดหากมาย่านคุรุ ต้องแวะชิม

วันนี้ไว้แค่นี้ก่อนนะครับเดี๋ยวจะพาเที่ยวใหม่ สวัสดีครับ

ภาพประกอบ : เป็นภาพถ่ายที่ผู้เขียนถ่ายเอง

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์