เมื่อไม่ต้องการเรา เขาจึง...เลิกจ้าง

จากความคิดที่เคยทนงตัวว่ายิ่งใหญ่ เก่งไร้ใครเทียบ

มาวันนี้ตาสว่างเพราะ...เมื่อเขาไม่ต้องการเรา เขาก็แค่...เลิกจ้าง

ในวันที่ก่อตั้งบริษัทแห่งใหม่ เราย้ายทีมมาจากบริษัทเดิมที่เป็นลูกหม้อของบริษัทโฆษณาสัญชาติญี่ปุ่น ในฐานะเลขากลุ่ม ย้ายเข้ามาทำงานเป็นคนแรกของบริษัท หลังจากเซ็นสัญญาเข้าใช้พื้นที่บริษัทแล้ว เริ่มประกอบร่างนับจากศูนย์ ทำงานทุกขั้นตอนร่วมกันกับผู้บริหารฝั่งคนไทย เราติดต่อบริษัทตกแต่งสำนักงาน จบงานเสนอแบบ ตกลงแบบ ประสานงาน Head Qouter ที่โตเกียว สรุปงาน และอนุมัติงบประมาณ

หลังจากงานตกแต่งสถานีที่จบไป เราเริ่มงานต่อเรื่องระบบโทรศัพท์ ระบบคอมพิวเตอร์ จัดซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์ ระบบอินเตอร์เน็ต เซ็ตทุกอย่างให้พร้อมก่อนเริ่มรับสมัครพนักงาน เรารับพนักงานใหม่คนแรกหลังจากเปิดบริษัทได้หนึ่งเดือน เริ่มตั้งทีมฝ่าย AE (ฝ่ายขาย) เริ่มมีฝ่ายบัญชี เริ่มมีฝ่าย Creative ภายในสามเดือนบริษัทเราพร้อมให้บริการทำสื่อโฆษณาให้ลูกค้า

วันเวลาผ่านไป ผู้บริหารเปลี่ยนหน้ากันมาบริหารบริษัทหลายต่อหลายคน เรายังสนุกกับงาน ชีวิตมีแต่งาน และงาน เคยทำงานจนถึงตี 2 ตี 3 จนเราคิดไปว่าบริษัทนี้ถ้าไม่มีเรา บริษัทจะขับเคลื่อนไปได้อย่างไร ไม่เคยลาพักร้อน ทำงานแบบทุ่มสุดตัวไม่กลัวเหน็ดเหนื่อย ออกงานสัมมนา หาความรู้ใส่ตัวเพื่อนำมาพัฒนาบริษัทให้ทันสมัยอยู่ตลอด ฉันนี่แหละที่สุดแล้ว

เมื่อบริษัทดำเนินงานมาได้ 19 ปี และนั่นก็คืออายุงานของเราที่อยู่บริษัท ในเดือนมิถุนายน ปี 2560 CEO เรียกเราเข้าไปคุยในห้อง บอกว่าบริษัทต้องการคนที่ Strorg มากกว่าเรา พร้อมยื่นข้อเสนอชดเชยการเลิกจ้าง และให้เราสิ้นสุดการทำงานใน 30 วันถัดไป

เราถามเขาว่า...งานของดิฉันมากมายจะให้ใครทำ บริษัทหาคนแทนทันหรือ ไหนจะลูกน้องที่ดูแลอยู่ ระบบต่าง ๆ สัญญาต่าง ๆ อีก เป็นห่วงไปเสียหมดทุกอย่าง

CEO ตอบ...งานทั้งหมดให้ฝ่ายบัญชีเป็นคนรับไปทำทั้งหมด คุณโอนงาน สอนงานเขาไว้ก็แล้วกัน ไม่ต้องห่วงเรื่องค่าขดเชย บริษัทจ่ายให้คุณตามกฎหมาย 100% แน่นอน คำตอบมีแค่นั้น เราได้แต่คิดว่าด้วยเหตุผลของบริษัทต้องการคนที่ Strong กว่าเรา แล้วเขาจะหามาจากที่ไหน "ฉันนี่แหละ Strong ที่สุดแล้ว"...จบลงแล้วสินะ หน้าที่การงานที่แสนภูมิใจ ยอมรับว่าช่วงวันแรก ๆ เสียศูนย์ไปเหมือนกัน แต่ในที่สุดเราก็ตั้งหลักได้ และหางานใหม่ที่เงินเดือนมากกว่าได้ในอีก 2 สัปดาห์ถัดมา เราเริ่มงานใหม่ทันทีแบบไม่ได้หยุดพัก

เรายังติดต่อกับเพื่อน และลูกน้องเก่าอยู่เสมอ งานในส่วนที่เราเคยรับผิดชอบอาจมีปัญหาบ้าง ขรุขระบ้าง แต่มันก็ผ่านไปได้ ด้วยการบังคับบัญชาของหัวหน้าฝ่ายบัญชี ตกลงว่าบริษัทไม่ได้หาคนที่ Strong กว่ามาแทนเรา แต่ใช้ฝ่ายบัญชีมาทำงานแทน

บริษัทอาจดีขึ้นกว่าตอนมีเราทำงานอยู่อย่างน้อยก็ไม่ต้องจ่ายเงินเดือนสูง ๆ ให้เรา ส่วนเราเองก็ไม่เห็นเป็นอะไรเมื่อไม่ได้อยู่ในบริษัทนี้ เราก็หางานใหม่ได้ มีชีวิตการทำงานแบบใหม่ ในสถานที่ใหม่ ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ บางทีการจากลาครั้งนี้อาจเป็นเรื่องราวดี ๆ ที่เกิดขึ้นของชีวิตได้เลย

เหมือนโลกไม่ได้หยุดหมุนถึงแม้เราตายจากไป โลกยังคงเคลื่อนไป มันยังคงเคลื่อนไป และเป็นเช่นนั้นเสมอไม่ว่าใครจากหายไปก็ตาม

เราตระหนักแล้ว เมื่อไม่มีเราบริษัทยังขับเคลื่อนไปได้ เราคงไม่ได้สำคัญอะไรนักหนา และไม่มีใครสำคัญมากจนขาดหายไปไม่ได้ ถ้าคุณไม่ใช่เจ้าของบริษัท ถ้าคุณไม่ใช่เจ้าของเงิน เมื่อเขาไม่ต้องการ เขาอาจไม่ต้องให้เหตุผลที่ฟังดูดีกับเรา เขาก็แค่บอกเลิกจ้างเราไปเสีย...มันก็แค่นั้นเอง

เรื่องโดย BUTR CLUB

ภาพปก จาก mohamed_hassan /Pixabay

ภาพประกอบที่ 1 จาก TRESOR69 /Pixabay

ภาพประกอบที่ 2 จาก TRESOR69 /Pixabay

ภาพประกอบที่ 3 จาก TRESOR69 /Pixabay

ภาพประกอบที่ 4 จาก Ruchiragodave /Pixabay

ภาพประกอบที่ 5 จาก mohamed_hassan /Pixabay

ภาพประกอบที่ 6 จาก mohamed_hassan /Pixabay

*STAR COVER"อย่ามัวแต่ดูมาดังกัน"*

ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ขอชวนทุกคนมาสนุกโคฟเวอร์ พร้อมลุ้นรับเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 7,000 บาท (5 รางวัล) โคฟคนที่ใช่ ไลค์คนที่ชอบ`ร่วมสนุกได้ที่ ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ห้อง cover บนแอปทรูไอดี`

คลิกเลย >> https://ttid.co/UAnK/7y9jfqkq

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://bit.ly/3O1cmUQ

ร่วมสนุกตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2565 - วันที่ 3 สิงหาคม 2565