เม้าส์เกมมิ่งราคาแพง มีดีอย่างไร ?

เกมเมอร์มือใหม่สงสัยกันไหมว่า เม้าส์เกมมิ่งราคาสูงๆ มีอะไรดีกว่าตัวราคาเริ่มต้น ? จะเลือกแบบไหนดี จำเป็นต้องซื้อรุ่นราคาสูงใช่หรือไม่ ถ้าหากต้องการนำมาเล่นเกมจริงจัง ?

หลายๆ ท่านที่สนใจอยากซื้อเม้าส์เกมมิ่งมาใช้เป็นครั้งแรก คงหัวหมุนกับการเลือกไม่น้อยเพราะเม้าส์เกมมิ่ง แม้จะเป็นยี่ห้อเดียวกัน ก็มีหลายรุ่นหลายราคาเหลือเกิน

ตั้งแต่ราคาหลักร้อยปลายๆ ถึงหลายระดับ 4 พัน 5 พันบาท จะเลือกรุ่นไหนดี ?

ขอสรุปเป็นข้อๆ จากความคิดเห็นและประสบการณ์ให้ดังนี้ครับ

1. วัสดุและงานประกอบ

ก็แน่นอนตามกลไกของโลกครับ จ่ายแพงกว่าย่อมได้ของดีกว่า เม้าส์ราคาสูงมักจะใช้วัสดุที่ทนต่อการจับมากกว่า เกิดรอยลิ่มนิ้วมือได้ยากกว่าหรือช้ากว่า (ใช้ไปนานๆ ยังไงก็เกิดรอยถ้าไม่หมั่นทำความสะอาด) มีการใช้อลูมิเนียม เสริมความแข็งแรง มากกว่าเม้าส์รุ่นเริ่มต้น มีการใช้วัสดุยางเพิ่มเข้ามาช่วยให้จับไม่ลื่นมือ ใช้สายเชื่อมต่อเป็นสายถักทนทานกว่าสายพลาสติกทั่วไป งานประกอบก็จะดีกว่า จับแล้วรู้สึกแน่น มีช่องว่างระหว่างชิ้นส่วนน้อย

3. เซนเซอร์และสวิตช์

นอกจากการปรับ DPI แล้ว เซนเซอร์และสวิตช์ก็มีความสำคัญ ยิ่งแพงยิ่งได้ของดี จำนวนครั้งการกดใช้งานของสวิตช์มากกว่า สัมผัสการกดนุ่มมือกว่า และเซนเซอร์-มักจะ-นิ่งกว่าด้วย ( ไม่เสมอไป )

4. ความสวยงาม

ยิ่งราคาสูง ยิ่งมีไฟประดับหลายจุด ปรับแสงไฟแยกโซนได้ เอฟเฟกต์แสงไฟหลากหลาย (ตัวราคาเริ่มต้นมักจะปรับไฟได้โซนเดียวและเป็นไฟสีเดียวนิ่งๆ ไม่หวือหวาอะไร) ซิงค์กับอุปกรณ์อื่นก็ได้ แพรวพราวลายตาไปหมด มีการใช้วัสดุปัดเงาดูหรูหรา

5. ขนาดและน้ำหนัก

เม้าส์ราคาสูงมักจะมีขนาดใหญ่กว่า และมีรูปทรงให้เลือกมากกว่า ออกแบบมาตามสรีรวิทยามากกว่า บางตัวสามารถปรับจูนขนาดของเม้าส์ได้จากการเลื่อนเข้า-ออก ขันสกรู หรือถอดประกอบจากชิ้นส่วนเพิ่มเติมที่มีให้ในแพคเกจ ไม่ได้เป็นทรงตายตัว ไม่ได้มีจำนวนปุ่มตายตัว วันนี้อยากเล่นเกม FPS ก็เอาปุ่มมาโครที่ไม่จำเป็นออก เน้นจับถนัดๆ วันไหนอยากทำงานก็ใส่ปุ่มกลับเข้าไป จะได้กดคีย์ลัดได้เร็ว บางตัวสามารถเสริมตุ้มน้ำหนักเข้าไปได้ ให้เหมาะสำหรับงาน หรือในกรณีที่มีผู้ใช้หลายคนโดยแต่ละคนชอบน้ำหนักเม้าส์ต่างกัน

6. ทำงานอย่างไร้สาย

แน่นอนว่าเม้าส์ตัวไร้สายก็ต้องราคาสูงกว่าตัวมีสายปกติ ในกรณีที่เป็นรุ่นหรือซีรีส์เดียวกัน ถ้าเป็นซีรีส์ต่ำกว่า แม้เป็นเม้าส์ไร้สายก็อาจจะราคาถูกกว่าซีรีส์สูงกว่าที่เป็นตัวมีสายก็ได้

จากที่กล่าวมาเบื้องต้นก็เป็นแค่เรื่องของทฤษฎีและข้อมูลครับ เพราะในทางปฏิบัติแล้ว

“เม้าส์ที่เหมาะกับคุณ คือเม้าส์ที่คุณจับถนัดและสามารถใช้งานได้คล่อง”

แต่ยืนยันได้ว่าเม้าส์เกมมิ่งให้ประสบการณ์การใช้งานที่ดีกว่าเม้าส์บ้านๆ แน่นอนครับ

ตอนเริ่มต้นใช้เม้าส์เกมมื่ง ผมเลือกใช้เม้าส์ราคา 4200 บาท เลยครับ เพราะคิดว่าแพงแล้วมันต้องดีแน่ๆ แต่ผลออกมาว่า ใช้งานไม่เข้ามือครับ เล่นเกมไม่ค่อยถนัด หลังจากนั้นก็ไปเจอโฆษณาเม้าส์อีกตัว อีกยี่ห้อ ที่หน้าตาดูธรรมดามาก ขนาดก็เล็ก และราคาแค่ 990 บาท จึงเกิดความอยากลอง…………ปรากฏว่าใช้ดีมาก เหมาะมือกว่าตัว 4,200 บาท ซะอีก

สเปคในหน้ากระดาษไม่อาจตอบสนองความต้องการส่วนบุคคลได้อย่างเที่ยงตรงครับ เม้าส์ตัวนี้นิ่งกว่า แต่ทรงไม่ถนัดมือคุณ ตำแหน่งปุ่มกดไม่ถนัด ก็ใช้งานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ฟีเจอร์มีมากเกินไปก็ไม่ได้ใช้ หรือทำให้ใช้งานไม่คล่อง จะเอาไปแข่งเกมก็เสียเวลาปรับแต่งไม่ทันเวลา มัวมากดสลับ DPI 5 ระดับ ก็ช้าไป โดนศัตรูยิงตายไปซะก่อน

ขนาดของเม้าส์ รูปทรงของเม้าส์ ลักษณะการจับเม้าส์ที่คุณถนัด ขนาดของมือ มีผลต่อการเลือกใช้เม้าส์มากๆ จึงเป็นเรื่องสำคัญมากที่ต้องไปลองจับ ลองเล่นเกม ก่อนตัดสินใจซื้อครับ

ขอบคุณรูปภาพจาก Pexels รูปหน้าปก/ รูปประกอบที่ 1 / รูปประกอบที่ 2 / รูปประกอบที่ 3