อื่นๆ

เริ่มเล่นหุ้นต้องทำยังไง?

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
เริ่มเล่นหุ้นต้องทำยังไง?

ภาพปก Freepik

การลงทุนนั้นมีให้เราเลือกลงทุนมากมายไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในกองทุน หุ้น เงินฝาก รวมไปจนถึงอสังหาริมทรัพย์ ในส่วนของการลงทุนในหุ้นนั้นเป็นหนึ่งในการลงทุนที่มีความน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว เนื่องจากเป็นการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่สูงมากกว่าการลงทุนในทรัพย์สินประเภทอื่น ๆ อย่างไรก็ดีความเสี่ยงจากการลงทุนประเภทนี้นั้นมีอยู่มากเช่นเดียวกัน แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ความหอมหวานของผลตอบแทนที่มากกว่าปกตินั้นลดลงไป มีผู้ลงทุนมากมายตั้งแต่นักศึกษา วัยทำงานที่เป็นเจ้าของธุรกิจ ผู้ประกอบอาชีพอิสระ หรือแม้กระทั่งมนุษย์เงินเดือนก็มีความสนใจที่จะนำเงินไปลงทุนในหุ้นกันมากมาย เอาล่ะ ถ้าคุณคือคนหนึ่งที่สนใจการลงทุนประเภทนี้ เรามาดูกันเลยว่าจะเล่นหุ้นนั้นจะต้องเริ่มต้นจากตรงไหนบ้าง?

ภาพการลงทุนภาพจาก Freepik

  1. คุณจะเริ่มโดยไม่รู้ไม่ได้ : ให้คุณศึกษาหาความรู้เสียก่อน ในช่วงแรกก่อนที่จะทำการซื้อขายหรือว่าเริ่มต้นนั้น สิ่งที่คุณควรจะทำเป็นอันดับแรกเลยก็คือ การหาความรู้เอาไว้ติดตัว ความรู้ในการเล่นหุ้นนั้นเป็นเหมือนอาวุธที่คุณเอาไว้ต่อสู้กับคนอื่น ถ้าหากว่าลงทุนโดยไม่มีความรู้เลยก็เหมือนเป็นการงมเข็มในมหาสมุทรนั่นเอง ความรู้ทั้งด้านเทคนิค และเรื่องทั่ว ๆ ไปมีความจำเป็นอย่างมากสำหรับการเริ่มต้น ปัจจุบันหนังสือประเภท How to มีมากมาย มันถือเป็นคลังข้อมูลที่ดีเยี่ยมสำหรับผู้เริ่มต้นเลยล่ะ ตัวอย่างหนังสือที่น่าสนใจ เช่น

Advertisement

Advertisement

ภาพศึกษาหุ้นภาพจาก Freepik

2. บัญชีออนไลน์เป็นตัวช่วยชั้นดี : เปิดบัญชีธนาคารออนไลน์ไว้สักบัญชีหนึ่ง การเปิดบัญชีนั้นเป็นเรื่องที่จำเป็นมากเลยทีเดียว เนื่องจากในตอนที่คุณจะทำการสมัครสมาชิกหรือว่าให้โบรกเกอร์เป็นตัวแทนนั้นจะต้องมีบัญชีธนาคารออนไลน์เอาไว้เช็คดูยอดเงินที่เข้าออกจากบัญชีของคุณได้แบบ Real time อีกทั้งบัญชีนี้จะเป็นบัญชีหลักที่ใช้เก็บเงินของคุณจากการซื้อขายหุ้นด้วยนั่นเอง

3. โบรกเกอร์ที่ไว้ใจได้ : โบรกเกอร์หรือตัวแทนหุ้นนั้นมีหน้าที่ทำการซื้อขายแทนเรา โดยคุณสามารถเลือกโบรกเกอร์ได้หลายเจ้า ไม่จำเป็นที่จะต้องซื้อขายผ่านโบรกเกอร์เพียงแห่งเดียวเท่านั้น กล่าวคือคนหนึ่งคนจะมีโบรกเกอร์เพื่อทำการซื้อขายหุ้นกี่เจ้าก็ได้ แต่อย่างไรก็ดีคุณจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมหรือ Commission ให้โบรกเกอร์แต่ละเจ้าด้วยเช่นกัน ดังนั้นให้คุณเลือกโบรกเกอร์ที่เหมาะสมทั้งในแง่ของการบริการ คำแนะนำ และคำนวณค่าใช้จ่ายแอบแฝงเอาไว้ให้ดี ๆ

Advertisement

Advertisement

ภาพปรึกษาโบรคเกอร์ภาพจาก Freepik

4. เริ่มทำการซื้อขาย : ขั้นตอนต่อไปคือการซื้อขายของจริง เสมือนว่าเรากำลังการลงสนามแข่งขันเลยก็ว่าได้ ความรู้ที่คุณสั่งสมมาทั้งหมด ทั้งเทคนิค วิธีการ ตลอดจนข้อมูลที่ค้นคว้ามาจะเป็นอาวุธในสนามนี้ ในตอนที่ได้กำไรจงอย่าเพิ่งดีใจจนลงเงินจำนวนมากไปกับการซื้อหุ้นตัวต่อไปด้วยความตื่นเต้นล่ะ เพราะตลาดหุ้นเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน ทิศทางการขึ้นลงของราคานั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลาย ๆ แง่ ไม่เพียงว่าครั้งแรกเราเดาทางถูก ครั้งต่อ ๆ ไปจะเป็นอย่างเดิมเสมอ ให้เราทำใจให้นิ่ง กระจายความเสี่ยงเท่าที่จะเป็นไปได้ ไม่ลงเงินหนักไป แล้วดูทิศทางของตลาดให้ดี บางทีการลงทุนกับกระแสมักจะได้มาเร็ว และเสียไปเร็วก็ได้

5. เฝ้าติดตามการซื้อขาย : ถ้าหากว่าคุณเป็นนักเก็งกำไรและถือหุ้นระยะสั้นนั้น ก็จะต้องหมั่นตรวจดูสภาพราคาของหุ้นเอาไว้ในช่วงเวลาที่ตลาดหุ้นเปิดทุกการเคลื่อนไหวนั้นมีผลเสมอ เผลอแปปเดียวราคาที่คุณหวังไว้อาจไม่เป็นไปตามที่คุณคาดการณ์ ทำให้คุณต้องใช้เวลารอจนกว่าหุ้นตัวนั้นกลับมาอยู่ในราคาที่คุณหวังไว้อย่างที่เขาเรียกว่า ติดดอย นั่นแหละ แต่ถ้าหากว่าคุณเป็นคนที่ชอบถือหุ้นระยะยาวนั้นก็ควรศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมหลังจากที่ได้เริ่มลงทุนด้วยว่าหุ้นตัวที่คุณถืออยู่มีพื้นฐานอย่างไรตลอดจนบริษัทนั้น ๆ มีทิศทางที่จะเป็นไปทางไหน

Advertisement

Advertisement

ภาพติดตามหุ้นภาพจาก Freepik

ตลาดหุ้นจะว่าง่ายก็ง่าย จะว่ายากก็ยาก ทุกคนที่เดินลงมาในสนามนี้มักจะเคยล้มเคยเจ็บกันทั้งนั้น แต่อย่างที่กล่าวไปข้างต้น อาวุธที่ดีที่สุดที่คุณจะเอาไปต่อสู้กับความผันผวนของตลาดทุนนี้คือ ความรู้ที่ยิ่งมีมากเท่าไหร่ก็ยิ่งทำให้คุณได้เปรียบมากเท่านั้น

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์