ไลฟ์แฮ็ก
เรียนจบปริญญาตรียังไงให้ได้เกรดดี, กิจกรรมเด่น และประสบการณ์ชีวิตเลิศ

น้อง ๆ คนไหนที่กำลังเข้าเรียนมหาวิทยาลัยอยู่ ควรแวะเข้ามาอ่านบทความนี้กันก่อนค่ะ เพราะวันนี้พี่จะมาแนะนำการใช้ชีวิต 4 ปีในรั้วมหาวิทยาลัย ทั้งเรื่องการเรียน, การทำกิจกรรม และประสบการณ์ต่าง ๆ ที่ควรเรียนรู้ก่อนสำเร็จการศึกษาและเข้าสู่วัยทำงาน ซึ่งทั้ง 3 เรื่องนี้เป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยหล่อหลอมให้น้อง ๆ ได้พัฒนาทักษะและความสามารถของตนเองไปสู่เป้าหมายที่ได้วางไว้นั่นเอง

1. ตั้งเป้าหมายในการเรียน
การจะทำสิ่งใดก็ตาม เราต้องตั้งเป้าหมายให้กับตัวเองเท่าที่จะทำได้ไหว อาจเริ่มจากเป้าหมายที่เล็ก ๆ ใกล้ ๆ แล้วค่อย ๆ ขยายไปสู่เป้าหมายใหญ่ที่ไกลขึ้น ไม่เว้นแม้แต่เรื่องการเรียน ถ้าน้องตั้งเป้าหมายว่าจะต้องเรียนให้ได้เกียรตินิยมอันดับ 1 หรือ 2 น้องก็ต้องตั้งใจเรียน, เข้าเรียนทุกครั้ง ตรงเวลา ไม่สาย, อ่านหนังสือเพิ่มเติมตาม Course Syllabus ที่อาจารย์แจกเมื่อเข้าเรียนคาบแรกไว้ล่วงหน้า, ทำงานส่งให้ตรงเวลา แค่นี้น้องก็ได้เกรด A ของวิชานี้มาเชยชมแล้ว ทางที่ดีน้อง ๆ ควรเรียนให้ได้เกรดอย่างน้อย 2.5 - 2.75 ขึ้นไปในทุกเทอม แต่ถ้าเรียนได้เกรด 3 ขึ้นไปหรือได้รับเกียรตินิยมจะดีมาก ที่สำคัญที่สุดเลยก็คือควรเก็บเกี่ยวความรู้ทั้งหลักสูตรสาขาวิชาที่เรียนและหลักสูตรอื่นที่ตนสนใจให้ได้มากที่สุด เพื่อจะได้นำความรู้ที่เรียนนั้นไปประยุกต์ใช้ในการประกอบอาชีพค่ะ
Advertisement
Advertisement
อย่างพี่เองในสมัยเรียนปริญญาตรี พี่ก็ตั้งเป้าหมายในการเรียนทุกเทอมเช่นกัน ด้วยความที่พี่เองก็เรียนไม่เก่งมากนัก บวกกับค่อนข้างเรียนรู้ช้าเลยตั้งเป้าหมายไว้แค่ว่าเกรดทุกเทอมห้ามต่ำกว่า 2.75 และห้ามมีเกรดต่ำกว่า C (คือห้ามมีเกรด D+, D และ E) ทำให้พี่พยายามทำตามเป้าหมายที่วางไว้ แม้ว่าเกรดบางเทอมจะต่ำกว่าเป้าหมาย เพราะในบางครั้งอาจมีเกเรบ้าง ไม่ตั้งใจเรียนในบางคราวบ้าง แต่สุดท้ายเกรดเฉลี่ยตอนเรียนจบก็สำเร็จตามเป้าหมาย คือได้เกรด 2.94 และไม่มีวิชาไหนต่ำกว่าเกรด C เลยค่ะ ^^
2. เก็บเกี่ยวประสบการณ์ชีวิตนิสิตนักศึกษาให้ได้มากที่สุด
หากน้อง ๆ เป็นนิสิตนักศึกษา นอกจากการเรียนจะเป็นเรื่องสำคัญแล้ว ประสบการณ์ในชีวิตอย่างการทำกิจกรรมหรือชมรมในมหาวิทยาลัยก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะการเรียนจะทำให้ได้รับความรู้ ส่วนกิจกรรมจะช่วยให้ทำงานเป็น โดยเฉพาะการทำงานแบบเป็นทีมหรือทีมเวิร์กนั่นเอง ดังนั้นน้อง ๆ ควรเข้าร่วมกิจกรรมให้ได้มากที่สุด โดยไม่ให้เสียการเรียน ยิ่งเป็นการเข้าค่ายพัฒนาชนบทก็ยิ่งดี ที่สำคัญควรแบ่งเวลาในการเรียนและการทำกิจกรรมจะดีที่สุด เพื่อจะได้การเรียนไม่เสีย กิจกรรมไม่แป้กนั่นเองค่ะ
Advertisement
Advertisement
ด้วยความที่มหาวิทยาลัยของพี่นั้นนอกจากจะให้นิสิตเน้นเรื่องการเรียนแล้วก็ยังเน้นให้นิสิตทำกิจกรรมด้วย โดยทางมหาวิทยาลัยจะแบ่งกลุ่มกิจกรรมออกเป็น 3 กลุ่มด้วยกัน คือ กิจกรรมมหาวิทยาลัย/คณะ (กิจกรรมบังคับ 3 กิจกรรม คือ ค่ายอัตลักษณ์, กิจกรรมปฐมนิเทศ และไหว้ครูมหาวิทยาลัย/คณะ ส่วนกิจกรรมเลือก 2 กิจกรรม คือ วันสมเด็จพระเทพฯ และวันพระราชทานปริญญาบัตร), บุคลิกภาพ/จริยธรรม (กิจกรรมเลือก 2 กิจกรรม) และองค์กรนิสิต/องค์กรภายนอก (กิจกรรมเลือก 1 กิจกรรม) ซึ่งหากทำกิจกรรมไม่ครบตามมหาวิทยาลัยกำหนดจะไม่สำเร็จการศึกษาค่ะ บอกตรง ๆ ว่าเสียดายมากที่ช่วงเรียนอยู่ปริญญาตรีไม่มีโอกาสได้ไปค่ายพัฒนาชุมชน ถ้าน้อง ๆ ไม่อยากเสียดายแบบพี่ แนะนำว่าควรจะไป เพราะจะช่วยให้น้องได้ไปเปิดโลกกว้าง นอกเหนือจากตำราเรียนและได้เรียนรู้เรื่องต่าง ๆ มากมายจากการไปเข้าค่ายจริง ๆ ค่ะ
Advertisement
Advertisement

3. เก็บออมเงินให้ได้มากที่สุด
น้อง ๆ ทราบหรือไม่คะว่าการเก็บออมเงินมีประโยชน์หลายอย่างมาก ๆ เพราะนอกจากจะไม่ต้องรบกวนเงินพ่อแม่ในการซื้อสิ่งของที่อยากได้แล้ว ยังฝึกนิสัยการประหยัดให้กับตนเองก่อนเข้าสู่วัยทำงาน เพื่อที่ว่าเมื่อเราทำงานและมีเงินเดือนเป็นของตัวเองแล้ว เราสามารถวางแผนการเงินได้ดีกว่าคนอื่น ๆ อีกด้วย โดยเฉพาะในช่วงหลังจากเรียนจบระหว่างรองานทำ เราจะได้ใช้เวลาและเงินที่เราออมตลอด 4 ปีไปเดินทางท่องเที่ยว เช่นเดียวกับวัยรุ่นต่างชาติมักใช้ช่วงเวลา Gap Year นี้ไปค้นหาตัวตนก่อนสมัครงานว่าตนเองอยากทำงานอะไร อยากทำอาชีพไหน ผ่านการเดินทางท่องเที่ยวเปิดโลกกว้าง อาจจะเริ่มต้นจากการออมเงินที่ได้ในแต่ละวันอย่างน้อยสัก 10-50 บาทก็ยังดีค่ะ
ในช่วงที่เรียนมหาวิทยาลัย พี่เองก็เคยเก็บออมเงินที่เหลือในแต่ละวันเพื่อเก็บเงินซื้อบ้านเป็นของตัวเอง แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ซื้อบ้านตามที่ต้องการ เนื่องจากจำเป็นต้องซื้อคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กมาใช้ในการเรียนและการทำงานส่งอาจารย์ ซึ่งสาขาที่พี่เรียนจะต้องใช้โปรแกรม Photoshop และ InDesign ในการทำหนังสือสำหรับเด็กหลายวิชา โดยเฉพาะวิชาสำคัญ ๆ อย่างวิชาวรรณกรรมสำหรับเด็กนิพนธ์ แต่พี่ก็รู้สึกภูมิใจที่เก็บเงินซื้อโน้ตบุ๊กเองเป็นครั้งแรกโดยไม่รบกวนเงินของพ่อแม่ และสิ่งนี้เองที่ทำให้พี่ติดนิสัยประหยัดอดออม ไม่ฟุ้งเฟ้อ ไม่ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย (นอกจากเรื่องกินและเรื่องเที่ยวต่างจังหวัด) จนสามารถเก็บเงินแสนแรกได้ในการทำงาน 3 ปีแรกค่ะ

4. ฝึกพัฒนาตนเองอยู่เสมอ
การที่น้อง ๆ ฝึกพัฒนาตนเองอยู่เสมอในช่วงเป็นนิสิตนักศึกษาได้เร็วเท่าไหร่ก็จะส่งผลดีต่อตัวของน้องเมื่อสำเร็จการศึกษาได้ดีมากขึ้นเท่านั้น โดยเฉพาะทักษะทางด้านภาษาทั้งภาษาอังกฤษและภาษาที่สามอื่น ๆ อย่างเช่น ภาษาจีน, ภาษาญี่ปุ่น, ภาษาเกาหลี, ภาษาฝรั่งเศส และภาษาเยอรมัน เป็นต้น ยิ่งน้องเรียนรู้หลายภาษาก็ยิ่งมีโอกาสดี ๆ ในการทำงาน และสามารถทำงานในบริษัทต่างชาติที่มีเงินเดือนดี สวัสดิการเลิศ นอกจากนั้นทักษะทางคอมพิวเตอร์ก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน ยิ่งในโลกปัจจุบันเข้าสู่ยุคดิจิทัลด้วยแล้ว น้อง ๆ ก็สามารถสร้างตัวตนในโลกโซเชียลด้วยการสร้างผลงานดี ๆ ในแบบไม่เหมือนใครลงใน Tik Tok หรือ Youtube ให้ผู้คนได้ติดตามกันได้อีกด้วย ไม่แน่นะน้อง ๆ อาจจะกลายเป็นคนดังในชั่วข้ามคืนก็ได้ แต่ถ้าน้องคนไหนเป็นคนเก็บตัว ไม่ชอบออกสื่อก็อาจทำงานเบื้องหลังอย่างการตัดต่อคลิป, ทำภาพกราฟิกเจ๋ง ๆ ขายในเว็บ shutter stock ก็ดีงามไม่แพ้กันค่ะ
ขอยอมรับเลยว่าข้อนี้พี่ไม่ค่อยมีเวลาทำเท่าไหร่นัก ทั้งทักษะทางด้านภาษาและทักษะทางคอมพิวเตอร์ เพราะส่วนมากจะใช้เวลาในการอ่านหนังสือวรรณกรรมและหนังสืออื่น ๆ ทั่วไปซะมากกว่า ทำให้เสียดายเวลาและโอกาสดี ๆ หลายอย่างในชีวิต หากใครไม่อยากเสียดายโอกาสแบบพี่ แนะนำให้เริ่มตั้งแต่ตอนนี้เลยค่ะ

5. เตรียมพร้อมอยู่เสมอ
การเตรียมตัวให้พร้อมล่วงหน้าเป็นเรื่องดีเสมอ เพราะจะช่วยให้เราได้ไขว่คว้าโอกาสและเริ่มต้นสิ่งดี ๆ ก่อนคนอื่น ดังนั้นทางที่ดีน้องควรเตรียมตัวเองให้พร้อม คาดการณ์ไว้ล่วงหน้าประดุจว่าเราใกล้เรียนจบแล้ว จะเป็นบัณฑิตแล้ว จบไปจะทำงานอะไรดีนะ หรือจะเรียนปริญญาโทต่อดี และถ้าเรียนปริญญาโทจะเรียนในไทยหรือสอบชิงทุนต่างประเทศ ซึ่งการเตรียมพร้อมในทุกเรื่องถือเป็นหลักการสำคัญของการตั้งเป้าหมายและการประสบความสำเร็จในชีวิตนั่นเอง เรียกว่าเป็นการวางแผนชีวิตล่วงหน้าไปในตัวเลยล่ะค่ะ
ข้อนี้ก็เป็นอีกข้อหนึ่งที่ไม่ค่อยได้ทำเท่าไหร่เช่นกัน เนื่องจากวางแผนชีวิตไม่ค่อยดีนักและไม่ค่อยเตรียมตัวสักเท่าไหร่ ใช้ชีวิตอย่างประมาทเกินไป ทำให้พลาดโอกาสเรื่องการทำงานที่จะได้ทำงานในบริษัทต่างชาติดี ๆ สวัสดิการเยอะ ๆ อยู่ในตำแหน่งสูง ๆ เหมือนคนอื่นเขา ดังนั้นหากน้องต้องการมีความสำเร็จในชีวิตจะต้องเตรียมตัวให้พร้อมอยู่เสมอ วางแผนชีวิตให้ดี ตั้งใจและแน่วแน่กับเส้นทางที่จะเลือกเดิน และที่สำคัญต้องมีระเบียบวินัยด้วยนะคะ
ถ้าหากน้อง ๆ ทำตามที่พี่แนะนำได้ทั้งหมด 5 ข้อนี้ รับรองได้ว่าน้อง ๆ จะต้องสำเร็จในชีวิตไปได้ไกลจากที่ตั้งใจไว้อย่างแน่นอนค่ะ 😊😊😊
เครดิต
- ภาพหน้าปก (ภาพที่ 1): rawpixel / Freepik // ออกแบบหน้าปกใน Canva โดย: Windy_55 (ผู้เขียน)
- ภาพที่ 2: wayhomestudio / Freepik
- ภาพที่ 3: partystock / Freepik
- ภาพที่ 4: jcomp / Freepik
- ภาพที่ 5: Lifestylememory / Freepik
- ภาพที่ 6: pressfoto / Freepik
อัปเดตข่าวสาร และแหล่งเรียนรู้หลากหลายแบบไม่ตกเทรนด์ บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
นามปากกา Windy_55: หญิงสาวผู้รักการกิน การท่องเที่ยว และการเขียนเป็นชีวิตจิตใจ
ความคิดเห็น






