อื่นๆ
เรื่องน่ารู้ของ “โรคฮีทสโตรกในสุนัข”

สวัสดีค่ะทุกท่านที่เข้ามาอ่านบทความนี้นะค่ะ วันนี้เราจะมานำเสนอในเรื่องของ “ ฮีทสโตรก(Heat Stroke) ” หรือโรคลมแดด หลายท่านคงเคยได้ยินชื่อนี้กันมาบ้างแล้วซึ่งเกิดขึ้นกับคน สำหรับครั้งนี้จะพาท่านไปรู้จักโรคฮีทสโตรกที่เกิดขึ้นกับสัตว์เลี้ยงประเภท “สุนัข” เราจะมาเจาะลึกไปถึงความหมาย ลักษณะอาการ ปัจจัยเสี่ยง แนวทางการรักษารวมถึงแนวทางการป้องกัน และหากท่านใดที่เลี้ยงสุนัขอยู่แล้ว ท่านก็สามารถสังเกตอาการของสุนัขท่าน ว่าเป็นโรคฮีทสโตรกหรือไม่เพื่อที่จะสามารถป้องกันและรักษาโรคนี้ ได้ทันเวลา
ความหมายและลักษณะของ “โรคฮีทสโตรก”
“โรคฮีทสโตรกในสุนัข” คือภาวะที่สุนัขมีอุณหภูมิในร่างกายสูงกว่าปกติ ซึ่งถ้าอุณหภูมิสูง ถึง 40 องศาเซลเซียส ก็จะแสดงอาการออกมา เป็นภาวะที่อันตรายมาก เพราะจะทำให้อวัยวะภายในร่างกายของสุนัขล้มเหลว รวมไปถึงเสียชีวิตได้ สามารถเกิดได้ ทุกช่วงเวลาและทุกฤดูกาล แต่ช่วงเวลาที่เสี่ยงมากที่สุดนั้นมักเกิดในช่วงฤดูร้อน
Advertisement
Advertisement
อาการของฮีทสโตรก
อาการของ"ฮีทสโตรก"สามารถสังเกตจากพฤติกรรมสุนัข จากการที่สุนัขมีอุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้น มีภาวะช็อกอาเจียนออกมาเป็นเลือด หมดสติ ไม่มีแรงเดิน หัวใจเต้นเร็วผิดปกติน้ำลายยืดหรือเหนียวเปียกใต้คาง หายใจแรง หอบ เหงือกมีสีแดงก่ำกระหายน้ำรุนแรง ปัสสาวะน้อย หรือไม่ปัสสาวะเลย มีอาการจมูกเปียก ขาหนีบร้อนผิดปกติ ช็อค ชัก เกร็ง หากอาการรุนแรงอาจเสียชีวิตได้
ปัจจัยเสี่ยงที่จะเป็นโรคฮีทสโตรก
ปัจจัยเสี่ยงที่สุนัขนั้นจะเป็นโรคฮีทสโตรก ได้แก่ มีภาวะอ้วน มีปัญหาเกี่ยวกับโรคหัวใจ หรือมีปัญหาด้านการหายใจอยู่แล้วสุนัขอยู่ในช่วงที่เป็นลูกสุนัข หรือช่วงวัยชราสุนัขได้รับน้ำดื่มไม่เพียงพอต่อร่างกายสุนัขเป็นพันธุ์หน้าสั้นหรือสุนัขที่มีขนหนาการที่ทิ้งสุนัขไว้ในรถที่จอดกลางแดด
แนวทางการรักษาเมื่อสุนัขมีอาการฮีทสโตรก
Advertisement
Advertisement
1.ให้สุนัขกินน้ำเย็นควรให้สุนัขกินน้ำเย็นเท่าที่สามารถกินได้ ไม่ควรบังคับให้สุนัขกินน้ำหากสุนัขไม่ยอมกินเอง
2.ควรพาสุนัขไปในที่ที่มีอากาศถ่ายเทควรพาไปอยู่ในที่ที่มีลมโกรก ไม่ควรให้สุนัขไปวิ่งเล่นกลางแดดจนกว่าสุนัขจะหายเป็นปกติ
3.พาสุนัขไปพบสัตวแพทย์ ควรพาสุนัขไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจเช็คร่างกายให้ละเอียดอีกที เมื่อสุนัขอาการดีขึ้นเพื่อความปลอดภัย
4.เช็ดตัวสุนัขนำผ้าขนหนูชุบน้ำเย็นแล้วนำไปเช็ดตัวสุนัข โดยเฉพาะบริเวณข้างหลัง บนหัว คอ รวมไปถึงใต้อุ้งเท้าและใต้ท้อง
5.วัดอุณหภูมิสุนัข วัดอุณหภูมิสุนัขทุกๆ 5 นาที หากอุณหภูมิไม่ลดลงภายใน 20 นาที ควรรีบไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจร่างกาย
แนวทางการป้องกันการเกิดฮีทสโตรกในสุนัข
1.ไม่ควรปล่อยสุนัขไว้ในรถ หากไม่จำเป็นไม่ควรปล่อยสุนัขไว้ในรถ เพราะอุณหภูมิสามารถเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะช่วงฤดูร้อน
Advertisement
Advertisement
2.หาวิธีคลายร้อนให้สุนัข ควรหาวิธีคลายร้อนให้สุนัขของคุณ เช่น เบาะเจลเย็น เปิดพัดลมหรือเครื่องปรับอากาศเป็นต้น
3.ควรพาสุนัขไปเล่นน้ำ หาโอกาสพาสุนัขไปเล่นน้ำ ในสถานที่ต่างๆใกล้บ้าน เช่น แม่น้ำ สระน้ำ เป็นต้น
4.แต่งขนสุนัข ควรพาสุนัขไปตัดแต่งขนให้สั้นลง ถือเป็นการลดความร้อนในร่างกายของสุนัขได้
5.ไม่ควรให้สุนัขอยู่กับอากาศร้อนจนเกินไป ระมัดระวังไม่ให้สุนัขอยู่กับอากาศร้อนจนเกินไปถ้าอาการยังไม่ดีขึ้นเพราะอาจจะทำให้อุณหภูมิ ในร่างกายเพิ่มสูงขึ้น และหวังว่า“สุนัข”ของท่านจะห่างไกลจากโรคฮีทสโตรกค่ะ
ขอบคุณ รูปภาพปกบทความ จาก https://pixabay.com/canva
รูปภาพประกอบที่ 1 จาก https://pixabay.com
รูปภาพประกอบที่ 2 จาก https://pixabay.com
รูปภาพประกอบที่ 3 จาก https://pixabay.com
รูปภาพประกอบที่ 4 จาก https://pixabay.com
รูปภาพประกอบที่ 5 จาก https://pixabay.com
รูปภาพประกอบที่ 6 จาก https://pixabay.com

เราคือ "หนอนหนังสือ" ชีวิตคือการอ่าน การเขียน การอยากรู้..และอยากแชร์
ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์
Advertisement
Advertisement
Advertisement
Advertisement
Advertisement
ข้อตกลงและเงื่อนไข|Copyright © True Digital & Media Platform Company Limited. All rights reserved