อื่นๆ

เรื่องน่ารู้ของ “โรคฮีทสโตรกในสุนัข”

377
คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
เรื่องน่ารู้ของ “โรคฮีทสโตรกในสุนัข”

สวัสดีค่ะทุกท่านที่เข้ามาอ่านบทความนี้นะค่ะ วันนี้เราจะมานำเสนอในเรื่องของ “ ฮีทสโตรก(Heat Stroke) ” หรือโรคลมแดด หลายท่านคงเคยได้ยินชื่อนี้กันมาบ้างแล้วซึ่งเกิดขึ้นกับคน สำหรับครั้งนี้จะพาท่านไปรู้จักโรคฮีทสโตรกที่เกิดขึ้นกับสัตว์เลี้ยงประเภท “สุนัข” เราจะมาเจาะลึกไปถึงความหมาย ลักษณะอาการ ปัจจัยเสี่ยง แนวทางการรักษารวมถึงแนวทางการป้องกัน และหากท่านใดที่เลี้ยงสุนัขอยู่แล้ว ท่านก็สามารถสังเกตอาการของสุนัขท่าน ว่าเป็นโรคฮีทสโตรกหรือไม่เพื่อที่จะสามารถป้องกันและรักษาโรคนี้ ได้ทันเวลา

dog tongue

ความหมายและลักษณะของ “โรคฮีทสโตรก”

“โรคฮีทสโตรกในสุนัข” คือภาวะที่สุนั­ขมีอุณหภูมิในร่างกายสูงกว่าปกติ ซึ่งถ้าอุณหภูมิสูง  ถึง 40 องศาเซลเซียส ก็จะแสดงอาการออกมา   เป็นภาวะที่อันตรายมาก เพราะจะทำให้อวัยวะภายในร่างกายของสุนัขล้มเหลว รวมไปถึงเสียชีวิตได้ สามารถเกิดได้ ทุกช่วงเวลาและทุกฤดูกาล   แต่ช่วงเวลาที่เสี่ยงมากที่สุดนั้นมักเกิดในช่วงฤดูร้อน

Advertisement

Advertisement

thermometer

อาการของฮีทสโตรก

อาการของ"ฮีทสโตรก"สามารถสังเกตจากพฤติกรรมสุนัข จากการที่สุนัขมีอุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้น มีภาวะช็อกอาเจียนออกมาเป็นเลือด    หมดสติ ไม่มีแรงเดิน หัวใจเต้นเร็วผิดปกติน้ำลายยืดหรือเหนียวเปียกใต้คาง  หายใจแรง หอบ เหงือกมีสีแดงก่ำกระหายน้ำรุนแรง ปัสสาวะน้อย    หรือไม่ปัสสาวะเลย มีอาการจมูกเปียก ขาหนีบร้อนผิดปกติ ช็อค ชัก เกร็ง หากอาการรุนแรงอาจเสียชีวิตได้

dog sun

ปัจจัยเสี่ยงที่จะเป็นโรคฮีทสโตรก

ปัจจัยเสี่ยงที่สุนัขนั้นจะเป็นโรคฮีทสโตรก ได้แก่ มีภาวะอ้วน มีปัญหาเกี่ยวกับโรคหัวใจ หรือมีปัญหาด้านการหายใจอยู่แล้วสุนัขอยู่ในช่วงที่เป็นลูกสุนัข หรือช่วงวัยชราสุนัขได้รับน้ำดื่มไม่เพียงพอต่อร่างกายสุนัขเป็นพันธุ์หน้าสั้นหรือสุนัขที่มีขนหนาการที่ทิ้งสุนัขไว้ในรถที่จอดกลางแดด

dog fat

แนวทางการรักษาเมื่อสุนัขมีอาการฮีทสโตรก

Advertisement

Advertisement

1.ให้สุนัขกินน้ำเย็นควรให้สุนัขกินน้ำเย็นเท่าที่สามารถกินได้ ไม่ควรบังคับให้สุนัขกินน้ำหากสุนัขไม่ยอมกินเอง

2.ควรพาสุนัขไปในที่ที่มีอากาศถ่ายเทควรพาไปอยู่ในที่ที่มีลมโกรก ไม่ควรให้สุนัขไปวิ่งเล่นกลางแดดจนกว่าสุนัขจะหายเป็นปกติ

3.พาสุนัขไปพบสัตวแพทย์ ควรพาสุนัขไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจเช็คร่างกายให้ละเอียดอีกที เมื่อสุนัขอาการดีขึ้นเพื่อความปลอดภัย

4.เช็ดตัวสุนัขนำผ้าขนหนูชุบน้ำเย็นแล้วนำไปเช็ดตัวสุนัข โดยเฉพาะบริเวณข้างหลัง บนหัว คอ รวมไปถึงใต้อุ้งเท้าและใต้ท้อง

5.วัดอุณหภูมิสุนัข วัดอุณหภูมิสุนัขทุกๆ 5 นาที หากอุณหภูมิไม่ลดลงภายใน 20 นาที ควรรีบไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจร่างกาย

dog drink water

แนวทางการป้องกันการเกิดฮีทสโตรกในสุนัข

1.ไม่ควรปล่อยสุนัขไว้ในรถ หากไม่จำเป็นไม่ควรปล่อยสุนัขไว้ในรถ เพราะอุณหภูมิสามารถเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะช่วงฤดูร้อน

Advertisement

Advertisement

2.หาวิธีคลายร้อนให้สุนัข ควรหาวิธีคลายร้อนให้สุนัขของคุณ เช่น เบาะเจลเย็น เปิดพัดลมหรือเครื่องปรับอากาศเป็นต้น

3.ควรพาสุนัขไปเล่นน้ำ หาโอกาสพาสุนัขไปเล่นน้ำ ในสถานที่ต่างๆใกล้บ้าน เช่น แม่น้ำ สระน้ำ เป็นต้น

4.แต่งขนสุนัข ควรพาสุนัขไปตัดแต่งขนให้สั้นลง ถือเป็นการลดความร้อนในร่างกายของสุนัขได้

5.ไม่ควรให้สุนัขอยู่กับอากาศร้อนจนเกินไป ระมัดระวังไม่ให้สุนัขอยู่กับอากาศร้อนจนเกินไปถ้าอาการยังไม่ดีขึ้นเพราะอาจจะทำให้อุณหภูมิ  ในร่างกายเพิ่มสูงขึ้น และหวังว่า“สุนัข”ของท่านจะห่างไกลจากโรคฮีทสโตรกค่ะ

dog water

ขอบคุณ รูปภาพปกบทความ จาก https://pixabay.com/canva

รูปภาพประกอบที่ 1 จาก https://pixabay.com

รูปภาพประกอบที่ 2 จาก https://pixabay.com

รูปภาพประกอบที่ 3 จาก https://pixabay.com

รูปภาพประกอบที่ 4 จาก https://pixabay.com

รูปภาพประกอบที่ 5 จาก https://pixabay.com

รูปภาพประกอบที่ 6 จาก https://pixabay.com

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
เทียนหอม
เทียนหอม
อ่านบทความอื่นจาก เทียนหอม

เราคือ "หนอนหนังสือ" ชีวิตคือการอ่าน การเขียน การอยากรู้..และอยากแชร์

ดูโปรไฟล์

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์