อื่นๆ

เรื่องราวของ"โจทาโร่" แมวคู่ใจ

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
เรื่องราวของ"โจทาโร่" แมวคู่ใจ

แมว!?! สิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆที่น่ารักและเย่อหยิ่งหลายคนตกหลุมรักสัตว์ชนิดนี้จนยอมเป็นทาส ที่เรียกกันว่าทาสแมว อะไรนะ!?! คุณคิดว่าหนุ่มหล่อหน้าตาดีสุดเท่อย่างผมจะยอมเป็นทาสแมวงั้นเหรอ? ใช่ คุณคิดถูก ผมเองก็มีแมวสุดรักสุดห่วงอยู่หนึ่งตัวเป็นคู่กรรมกันอยู่ ผมตั้งชื่อให้มันว่า "โจทาโร่" (ชื่อพระเอกโจโจ้ภาค3) แมวตัวนี้เป็นทั้งเพื่อนซี้ยามเหงา และเป็นทั้งศัตรูคู่กัดยามหิว แต่ด้วยหลายๆประการ แมวตัวนี้ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมมีรอยยิ้ม แต่!?! มันมีบางอย่างที่พิเศษกว่าแมวทุกตัว นั้นคือ มันเป็นหลักฐานสำคัญเกี่ยวกับเรื่องบางอย่าง เอาล่ะ! ล้อมวงมาอ่านกันได้ ผมจะเล่าความพิเศษเกี่ยวกับแมวของผมให้ฟัง

      บ้านเกิดผมอยู่ที่ภาคเหนือ เป็นหมู่บ้านที่มีวัฒนธรรมและความเชื่อหลากหลาย ผมเองโตมากับเรื่องพวกนี้ตลอด แต่ยุคสมัยเปลี่ยนความเชื่อของผมก็เปลี่ยนตามไปด้วย ทำให้เวลามีพิธีหรืองานอะไรที่เกี่ยวกับความเชื่อดังเดิม ผมจะไม่ค่อยลงรอยกับคนในบ้านเท่าไหร่ เพราะผมเองค่อนข้างยืดในหลักเหตุผล และวิทยาศาสตร์มากกว่า ต่างกับคนในบ้านที่ยึดถือไว้อย่างดีไม่มีขัด เช่น ผมมักจะแอบหนีไปที่อื่นขณะที่ทางบ้านจัดพิธีบายศรี เพราะผมเบื่อนั่งนานๆ พอกลับมาก็โดนด่าชุดใหญ่ ไฟไม่กะพริบ และก็เป็นแบบนี้เรื่อยๆ จนวันหนึ่ง ผมได้มีโอกาสไปร่วมพิธีสวดอภิธรรมศพที่วัด ขณะที่นั่งเบื่ออยู่ ผมก็สังเกตเห็นแมวตัวหนึ่ง ที่กำลังจะกระโดดขึ้นไปบนแท่นวางศพ! ที่สำคัญมันเป็นแมวดำ! ใช่ ความเชื่อแต่โบราณ ห้ามแมวดำข้ามโลงศพ ผมนึกขึ้นได้แต่ก็ไม่ได้ทำอะไร บังเอิญมีญาติคนตายสังเกตเห็นพอดี เขาจึงจับมันแล้วใส่ไว้ในถังเก็บของ จนพระสวดเสร็จ เขาก็คุยกันทั้งพระทั้งโยม แมววัดใช่มั้ยหลวงพ่อ ไม่ใช่แมวใครก็ไม่รู้ แล้วจะเอามันไปปล่อยไหน ไม่มีคนอยากเลี้ยงมันหรอก เอาไปปล่อยในป่าสิ ดีกว่าต้องฆ่ามันนะ ในหัวผมคิดทันทีว่า เฮ้ยๆ มันก็แค่แมว ให้มันอยู่วัดก็ได้นี่ ดูแล้วรู้เลยว่ามันเป็นแมวบ้าน ไปปล่อยป่าก็เท่ากับปล่อยมันไปตายสิ ผมนึกสงสารมัน ผมก็เลยเข้าไปหาหลวงพ่อแล้วพูดว่า งั้นผมขอไปเลี้ยงได้มั้ยครับ! หลวงพ่อทำหน้างงแล้วพูดว่า อ่อ...เอาไปสิ มันไม่มีเจ้าของ ผมยิ้มแล้วเดินไปหาเจ้าแมวตัวนั้น ผมมองมันสักพัก มันก็ทำหน้ากวนอวัยวะเบื้องล่างแล้วขู่ผม (จะช่วยแท้ๆไอ้แมวยโส!) แต่พอผมพยายามเข้าหามันสักพัก มันก็ยอมให้ผมอุ้มกลับบ้านซะงั้น(เป็นไบโพล่ารึไง) 

Advertisement

Advertisement

แมว

      พอถึงบ้าน แน่นอน คนในบ้านสั่งให้ผมเอามันไปทิ้ง! โดยบอกว่า ถ้าเลี้ยงแมวดำจะมีอันเป็นไป ผมก็เถียงว่า มัน!ก็!แค่!แมว! แต่ถึงยังไงพวกเขาก็ไม่ยอมให้มันอยู่บ้าน สุดท้ายผมจึงบอกไปว่า "ก็ได้ ผมจะเอามันไปเลี้ยงที่หอเอง!" 

      ผ่านมาสองวันในห้องพักกับแมวดำนิรนามตัวหนึ่ง ก่อนหน้าที่ผมจะมาทุกคนพยายามห้ามไม่ให้ผมเลี้ยง แต่ผมก็ยืนกรานว่าจะเลี้ยง และตอนนี้เอง ผมบอกกับแมวตัวนี้ว่า เฮ้! ไอ่ก้อนแมว มาพิสูจน์กัน ว่าแกเป็นแมวธรรมดา ไม่ใช่ตัวอันตราย มันมองหน้าผมเหมือนรู้เรื่องจากนั้นก็ทำหน้ากวนโอ้ยแล้วเดินไปนอนในลังกระดาษ(หมั่นไส้)

แมว

     เข้าสู่วันที่สาม ผมก็คิดได้ว่าไหนๆก็จะเลี้ยงอยู่แล้ว จะให้ผมเรียกมันว่าไอ่ก้อนแมวตลอด มันก็ไม่เข้าท่าสักเท่าไหร่ ก็เลยหาชื่อเจ๋งๆให้มัน หลังจากเสียเวลามานาน ชื่อสุดท้ายที่ผมเรียกแล้วมันยอมขานรับก็คือ "โจทาโร่" ตอนนี้ผมได้ทำการรับใช้โจทาโร่มา 4ปีแล้ว และกาลเวลาก็พิสูจน์ ว่ามันก็แค่แมวจริงๆ ผมยังมีชีวิต และมีความสุขดี ส่วนหนึ่งเป็นเพราะโจทาโร่นั้นแหละ แต่! มันอาจเป็นแมวผีจริงๆก็ได้! เพราะ4ปีที่ผ่านมา มันทำจานแตกไปไม่ต่ำกว่าร้อยใบ และชอบแอบกินบะหมี่ที่ผมต้มทิ้งไว้อีกด้วย! ต้องใช่แน่ๆ "โจทาโร่ แมวปีศาจ"

Advertisement

Advertisement

แมว

   ผมเขียนบทความนี้ขณะที่โจทาโร่นั่งอยู่บนโต๊ะทำงานกับผม หลังจากที่มันถีบเเก้วกาแฟผมหก ผมนั่งมองมันและยังคิดเหมือนเดิมเสมอว่า แมวมันไม่ใช่สาเหตุการเสียชีวิต มันไม่ได้ไปไล่ฆ่าใคร แต่สาเหตุที่แท้จริงคือ ความประมาท เพราะไม่ว่าคุณจะเลี้ยงแมวดำสักกี่ตัว ถ้าคุณมีสติและไม่ประมาทในการใช้ชีวิต ความตายก็ไม่อาจทำร้ายคุณได้ง่ายๆ 

       สุดท้ายนี้ผมเชื่อว่า ยังมีคนอีกมากที่เชื่อว่าแมวดำเป็นลางร้าย ผมไม่ว่าคุณหรอก ความเชื่อและศรัทธามันขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละคน เราไม่เชื่อ ก็ไม่ควรไปต่อว่าคนที่เขาเชื่อ เพราะบางสิ่งบางอย่าง ก็เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจเขาและทำให้เขาสบายใจและมีความสุข ส่วนคนที่มีความเชื่อก็เช่นกันครับ คนที่เขามีหลักการและความเชื่อเป็นของตัวเองนั้น ก็ไม่ควรเอาสิ่งต่างๆไปยัดให้เขา เพราะเราต่างเป็นมนุษย์ที่มีความเชื่อของตัวเองเหมือนกันทุกคน การถกเถียงควรเป็นการแลกเปลี่ยนความคิด ไม่ควรจะมีการเย้ยหยันต่อว่า หรือล้อเลียน ไม่ควรใช้อารมณ์ แต่ควรใช้อาวุธ เอ้ย!!! ไม่ใช่ๆ ต้องเป็น ไม่ใช่อารมณ์แต่ใช้ความเข้าใจนะครับ เอาล่ะ! ผมต้องเอาผ้าห่มที่คุณท่านโจทาโร่ฉี่ใส่ไปซักก่อน จบเลยละกัน ขอให้สนุกกับการใช้ชีวิตครับทุกคน

Advertisement

Advertisement

เครดิตรูปภาพ

รูปปก :วาดโดย แมวผมเป็นMichael Myers

รูปประกอบ 1 :วาดโดย แมวผมเป็นMichael Myers

รูปประกอบ2 :วาดโดย แมวผมเป็นMichael Myers

รูปประกอบ3 :วาดโดย แมวผมเป็นMichael Myers

ร่วมเสพบทความ หนัง เพลง และซีรีส์ใหม่ๆสุดเพลิดเพลิน โหลดเลยที่ App TrueID ฟรี !

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์