เรื่องราวของพ่อ ที่เราได้เรียนรู้ผ่าน นิทรรศการพระเมรุมาศพิมานนฤมิตร

สวัสดีครับ วันนี้หนูแดงมีเรื่องราวที่หลาย ๆ คน ไม่เคยทราบมาก่อนเกี่ยวกับพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช  บรมนาถบพิตร มาเล่าสู่กันฟังครับ สืบเนื่องจากเมื่อประมาณช่วงเดือนพฤศจิกายน 2560 หลังจากเสร็จสิ้นพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่ 9 แล้ว ก็มีการจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติขึ้น โดยใช้ชื่อนิทรรศการว่า "พระเมรุมาศพิมานนฤมิตร"  ซึ่งจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 2-30 พฤศจิกายน 2560 ซึ่งในช่วงแรกนั้น สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ  สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินมาทรงเปิดนิทรรศการ ภายในนิทรรศการนั้นมีการจัดแสดงเกี่ยวกับ พระราชประวัติ พระราชกรณียกิจ ของใช้ส่วนพระองค์ และ จัดแสดง เครื่องประกอบพระเมรุมาศ โดยแบ่งการจัดแสดงออกเป็นหลาย ๆโซนด้วยกันครับ จัดแสดงภายในอาคารปลูกสร้างภายในบริเวณที่ใช้จัดงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ซึ่งบทความนี้หนูแดงจะขอเล่าเกี่ยวกับโซนนิทรรศการ "พระผู้ทรงเป็นนิรันดร์" ที่จัดแสดงภายในพระที่นั่งทรงธรรม

โซนต่อมา "รัชกาลที่ร่มเย็น" โซนนี้นำเสนอในเรื่องของการทรงงานด้านต่าง ๆ นับตั้งแต่การเสด็จฯ ออกเยี่ยมราษฎรในถิ่นทุรกันดารตามภาคต่างๆ ทรงริเริ่มและทดลองโครงการด้านต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือประชาชนให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น อันเป็นที่มาของโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ผ่านการจัดแสดงอุปกรณ์ทรงงานหลายชิ้น ที่จำลองมาจัดแสดง เช่น โต๊ะทรงงาน วิทยุส่วนพระองค์ รวมถึงจัดแสดงภาพยนตร์ส่วนพระองค์

โซนต่อมา "เพ็ญพระราชธรรม" บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับ "ทศพิศราชธรรม 10 ประการ" ที่ทรงใช้ในการปกครองประเทศ  และพระราชกรณียกิจด้านการศาสนา รวมทั้งจัดแสดงเกี่ยวกับความเป็นมา ลักษณะและความหมายของ พระพุทธนวราชบพิตร ซึ่งในหลวงรัชกาลที่9 ทรงออกแบบและโปรดเกล้าฯ ให้จัดสร้างขึ้นเพื่อพระราชทานเป็นพระพุทธรูปประจำจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศเมื่อ พ.ศ.2509

โซนต่อมา "นำพระราชไมตรี" จัดแสดงเกี่ยวกับพระราชกรณียกิจด้านการต่างประเทศ นับตั้งแต่ทรงขึ้นครองสิริราชสมบัติ เช่น การทรงต้อนรับพระราชอาคันตุกะต่างประเทศที่เสด็จมาเยือนประเทศไทยและการเสด็จพระราชดำเนินเยือนประเทศในทวีปเอเชีย และสหรัฐอเมริกา และต่อด้วย 13ประเทศในทวีปยุโรปและอีกหลายประเทศเพื่อเจริญสัมพันธไมตรี จากการเสด็จพระราชดำเนินเยือนต่างประเทศหลายต่อหลายครั้งก็นำมาซึ่งสัมพันธไมตรีที่ดีกับมิตรประเทศนั้น ๆ ก่อให้เกิดความเข้าใจอันดีและความร่วมมืออีกมากจนถึงปัจุบัน

โซนสุดท้ายของนิทรรศการในส่วนของ "พระผู้ทรงเป็นนิรันดร์" ก็คือ "พระจักรีนิวัติฟ้า" นำเสนอและถ่ายทอดเรื่องราวหลังการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งในช่วงนั้นประชาชนทั่วฟ้าเมืองไทยต่างโศกเศร้าอาดูรที่สูญเสียพระมหากษัตริย์อันทรงเป็นที่รักและถ่ายทอดเหตุการณ์วินาทีสำคัญ ตั้งแต่เสด็จสวรรคตจนถึงพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ บอกเล่าถึงความจงรักภักดีของพสกนิกรชาวไทยตั้งแต่การสวมใส่ชุดดำเพื่อถวายความอาลัยและเฝ้าส่งเสด็จขบวนพระบรมศพอย่างเนืองแน่น

ภาพถ่ายโดย หนูแดงแกงไก่