อื่นๆ

เรื่องเล่า...จากความฝัน!! (ในค่ำคืนสยอง)

336
คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
เรื่องเล่า...จากความฝัน!!  (ในค่ำคืนสยอง)

ความฝัน ก็คือความฝัน แต่การที่เราฝันเห็นสิ่งที่ไม่ควรเห็นนั้นทำให้ผู้เขียนเองอดคิดไม่ได้ว่า ตัวเองอาจจะมีสัมผัสที่หก ที่เรียกกันว่า Six sense

ตั้งแต่จำความได้ผู้เขียนจำได้ว่า เป็นคนกลัว "ผี" เอามากๆ ขนาดที่ว่า ไม่กล้าอยู่ในบ้าน หรือในห้องของตัวเองคนเดียวเลย และหลายครั้งหลายคราที่ตัวผู้เขียนมักจะฝันถึงบุคคลที่ตายไปแล้วทั้งที่รู้จักและไม่รู้จัก ซึ่งในความฝันนั้นเหมือนเป็นความจริงมากๆ ต้องบอกก่อนเลยว่านี่เป็นความเชื่อส่วนบุคคล และตัวผู้เขียนเองอยากจะมาเล่าประสบการณ์ตรงที่ตัวผู้เขียนได้ประสบพบเจอมาตลอดระยะเวลาหลายปี เรื่องอาจจะไม่น่ากลัว แต่เป็นเรื่องแปลกที่มักจะเกิดขึ้นกับตัวผู้เขียนเสมอๆ มาสยองกับเรื่องเล่าจากความฝันของผู้เขียนด้วยกันค่ะ


ฝันที่ 1 ความฝันในวัยเด็กผี

ในค่ำคืนหนึ่งเวลานอนที่หลายๆ คน อาจจะฝันไปเรื่อยเปื่อย หรืออาจจะไม่ฝันเลย แต่ตัวผู้เขียนในวัยเด็ก ตอนนั้นจำได้ประมาณ 7 ขวบ ได้ฝันว่า ตนเองกำลังทานข้าวอย่างเอร็ดอร่อย โดยมีแม่เป็นคนป้อนข้าว คำแล้วคำเล่า แต่เมื่อกำลังเพลิดเพลินอยู่นั้น อยู่ๆ ผู้เขียนก็ต้องแปลกใจเมื่อครั้งนี้ช้อนที่ยื่นมาตรงหน้า ว่างเปล่า ไร้ข้าวและกับข้าวในช้อน ตัวผู้เขียนขมวดคิ้วด้วยความงุนงงว่าทำไมแม่ถึงยื่นช้อนเปล่ามาให้ จึงได้มองตามขึ้นไปยังมือข้างนั้น มองตามไปเรื่อยๆ และอดที่จะแปลกใจไม่ได้ว่า ทำไม มือและแขนของแม่ไม่เหมือนเดิม มันเหี่ยวแห้งมาก เรียกได้ว่าหนังติดกระดูก และยาวมากๆ จนในที่สุดก็ได้แหงนมองจนคอตั้งบ่า ภาพที่เห็นทำให้ผู้เขียนช็อคเป็นอย่างมาก คนที่เห็นตรงหน้าไม่ใช่แม่ของผู้เขียน แต่เป็นใครก็ไม่รู้ ลำตัวสูงยาว แขนขายาว มือใหญ่กว่าคนทั่วไป ลำตัวเหี่ยวแห้ง ถือช้อนยื่นมาตรงหน้า ผู้เขียนตกใจมาก และสะดุ้งตื่นในทันที ภาพในฝันเหมือนจริงจนติดตา จนเช้าจึงได้เล่าให้แม่ฟังถึงเหตุการณ์ในฝัน แม่ไม่พูดอะไรมากแค่บอกว่าวันนี้ไปตักบาตรและอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้เค้า

Advertisement

Advertisement


ฝันที่ 2 ฝันในวันเรียน

ฝันเมื่อผู้เขียนได้มาเข้ามหาวิทยาลัย และมหา'ลัย อยู่ห่างจากบ้านจนไม่สามารถ ไป- กลับได้ จึงจำเป็นที่จะต้องอยู่หอ สิ่งแรกที่ผู้เขียนเรียนรู้เมื่อต้องไปนอนต่างที่ทาง ซึ่งเป็นความเชื่อส่วนบุคคลที่ทำแล้วเราสบายใจ นั่นก็คือการ "ซื้อที่" แต่ก็เหมือนจะช่วยให้เราแค่สบายใจเท่านั้น ช่วงเรียนมหา'ลัย เป็นช่วงที่ผู้เขียนฝันบ่อยเอามากๆ เช่น ในหอของ มหา'ลัยจะเป็นเตียง 2 ชั้นวางคนละมุมห้องหันหน้าเข้ากัน นอนรวมกันทั้งหมด 4 คน ตัวผู้เขียนเคยฝันว่า มีผู้ชายนั่งอยู่บนเตียงนอนชั้น 2 ของเพื่อนที่อยู่ตรงข้าม ลักษณะนั่งหย่อนขาและหันหน้ามองมาที่ตัวผู้เขียน หรือ มีผู้ชายเข้ามากทักทายและบอกว่า "เราน่ะ อยู่ห้องนี้มาตั้งนานแล้ว" แต่นี่ยังไม่แปลกเท่า ตอนที่เราย้ายออกจากหอในมหา'ลัย เพื่อให้รุ่นน้องปี 1 ได้เข้ามาพักต่อ โดยหอที่ไปอยู่ เป็นหอที่ไม่ใกล้ไม่ไกลจาก มหา'ลัย และค่อนข้างเก่าพอสมควร แต่เนื่องจากมีราคาถูกมากอีกทั้งมีเพื่อนสนิทพักอยู่ห้องข้างๆ จึงตัดสินใจย้ายเข้าไปอยู่ ในวันหนึ่งที่ผู้เขียนได้ทำงานส่งจนดึกดื่น ซึ่งวันถัดมาไม่ได้มีเรียนจึงทำงานจนถึงประมาณตี 4 เมื่อเสร็จจึงได้ล้มตัวลงนอนด้วยความง่วงและเหนื่อยล้า จำได้ว่านอนไม่ถึงห้านาที ครั้งนี้ตัวเราเองไม่ทราบเหมือนกันว่าแท้จริงแล้วหลับหรือตื่น เป็นความจริงหรือว่ากำลังฝันอยู่กันแน่ ความรู้สึกในตอนนั้นยังจำได้ถึงวันนี้ ผู้เขียนนอนตะแครงข้างหันหลังให้ผนัง จากนั้นมีความรู้สึกว่าที่นอนข้างๆ ยุบตัวลง ตามมาด้วยเหมือนมีนิ้วมือมาสะกิดที่ไหล่ประมาณ 3 ที มีลมผ่านหูพร้อมเสียงกระซิบเบาๆ เรียกชื่อ (M M M ชื่อสมมุติ) ค่อนข้างแปลกใจนิดหน่อย ตรงที่ชื่อนั้นเป็นชื่อของพี่ชายเรา จากนั้นก็มีอีกเสียงหนึ่งพูดขึ้นว่า "ไม่ใช่ ไม่ใช่" คนนี้ชื่อ (N N N ชื่อสมมุติชื่อเล่นผู้เขียน) เราได้ยินแบบนั้นคือกลัวมาก กลั้นใจรีบลุกขึ้นเปิดประตูเดินออกไปเคาะประตูห้องเพื่อนที่อยู่ข้างๆ ขอนอนด้วยคน เมื่อถึงตอนเช้าเราได้โทรไปหาแม่ ถามว่าพี่ชายโทรหาบ้างหรือเปล่า แม่จึงได้เล่าว่ามีเพื่อนพี่เพิ่งโทรมาหา และบอกว่าประมาณ ตี 3 -4 พี่ชายเราประสบอุบัติเหตุ รถจักยานยนต์ล้มเนื่องจาก มีการขึงลวดสลิงที่ถนน จากการช่วยรถยนต์ประสบอุบัติเหตุแต่ไม่มีสัญญาณเตือน ทำให้พี่ชายขับรถไปและมองไม่เห็นลวดสลิงนั้น ชนลวดสลิงและลวดรูดจากหน้าอกจนมาถึงคอ รถเสียหลักล้มลงได้รับบาดเจ็บ โชคยังดีที่ขับรถไม่เร็วทำให้ไม่ถึงชีวิต เหตุการณ์นี้ทำให้เราแปลกใจมากว่า 2 คนนั้นเป็นใครที่มาสะกิดเรียกเราแล้วทำไมถึงเรียกชื่อพี่ชายเรา ต้องการจะสื่ออะไรกับเรากันแน่ ผู้เขียนเองก็ยังสงสัยอยู่จนถึงทุกวันนี้ (เรื่องนี้ถ้าผู้อ่านท่านใดมีความคิดเห็นอย่างไร ก็คอมเมนต์บอกกันได้นะคะ)

Advertisement

Advertisement


ฝันที่ 3 ฝันของวัยทำงาน

เดินในทางเปลี่ยว

ผ่านมาครึ่งชีวิตแล้วผู้เขียนก็ยังจะฝันอยู่ เรื่องฝันแปลกๆ ยังมีอยู่ต่อเนื่อง แต่ฝันที่ทำให้ผู้เขียนรู้สึกสลดและสังเวชใจคือ ในความฝันนั้น ผู้เขียนได้เดินไปตามทางที่ทอดยาว เป็นทางที่คุ้นเคยอย่างมาก เพราะเป็นทางที่ผู้เขียนใช้เดินทางไปกลับหอพักกับที่ทำงานตลอด 1 ปีที่ผ่านมา ตลอดทางนั้นผู้เขียนมองเห็นสองข้างทางเต็มไปด้วยผู้คนทั้ง เด็ก คนแก่ วันรุ่นหนุ่มสาว มีทุกเพศทุกวัย นั่งบ้าง ยืนบ้าง นอนบ้าง ตามเนื้อตัวของบางคนเต็มไปด้วยรอยแผล ฟกช้ำ รอยเลือด หรือบางคนก็ไม่มีแผลเลย คนเหล่านั้นไม่ได้มองมาที่ผู้เขียนแต่อย่างใด ไม่ได้พูดคุยหรือมีปฏิสัมพันธ์กัน และไม่ทราบว่าเค้ามองอะไร หรือคอยอะไรกันแน่ ต่างคนต่างอยู่กับตัวเอง แต่ที่รู้แน่ๆ คือเค้าไม่ใช่คน ผู้เขียนเดินผ่านไปเรื่อยๆ ได้แต่มองแล้วคิด ว่าเค้าเหล่านั้นต้องการอะไร ผ่านอะไรมา หรือในช่วงตอนมีชิวิตเค้าทำสิ่งใด หรือเจอสิ่งใดถึงต้องเป็นเช่นนี้ ผู้เขียนเดินไปเรื่อยๆ และทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงร้องเรียก ผู้เขียนหยุดเดินและหันกลับไปมองตามเสียงนั้น เห็นผู้ชายคนหนึ่งรูปร่างท้วม ผิวสีเข้ม นั่งขัดสมาธิ ตอนที่เดินผ่านจำได้ว่าเค้าก้มหน้าอยู่ ผู้ชายคนนั้น เงยหน้าขึ้นมามอง พร้อมยกมือขึ้นเหมือนทักทายเรา เราสังเกตุเห็นหน้าเค้าบวมช้ำ สายตาที่มองเหมือนอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เราก็ชิงพูดขึ้นมาก่อนว่า "ไม่ต้องพูดอะไร แล้วก็ไม่ต้องมาเข้าฝันอีกแล้วนะ เดี๋ยวจะทำบุญไปให้" จากนั้นเราก็ตื่น หลังจากวันนั้นเราก็ไปทำบุญอุทิตส่วนบุญให้กับเค้า พร้อมๆ ทั้งอุทิตให้เจ้าที่เจ้าทางของหอที่เราเข้าไปพักอาศัยด้วย ค่ำคืนหลังจากนั้น เราไม่ได้ฝันถึงผู้ชายคนนั้น แต่เราฝันถึงผู้หญิงคนหนึ่ง ในฝันเราถือถาดอาหาร ในถาดมีทั้งอาหาร และน้ำ นำไปวางไว้ตรงต้นไม้ต้นหนึ่ง จากนั้นเราก็เคาะดินตรงนั้น 3 ครั้ง สิ้นการกระทำนั้น เราเห็นผู้หญิงคนหนึ่งอายุประมาณ 60-70 ปี โผล่มาจากดินแค่ครึ่งตัว ยิ้ม พร้อมยื่นมือ 2 ข้างไปรับถาดอาหาร จากนั้นก็หายไปต่อหน้าต่อตาเรา เราตื่นและคิดถึงผู้หญิงคนนั้น คิดถึงต้นไม้ต้นนั้น และจำได้ว่าที่ตรงนั้นคือตรงที่เมื่อเช้าเราได้กรวดน้ำอุทิตส่วนบุญส่วนกุศลให้กับชายที่ฝันถึง พร้อมบอกกล่าวบุญถึงเจ้าที่เจ้าทางด้วย ซึ่งผู้หญิงคนนั้นอาจจะเป็นเจ้าที่หรือเปล่าไม่ทราบ เพราะที่หอพักไม่มีศาลพระภูมิ หรือศาลเพียงตา เค้าอาจเป็นใครก็ได้ แต่ผู้เขียนรับรู้แล้วว่าเค้าได้รับส่วนบุญไปแล้ว

Advertisement

Advertisement


ตักบาตรจากการฝันเห็น "ผี" หรือ "สัมภเวสี" มามากมาย เรารู้สึกว่าเราไม่ได้กลัวผีอีกต่อไป เรากลับเหมือนได้ข้อคิดบางอย่างในการดำเนินชีวิตโดยการใช้ชีวิตไม่ประมาท มีสติ และทำบุญมากขึ้น

เราไม่รู้หรอกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับเราเรียกว่าเรามี Six sense มีบุญ มีบาป หรือเกิดจากการที่เรากลัวมากๆ ในตอนแรก ที่ทำให้ตลอดมาเราได้ฝัน ได้เห็นในสิ่งที่บางคนไม่ได้เห็น มันอาจจะเป็นแค่ความฝันที่บางคนอาจมองว่าเพ้อเจ้อ แต่สิ่งนี้ทำให้ตัวผู้เขียนได้ตระหนักถึงการทำบุญมากขึ้น ทำเพื่อสะสมบุญให้แก่ตัวเอง เผื่อว่าวันหนึ่งอาจเกิดสิ่งไม่คาดฝัน และเราก็ยังคงมี "บุญ" ช่วยนำทาง

เพื่อนๆ คนไหนเคยมีประสบการณ์เกี่ยวกับสิ่งลี้ลับก็นำมาเล่าสู่กันฟัง แลกเปลี่ยนข้อคิดกันได้นะคะ


ภาพหน้าปก ขอบคุณภาพจากคุณ KELLEPICS :Pixabay

ภาพประกอบที่ 1 ขอบคุณภาพจากคุณ KELLEPICS :Pixabay

ภาพประกอบที่ 2 ขอบคุณภาพจากคุณ KELLEPICS :Pixabay

ภาพประกอบที่ 3 ขอบคุณภาพจากคุณ cocoparisienne :Pixabay

ภาพประกอบที่ 4 ขอบคุณภาพจากคุณ jwasharapol :Pixabay


อัปเดตข่าว ดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID ฟรี!

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์