อื่นๆ
เรื่องเล่า ประสบการณ์หลอน คืนวันพระ

เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ผู้เขียนเองกำลังอยู่ในช่วงวัยรุ่น ซึ่งกำลังจบมัธยมศึกษาตอนปลายที่ต่างจังหวัดใหม่ ๆ และเนื่องจากทางบ้านยากจนจึงไม่มีเงินพอที่จะส่งเสียให้เรียนต่อได้สูง ๆ ผู้เขียนจึงต้องเข้าไปหางานทำในเมืองใหญ่ เช่น กรุงเทพ ฯ และนี่เป็นที่มาของเรื่องหลอน ๆ ที่ผู้เขียนได้ไปประสบพบเจอมาด้วยตัวเองนั่นเองค่ะ. ผู้เขียนได้งานทำที่โรงงานแห่งหนึ่งแถว ๆ บางแค ถนนเพชรเกษมซอย 54 และได้ไปเช่าห้องเพื่อสำหรับพักอยู่อาศัย
ลักษณะของตัวบ้าน จะเป็นบ้านไม้เก่า ๆ มีใต้ถุนสูง มีบันไดไม้ที่ไม่ค่อยจะแข็งแรงเท่าไหร่นักทอดยาวขึ้นไปบนตัวบ้าน ด้านบนตัวบ้านเช่าจะมีเพียงแค่ 4 ห้อง ซึ่งจะเป็นหลังเดียวกันกับที่เจ้าของบ้านพักอาศัยอยู่ แต่ว่าจะเป็นคนละด้าน ดูง่าย ๆ คือ บ้านหลังเดียวกัน ครึ่งหลังด้านหนึ่งจะทำแบ่งไว้ให้ผู้เช่ามาเช่าอยู่ ส่วนครึ่งหลังอีกด้าน จะเป็นที่พักของเจ้าของบ้านนั่นเองค่ะ. ส่วนครึ่งหลังที่ทำไว้ให้เช่า จะมีระเบียงด้านหน้าเป็นทางเดิน ส่วนห้องที่ผู้เขียนได้เช่าอยู่ เป็นห้องสุดท้าย มีระเบียงด้านข้างด้วยค่ะ และจะมีหน้าต่างอยู่ทางด้านข้าง 4 บาน ซึ่งหน้าต่างห้องเช่าจะมีเพียงแค่ 2 ห้อง คือห้องแรกและห้องสุดท้ายเท่านั้น ส่วนอีกสองห้องตรงกลางจะไม่มีหน้าต่างค่ะ ส่วนห้องน้ำ และ ห้องอาบน้ำจะเป็นห้องน้ำรวมอยู่ด้านล่างใต้ถุนบ้านค่ะ ทีนี้เราจะมาเข้าเรื่องเลยแล้วกัน ห้องที่ผู้เขียนเช่าอยู่ ในส่วนของระเบียงด้านข้างไม้ก็จะเก่าและผุไปตามกาลเวลา ซึ่งคนปรกติคนธรรมดาถ้าขืนไปยืนไปเดินมีหวัง ไม้ที่ผุอยู่คงจะหักและคนก็คงจะร่วงหล่นลงไปกองอยู่ที่ใต้ถุนบ้านแน่นอน ที่ผู้เขียนเลือกที่จะอยู่บ้านไม้เก่า ๆ หลังนี้ ก็เพราะเห็นว่า ราคาถูกกว่าที่อื่น เลยตัดสินใจมาเช่าและก็ย้ายข้าวของเข้ามาอยู่ค่ะ
Advertisement
Advertisement
และกว่าจะทำความสะอาด ปัดกวาด เช็ด ถู ห้องพัก เสร็จเรียบร้อย ก็กินเวลาไปหลายชั่วโมง เย็นจนเกือบค่ำ จึงได้หุงหาข้าวปลา รับประทาน เมื่อรับประทาน ข้าวปลาอาหารเสร็จเรียบร้อย ก็ลงไปอาบน้ำ จากนั้นจึงกางมุ้งกันยุง ปิดไฟ แล้วรีบล้มตัวลงนอนเพื่อพักผ่อน เพราะพรุ่งนี้ต้องไปทำงานแต่เช้า จนลืมไปว่า ตัวเราเองยังไม่ได้จุดธูปไหว้สักการะบูชาเจ้าที่เจ้าทางตามธรรมเนียมที่เราได้เข้ามาพักอาศัยในคืนวันแรกเลยค่ะ อากาศค่อนข้างร้อน ก่อนนอนจึงได้เปิดประตูหน้าต่างทิ้งเอาไว้ เพื่อให้ลมโกรกเข้า และก่อนจะหลับ เราเองยังมีความรู้สึกได้ว่า ลมข้างนอกแรงมาก พัดเขย่าหน้าต่างที่เราเปิดเอาไว้จนเกิดเสียงดัง เราหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย
และฝันไปว่า มีผู้หญิงผมยาวมายืนอยู่ที่ประตูหน้าต่างตรงระเบียงไม้ด้านข้าง ในความฝัน มันมืดมิดไปหมด จนเราไม่สามารถมองเห็นหน้าตาของผู้หญิงคนนั้นได้อย่างชัดเจนและผมก็ยาวลงมาปิดหน้า จึงมองเห็นเพียงเงาตะคุ่ม ๆ เท่านั้น เราตกใจสะดุ้งตื่นขึ้นมา เวลาน่าจะประมาณ ตีสองตีสาม เรารู้สึกกลัวมาก แต่ไม่รู้จะทำอย่างไร ? มองดูรอบ ๆ ตัว มีแต่ความมืดมิด เรามองไปที่หน้าต่างที่เราเปิดเอาไว้ รู้สึกขนลุกซู่ กลัวอย่างบอกไม่ถูก แต่พยายามข่มจิตข่มใจเอาไว้ ไม่กล้าแม้แต่จะลุกขึ้นมาปิดประตูหน้าต่าง รีบเอาผ้าห่มคลุมหัว และผล็อยหลับไป จนกระทั่งรุ่งเช้า เรารีบลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัว อ้อ.ลืมบอกไปค่ะว่า. ห้องแรกมีลุงกับป้ามาเช่าอยู่ก่อนหน้าแล้ว ป้าทำงานโรงงานเย็บผ้า ส่วนลุงเป็นยามค่ะ และสองห้องตรงกลางยังไม่มีคนเข้ามาพักอาศัยค่ะ ก่อนไปทำงานได้เจอลุงกับป้า เค้าทั้งสองถามเราว่า เมื่อคืนหลับสบายดีไหม เราได้ไม่ตอบ ได้แต่ยิ้ม เลิกงานตอนเย็นเราไม่ลืมที่จะซื้อพวงมาลัยมาสักการะจุดธูปบูชาไหว้ เจ้าที่เจ้าทาง หลังจากวันนั้นมาเราก็ไม่เคยฝันถึงผู้หญิงคนนั้นอีกเลย
Advertisement
Advertisement
เราอยู่บ้านเช่ามาได้ประมาณอาทิตย์กว่า ๆ จนเริ่มเข้าอาทิตย์ที่สอง มีเพื่อนร่วมงานที่เริ่มสนิทกันบ้างแล้ว วันหยุดอาทิตย์นี้เลยนัดกันว่า จะมาทำอะไรกินกันที่บ้านเช่าของเรา เพราะผู้คนไม่พลุกพล่านดี และพอถึงวันอาทิตย์ เพื่อนสองสามคนก็มากันค่ะ ต่างคนต่างซื้อของติดไม้ติดมือ มากันคนละอย่างสองอย่าง เพื่อทำกับข้าวบ้าง กับแกล้มบ้าง ที่ขาดไม่ได้คือ เหล้ากับเบียร์นี่แหละค่ะ ก็พวกเรายังอยู่ในช่วงวัยรุ่นก็ต้องสังสรรค์เฮฮากันบ้าง ถือเป็นเรื่องปรกติ เรานั่งกินนั่งคุยกันจนกระทั่งได้เวลาเย็น เพื่อน ๆ ต่างก็แยกย้ายกลับค่ะ มีเพื่อนผู้หญิงอีกคนที่ไม่ยอมกลับค่ะ บอกว่าจะนอนเป็นเพื่อนเรา หลังอาบน้ำ อาบท่าเสร็จ เราก็ปิดไฟเตรียมตัวเข้านอนกัน วันนี้เราปิดประตูหน้าต่างเอาไว้ เพราะอากาศเย็นตอนกลางคืนเนื่องจากยังอยู่ในช่วงฤดูหนาว เราสองคนกับเพื่อนนอนคุยกันไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งดึกสงัด เงียบไม่มีแม้กระทั่งเสียงลมพัด และแล้ว เราสองคนก็ได้ยินเสียงเขย่าประตูหน้าต่างห้องเช่าที่ปิดเอาไว้อย่างแรง โครม.! โครม.!โครม.! เราสองคนกับเพื่อน กระซิบกันว่า เดี๋ยวถ้ามาเขย่าประตูหน้าต่างอีกเราจะย่องไปเปิดดูว่าใครกันแน่ที่มาเขย่าหน้าต่างได้แรงอย่างนี้ สักพักก็มีเสียงเขย่าประตูหน้าต่างอีก โครม.! โครม.! โครม.! ไวเท่าความคิด เรากับเพื่อนต่างพุ่งตัวไปที่หน้าต่าง พร้อมกับถอดกลอนเปิดออกทันที ว่างเปล่า ตรงระเบียงไม่มีแม้แต่เงาคน มีแต่ความมืด ไม่มีแม้กระทั่งเสียงลมพัด เรากับเพื่อนปิดประตูหน้าต่าง แล้วกลับมาล้มตัวลงนอน แต่เราสองคนก็ยังนอนไม่หลับ มีแค่ความงุนงง สงสัย ในเรื่องที่เกิดขึ้น โดยที่ยังไม่เคยคิดสักนิด ถึงเรื่องผี ๆ เหลอน ๆ เราสองคนนอนไปได้สักพัก เสียงเขย่าประตูหน้าต่างก็กลับมาดังขึ้นอีก คราวนี้เรากับเพื่อนตกลงกันว่า อีกคนจะย่องไปเปิดประตูหน้าต่าง ส่วนอีกคนจะย่องไปเปิดประตูหน้าห้อง เพราะถ้าเป็นคนก็ต้องวิ่งผ่านประตูหน้าห้องอยู่แล้ว.จริงไหม.? เสียงเขย่าประตูดังแรงและถี่ขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อนเราพุ่งตัวไปเปิดหน้าต่าง ส่วนเราพุ่งตัวไปเปิดประตู ผลลัพธ์ที่ได้ ด้านนอกมีแต่ความว่างเปล่า ไม่มีใครอยู่ด้านนอกเลยแม้สักคนเดียว เพราะถ้าเป็นคนธรรมดา วิ่งออกมา เราก็ต้องเห็นบ้าง แต่นี่ไม่มีใครเลยจริง ๆ
ในขณะนั้น.ขนทั้งตัวของเรามันลุกซู่ขี้นมาเองจนรู้สึกหนาวยะเยือกไปทั้งตัว ในสมองเราแว่บแรก.ที่คิดขึ้นมาได้ ผีแน่ ๆ เราสองคนตกใจผวากอดคอกัน เพื่อนเราร้องไห้โฮ เสียงดัง จนป้ากับลุงได้ยินเลยเปิดไฟลุกขึ้นมาดู เราสองคนเลยเล่าให้ลุงกับป้าฟัง ป้าปลอบเราสองคน แล้วบอกว่า เจ้าที่เจ้าทางที่บ้านนี้แรง และเป็นผู้หญิง เนื่องจากวันนี้ก็เป็นวันพระด้วยป้าบอก เรากินเหล้ายาปลาปิ้งแล้วไม่เซ่นเจ้าที่ เค้าเลยโกรธ มาเขย่าประตู มาทำให้เรารู้ ทีหลังจะได้ไม่ทำแบบนี้อีก ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ทุกครั้งที่เราหยุดวันอาทิตย์เราจะไปทำบุญใส่บาตรกรวดน้ำให้เจ้าที่เจ้าทางเป็นประจำ แล้วหลังจากวันนั้นเป็นต้นมา เพื่อนเราก็ไม่กล้ามานอนที่ห้องเช่าเราอีกเลย
Advertisement
Advertisement
แหล่งที่มาของภาพ
ภาพปก / Willgard Krause / pixabay
ภาพที่ 1 / ID 21967857 / pixabay
ภาพที่ 2 / CrazyDesigns / pixabay
ภาพที่ 3 / Willgard Krause / pixabay
ภาพที่ 4 / KELLEPICS / pixabay
เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !
ครีเอเตอร์มือใหม่ ผลงานที่เขียนอาจยังไม่ดีเท่าที่ควรหากมีข้อความใดตกหล่นไปบ้างก็จะพยามปรับปรุงแก้ไข
ความคิดเห็น






