อื่นๆ

เรื่องเล่าประสบการณ์หลอน! ผีหลังวัด

542
คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
เรื่องเล่าประสบการณ์หลอน! ผีหลังวัด

เมื่อสมัย 10 กว่าปีที่แล้ว ดิฉันได้เข้ามาทำงานในสวนอุตสาหกรรมโรจนะ ในจังหวัดอยุธยา ซึ่งในสมัยนั้นดิฉันยังคงเช่าบ้านอยู่กับแฟนในซอยวัดโคกมะยมเพราะยังไม่ได้ขยับขยายไปทางไหน ก็เลยยังคงมีเรื่องหลอน ๆ มาเล่าให้ฟังอีกเรื่อง ด้วยเหตุผลอันใดก็ตามตั้งแต่เข้ามาเช่าบ้านอยู่ในซอยวัดโคกมะยมแห่งนี้ ภายในซอยวัดจะมีการจัดงานศพบ่อยมาก ๆ จนดิฉันเองยังรู้สึกได้ว่า เหมือนซอยนี้มันมีอาถรรพ์ยังไงก็ไม่รู้ เพราะวันดีคืนดีเวลาที่ดิฉันเลิกงานมาแสงไฟที่ติดไว้ประดับประดาตามถนนหนทางก็จะเจอแสงไฟที่ติดประดับประดาไว้ตามถนนหนทางมองดูสว่างไสวไปหมด "ซึ่งเป็นแสงไฟตามรายทางที่เค้าติดเอาไว้ประดับทางเข้าบ้านงานศพนั่นเอง" ลืมบอกไปว่าดิฉันเป็นพนักงานโรงงาน ทำงานแบบมีเข้ากะเช้าและกะดึก ถ้าเลิกงานจากกะเช้ากว่าจะมาถึงปากซอยก็เป็นเวลาเกือบสองทุ่ม จากปากซอยวัดกว่าจะเดินถึงที่พักก็ประมาณ 300 เมตร ซึ่งบ้านที่ดิฉันเช่าอยู่จะห่างจากวัดโคกมะยมไม่เท่าไหร่ ถ้าให้คำนวณระยะทางจากบ้านเช่ามาถึงวัดก็น่าจะประมาณไม่เกิน 100 เมตร น่ะแหละ และเพราะอยู่ใกล้วัดเลยไม่น่าแปลกใจ ที่จะได้ยินหมามันหอนจากทางวัดบ้างเป็นบางวัน

Advertisement

Advertisement

แรก ๆ ดิฉันก็อาจจะรู้สึกกลัว ๆ อยู่บ้าง หลัง ๆ หมามันหอนบ่อย ๆ จากความกลัวจนกลายเป็นความเคยชินไปเอง และซ้ำร้ายกว่านั้นสิ่งที่ดิฉันได้พบเจอก็คือ ทางด้านหลังห้องที่ดิฉันเช่าไว้พักอาศัย จะมีบ้านไม้อยู่หลังหนึ่งซึ่งมีรั้วติดกันกับห้องพักของดิฉันและถ้าดิฉันเปิดประตูทางด้านหลังออกมาก็จะมองเห็นบ้านไม้หลังนี้ได้อย่างชัดเจน แม้กระทั่งบนบ้านเขาเลยทีเดียว และไม่นานนักบ้านหลังนี้ก็มีคนเสียชีวิตลง และหลังจากที่มีคนเสียชีวิต ญาติ ๆ เค้าก็ไม่ยอมให้เอาศพไปไว้ที่วัด เค้าได้เก็บศพเอาไว้บนบ้าน ซึ่งดิฉันก็ได้ยินเจ้าของบ้านเค้าพูดกันว่า จะเก็บเอาไว้ 100 วัน ถึงจะทำพิธี แต่ดิฉันไม่รู้จักคนตายหรอกค่ะ และก็ไม่เคยเห็นหน้าสักครั้ง เลยไม่ค่อยกลัวสักเท่าไหร่ เพราะคิดว่า ถ้าคนตายมาให้เห็นจริง ๆ ดิฉันก็คงไม่รู้จักและคงไม่คิดว่าเป็นผีด้วยซ้ำไปโลงศพตั้งตระหง่าน เวลาที่ดิฉันเปิดประตูด้านหลังออกมาเพื่อซักล้างทีไร ดิฉันก็จะมองเห็นโลงศพ ตั้งตระหง่านอยู่บนบ้านหลังนั้นทุกทีไป นี่คงเป็นเพราะความอาถรรพ์หรือเปล่า? ที่ทำให้ซอยนี้มีคนตายบ่อย ๆ และในซอยวัดโคกมะยมนี้ วันดีคืนดีก็จะได้ยินเสียงหมามันหอนโหยหวลอยู่เป็นประจำหมาหอนโหยหวลอยู่เป็นประจำสาธยายเรื่องอาถรรพ์ในซอยวัดมา ก็พอสมควร เข้าเรื่องเลยแล้วกันค่ะ โรงงานที่ดิฉันทำงานอยู่ในตอนนั้น ถ้าไม่ต้องเดินไปขึ้นรถรับ - ส่งพนักงานทางหน้าปากซอย ก็สามารถใช้เส้นทางลัดเดินอ้อมไปทางด้านหลังวัดโคกมะยมได้ และดิฉันมักจะใช้เป็นทางลัด เมื่อดิฉันไปสายและขึ้นรถรับ - ส่งพนักงานไม่ทัน ทางนี้จึงเป็นทางเลือกอีกทางหนึ่งที่ดิฉันใช้งานอยู่เป็นประจำและถ้าเดินลัดไป ก็จะถึงโรงงานที่ดิฉันทำงานอยู่พอดี หากไม่เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ิฉันตระหนก อกสั่นขวัญแขวนขึ้นเสียก่อน ทางนี้ก็เป็นทางลัดไปทำงานที่ใกล้ที่สุดเลยก็ว่าได้ และนี่ก็เป็นที่มาของเรื่องเล่าที่ดิฉันได้ประสบพบเจอเหตุการณ์หลอนครั้งแรกนั่นเอง วันนั้นเป็นวันที่ดิฉันต้องไปเข้ากะดึกและด้วยความอ่อนเพลียจึงเผลอนอนหลับเพลินจนตื่นสาย ทำให้ไปไม่ทันรถรับ - ส่ง พนักงาน เลยจำเป็นต้องมาใช้เส้นทางลัดผ่านทางวัดเพื่อไปทำงาน เพราะดิฉันต้องเข้าทำงาน 1 ทุ่ม เลยต้องเดินออกมาแบบรีบ ๆ ซึ่งขณะนั้น เป็นเวลาประมาณหกโมงเย็น แสงแดดอ่อนลงซึ่งเป็นเวลาใกล้จะมืดแล้ว

Advertisement

Advertisement

ระยะทางจากบ้านเช่าไปถึงโรงงานก็ประมาณ 250 เมตร กว่าจะไปถึงโรงงานก็ต้องเดินผ่านเส้นทางวัด  ซึ่งมันเป็นทางเดินแคบ ๆ ข้างเมรุเผาศพ ซึ่งเมรุนี้เก่ามาก ๆ มองด้านหน้าเมรุจะมีประตูยืดที่ทำจากเหล็กเอาไว้ปิด - เปิด  เก่าจนสนิมเกาะเขรอะ ตอนที่ดิฉันเดินมาถึงข้างเมรุก็ยังไม่มืด แค่แดดหลบจนมองเห็นเงาต้นไม้บริเวณรอบ ๆ วัด ดูรกครึ้มไปหน่อยเท่านั้นเอง

ระหว่างที่เดินผ่านเมรุเผาศพ ดิฉันก็เหลือบสายตามองขึ้นไปบนเมรุเผาศพ แบบกล้า ๆ กลัว ๆ เป็นครั้งคราวบรรไดขึ้นเมรุเผาศพ จนกระทั่งเดินเลยเมรุเผาศพไปเล็กน้อย ดิฉันก็ต้องสะดุ้งเฮือกสุดขีด.! ตกใจนขนหัวลุกซู่ เพราะได้ยินเสียงดึงประตูยืดเหล็กครืดๆๆๆ.อย่างแรง เหมือนมีคนดึงมันเปิดออก เมื่อกี้ที่เดินผ่านมา ไม่มีใครเลยสักคน แล้วใครล่ะ.! ที่มาดึงประตูเมรุเผาศพ ความรู้สึกในเวลานั้นเกิดความกลัวขึ้นมาอย่างจับใจ มือไม้สั่น ใจมันสั่น น้ำตาคลอเหมือนจะไหล อยากจะร้องไห้ แต่ก็ร้องไม่ออก ทุกอย่างมันเกิดขึ้นกระทันหันจนดิฉันตั้งสติไม่ทัน หรือ ดิฉันจะโดนผีหลอก ไวเท่าความคิด ดิฉันรีบวิ่งออกไปจากตรงนั้นทันที วิ่งแบบไม่คิดชีวิต วิ่งผ่านสระน้ำหลังวัดซึ่งมีป้อมยามและมีลุงยามแก่ ๆ คอยเฝ้าเครื่องสูบน้ำอยู่ แกตะโกนถามดิฉัน ในตอนนั้นดิฉันไม่ได้ยินแกถามอะไรทั้งนั้น มีแต่จะรีบวิ่งออกไปให้พ้นจากบริเวณนั้น ยิ่งไกลเท่าไหร่ยิ่งดี พอดิฉันวิ่งไปถึงโรงงาน ตั้งสติได้ก็ละล่ำละลักเล่าเรื่องทั้งหมดให้เพื่อน ๆ ได้ฟังกัน ทุกคนต่างลงความเห็นว่า ดิฉันถูกผีหลอก อย่างแน่นอน จากวันนั้นเป็นต้นมานั้นดิฉันก็ไม่กล้าเดินผ่านวัดเส้นทางลัดนั้นอีกเลย  เวลาล่วงเลยมาเป็นเดือนจนดิฉันลืมเรื่องหลอน ๆ เหล่านั้นไปจนหมดสิ้น แต่แล้วก็มาเกิดเหตุการณ์หลอน ๆ กับดิฉันเป็นครั้งที่สองอีกจนได้

Advertisement

Advertisement

วันนั้นเป็นวันที่ดิฉันเข้ากะดึกแล้วก็มาออกกะตอนหกโมงเช้า เวลาเช้าในช่วงหน้าหนาวอากาศเย็น ๆ มองไปท้องฟ้าสลัว ๆ แต่ก็เริ่มสว่างบ้างแล้ว ดิฉันรูดบัตรพนักงานเสร็จก็เดินออกมาจากโรงงาน อ้อ.! ลืมบอกไปว่า เช้าวันนี้ดิฉันได้โทรหาแฟนให้แฟนเดินออกมารับทางด้านหลังวัด พอเดินออกจากโรงงานมาได้ไม่กี่ก้าว ก็จะมองเห็นป้อมยามของลุงแก่ ๆ ที่คอยเฝ้าเครื่องสูบน้ำอยู่ไกล ๆ  ฉับพลัน.! สายตาดิฉันก็มองเห็นผู้หญิงวัยชราคนหนึ่งผู้หญิงวัยชราคนหนึ่งกำลังก้ม ๆ เงย ๆสวมเสื้อคอกระเช้า นุ่งผ้าถุง กำลังก้ม ๆ เงย ๆ เหมือนกำลังซักล้างอะไรสักอย่างอยู่ทางด้านหลังของป้อมยาม "สงสัยคงจะเป็นเมียของลุงแกนั่นแหละ ตื่นเช้าแท้ " ดิฉันคิดในใจ

ดิฉันละสายตาจากตรงนั้นเดินคิดอะไรเพลิน ๆ จนกระทั่งเดินมาถึงป้อมยาม พลันก็นึกขึ้นมาได้ว่า ตอนเดินออกมาจากโรงงานดิฉันเห็นผู้หญิงวัยชรายืนอยู่หลังป้อมยามของลุง ด้วยความสงสัยดิฉันเลยเดินไปดู และก็พบว่าด้านหลังป้อมยามนั้นติดกับสระน้ำด้านหลังวัดแล้วน้ำก็มีอยู่เต็มสระ ซึ่งมองดูแล้วไม่มีพื้นที่เพียงพอสำหรับคนยืนสำหรับซักล้างอะไรได้เลยมันมีแต่น้ำ แล้วที่เราเห็นมันคืออะไร.? ดิฉันยังไม่คลายความสงสัยเลยเดินมาดูทางด้านหน้าป้อมยามอีกครั้ง ก็พบลุงยามนั่งอยู่ลำพังเพียงคนเดียว จนลุงถามดิฉันว่า "หาอะไรเหรอหนู " ดิฉันได้แต่ส่ายหน้า นึกในใจ "โดนผีหลอกอีกแล้วเหรอเนี่ย"

ดิฉันยังไม่มั่นใจเดินมาข้าง ๆ ป้อมยามสำรวจดูด้านหลังป้อมยามอีกครั้ง เป็นเวลาที่แฟนดิฉันเดินมาพอดี เขาถามว่าดูอะไร ดิฉันบอกเขาว่า กลับถึงที่พักแล้ว เดี๋ยวเล่าให้ฟัง พอกลับถึงบ้านเช่าดิฉันเลยเล่าเรื่องทั้งหมดให้แฟนฟัง อืม.สงสัยผีมันตั้งใจหลอกแต่ดิฉันละมั้ง หรืออีกอย่างอาจจะมาขอส่วนบุญ แฟนบอกแบบนั้น ส่วนตัวของดิฉันคิดว่า สิ่งเร้นลับที่ได้ออกมาให้ดิฉันได้เห็นนั้นเค้าคงจะมาให้ดิฉันได้เห็น เพราะต้องการที่จะสื่ออะไรบางอย่างกับดิฉันนั่นเอง หลังจากเกิดเหตุการณ์ในวันนั้นดิฉันก็ได้ไปทำบุญใส่บาตรเพื่ออุทิศส่วนกุศลผลบุญให้กับพวกเขาและหากวันใดที่ดิฉันนอนตื่นสายแล้วไปขึ้นรถรับ - ส่งพนักงานที่หน้าปากซอยไม่ทัน ดิฉันก็จะให้แฟนขับรถมอเตอร์ไซค์ไปส่งที่หน้าโรงงาน แทนที่จะเดินผ่านวัดไปเส้นทางลัดทางเดิม เพราะดิฉันกลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์ขนหัวลุกซ้ำรอยเดิมอีก เพราะจากประสบการณ์ในครั้งนั้นทำให้ดิฉันไม่กล้าที่จะเดินผ่านหลังวัดโคกมะยมอีกเลย

เครดิตภาพ

เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน  App TrueID โหลดเลย ฟรี !

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
บุ้งแก้วตัวกลม
บุ้งแก้วตัวกลม
อ่านบทความอื่นจาก บุ้งแก้วตัวกลม

ครีเอเตอร์มือใหม่ ผลงานที่เขียนอาจยังไม่ดีเท่าที่ควรหากมีข้อความใดตกหล่นไปบ้างก็จะพยามปรับปรุงแก้ไข

ดูโปรไฟล์

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์