เรื่องเล่าย้อนวัย : อธิษฐานดาวตก

                                                                    เรื่องเล่าย้อนวัย : อธิษฐานดาวตก

..ข่าวแพร่สะพัดไปทั่วทางสื่อโทรทัศน์ ซึ่งสมัยก่อนสื่อโทรทัศน์ถือเป็นสื่อหลักที่ประชาชนให้ความนิยมรับชมมากที่สุด  ได้มีข่าวประชาสัมพันธ์ออกมาว่าในช่วงปลายเดือนมกราคม ย้อนกลับไปประมาณ 20 ปีก่อนหน้า จะมีฝนดาวตก ตกลงมาจากท้องฟ้ามากที่สุด ชั่วโมงละ 100 ดวง เด็กคนหนึ่งคือตัวฉันเอง  เมื่อได้นั่งดูโทรทัศน์และเห็นข่าวออกมาแบบนั้น ก็พลาดไม่ได้เลยที่จะเดินไปบอกพ่อกับแม่ ว่าจะมีฝนดาวตกในวันไหนอะไร ยังไง ช่วงเวลาไหน เดินไปบอกด้วยความตื่นเต้น และอยากรู้ไหม อะไรที่ทำให้เด็กคนนั้นอยากดูฝนดาวตก เรื่องของเรื่องเลย การจะได้เห็นฝนดาวตกนี่เป็นเรื่องรองนะ ประเด็นสำคัญมันอยู่ที่ว่า ตัวของฉันได้อ่านหนังสือและไปเจอมาว่า หากมีปรากฎการณ์ฝนดาวตกเกิดขึ้น ซึ่งไม่ได้เกิดขึ้นง่าย และหาดูยาก เมื่อใครได้มองดูฝนดาวตกแล้วตั้งใจอธิษฐาน พรที่ขอนั้นจะเป็นจริง นั่นแหละคือประเด็น อยากไปขอพรให้สมหวัง แล้วพรที่ฉันได้ขอนั่นคือ ขอให้เอ็นทรานซ์ติดคณะที่ชอบ มหาวิทยาลัยที่ใช่  จำได้ว่าช่วงนั้นเรียนอยู่ประมาณชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 คาบเกี่ยวช่วงสอบเอ็นทรานซ์พอดิบพอดี ซึ่งเป็นการสอบเพื่อเข้ามหาวิทยาลัย  แค่พูดว่าเอ็นทรานซ์หลายคนคงจะรู้อายุเลย สมัยใหม่นี้เขาเรียกว่าสอบแอดมิชชั่นกันเนอะ 

และเเล้ว เมื่อวันที่ผลสอบเอ็นทรานซ์มาถึง ตื่นเต้นอีกแล้ว ไปดูประกาศผลสอบ หาชื่อไม่มี ตรวจในเว็บไซต์ก็ไม่มี อ้าว งง จริงไหม? แล้วที่อธิษฐานดาวตกคืออะไร ช่วงนั้นเป็นอารมณ์ประมาณว่าวัยรุ่นเซ็ง เอ็นทรานซ์ไม่ติดซะงั้น 

และเมื่อย้อนกลับมาในปัจจุบัน ก็ทำให้กลับมานั่งคิดทบทวนใหม่และได้แง่คิดว่า บางครั้งความเชื่อจะเกิดขึ้นได้ ก็ต้องลงมือทำอะไรบางอย่างควบคู่กันไปด้วย 50 / 50 ไม่ใช่แต่จะรอโชคช่วยอย่างเดียว 100 เปอร์เซ็นต์ ก็เหมือนการขอพรขอให้เอ็นทรานซ์ติด แต่อ่านหนังสือไม่เพียงพออะไรก็ช่วยไม่ได้  สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการที่เราต้องลงมือทำด้วยความมุ่งมั่นกับมัน แล้วความสำเร็จก็จะอยู่แค่เอื้อม ไม่ไกลเกินฝัน โดยไม่ต้องไปนั่งรออธิษฐานดาวตกเลยสักนิด.. 

ขอขอบคุณภาพโดย Pexels,PublicDomainPictures, OpenClipart-Vectors, Jills จากPixabay

รูปประกอบที่ 1, รูปประกอบที่ 2,รูปประกอบที่ 3,รูปประกอบที่ 4  และภาพปกโดย JillsจากPixabay