อื่นๆ

เลือกซื้อหม้อทอดไร้น้ำมันยังไงให้คุ้มค่า!? ฉบับคนงบน้อย

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
เลือกซื้อหม้อทอดไร้น้ำมันยังไงให้คุ้มค่า!? ฉบับคนงบน้อย

ช่วงสถานการณ์ Covid-19 ที่ต้องมีการกักตัวแบบนี้เทรนด์หม้อทอดไร้น้ำมันกำลังมาแรงมาก ทุกคนต่างให้ความสนใจเพราะสามารถทำเมนูอาหารได้หลากหลาย กินได้โดยไม่รู้สึกผิด เนื่องจากการใช้หม้อทอดไร้น้ำมันในการปรุงอาหารนั้นสามารถลดการบริโภคน้ำมันได้มากกว่า 80%! (อ้างอิงตามคู่มือของหม้อทอดไร้น้ำมันที่เขาเคลมเองเลยนะ) ทำอาหารเองได้ง่ายๆอยู่ที่บ้าน

ส่วนตัวขอบอกก่อนว่าเป็นคนที่อยากได้หม้อทอดไร้น้ำมันมาตั้งแต่เป็นนักศึกษาปี 1 แล้ว แต่ว่าตอนนั้นยังไม่มีเงินซื้อบวกกับพักอยู่หอในมหาวิทยาลัย ซึ่งทำอาหารไม่ได้ เลยไม่มีโอกาสได้ซื้อเลย มาวันนี้กำลังจะเรียนจบแล้วก็พอมีเงินเก็บอยู่บ้าง ก็อยากเจียดเงินมาเพื่อทำตามความฝันซักที~~~~ ด้วยความที่มีงบค่อนข้างจำกัด เราก็คิดว่า "แล้วสำหรับคนงบน้อยแบบเราจะเลือกซื้อหม้อทอดยังไงให้คุ้มค่าที่สุดหล่ะ!?" กว่าจะหาหม้อทอดไร้น้ำมันที่ถูกใจได้บอกเลยคิดจนนอนไม่หลับอยู่เป็นเดือน 55555 บทความนี้เลยจะมาแชร์ประสบการณ์ และสรุปหลักการในการเลือกซื้อหม้อทอดไร้น้ำมันกันนะค๊าาาา :D

Advertisement

Advertisement

ลักษณะภายนอก

คีย์เวิร์ดสำคัญ: เราต้องเลือกหม้อทอดไร้น้ำมันที่เหมาะกับตัวเอง!

เราต้องสำรวจตัวเองก่อนว่าต้องการอะไร แล้วมีข้อจำกัดอะไรบ้าง จะได้ไม่เกิดอาการที่ซื้อมาแล้วก็ไม่ถูกใจ รู้งี้ไม่น่าซื้อมาเลย ทำไมฉันไม่ซื้อหม้อรุ่นอื่นแทนนะ บลาๆ มาเริ่มกัน!

  1. ตั้งงบ: ให้ตั้งว่าจะซื้อไม่เกินราคาเท่าไหร่ ส่วนตัวเราตั้งไม่เกิน 2000
  2. เลือกความจุ/ขนาดของหม้อทอดที่ตัวเองต้องการ ส่วนตัวอยากได้หม้อใหญ่ๆ เพราะชอบกินลูกชิ้นปลาระเบิด เวลามันสุกจะพองใหญ่มาก ถ้าหม้อเล็กเดี๋ยวทำได้ไม่จุใจ 5555 XD
  3. ลักษณะภายใน ขนาดจุใจมากๆเลยค๊าา พอถึงขั้นตอนนี้ก็พอจะได้ยี่ห้อของหม้อทอดมาบ้างแล้ว ว่ามียี่ห้อ/รุ่นไหนบ้าง ให้จำๆจดๆไว้ เวลาเราหาข้อมูลจะได้เก็บข้อมูลเพื่อเอาไว้เปรียบเทียบได้เยอะขึ้น
  4. หารีวิวของหม้อแต่ละยี่ห้อที่ได้จากข้อด้านบนเพื่อไว้เป็นข้อมูลในการเปรียบเทียบ
    • > ดูภาพรวมราคาโดยเฉลี่ยของแต่ละรุ่น
    • > ดูการทำความสะอาด ส่วนตัวไม่ชอบแบบตะแกรง ก็จะตัดตัวเลือกหม้อที่มี basket เป็นตะแกรงออกไปได้เลย
    • > ดูการมีเคลม ประกันไหม ส่วนตัวเลือกที่มีประกันในไทย ถ้ามีปัญหาสามารถเคลมได้ง่าย
    • > ดูรีวิวสภาพการใช้งาน ว่ามีหลุดลอกบ่อยไหม สนิม อะไหล่ต่างๆ ฯลฯ
    • > ดูระบบการทำงาน ว่ามีระบบตัดไฟอัตโนมัติไหม ดึงออกมาใส่กลับเข้าไปใหม่แล้วทำงานต่อโดยอัตโนมัติเลยหรือเปล่า
    • > ดูความจุ/ขนาดของหม้อเทียบกับราคา เพราะหม้อขนาดเดียวกัน แต่ว่าราคาแต่ละยี่ห้อต่างกัน ก็จะทำให้เราสามารถตัดสินใจเลือกง่ายขึ้น
    • การเปรียบเทียบทำให้เลือกซื้อได้ง่ายขึ้น
  5. พอได้ยี่ห้อและรุ่นของหม้อที่จะซื้อแล้ว
    • > ถ้าไม่รีบใช้ ให้รอจังหวะที่หม้อลดราคาตามเว็บไซต์ช้อปปิ้งต่างๆ จะได้ราคาที่ถูกกว่าค่าเฉลี่ยโดยทั่วไป
    • > ถ้าอยากใช้เลย ก็สามารถซื้อได้เลย เพื่อความสะดวกสบาย ไม่ต้องรอ เพราะเราก็เลือกหม้อที่อยู่ในงบเราอยู่แล้ว
  6. ซื้อโลดดดด แล้วรอของวนไป~ ระหว่างนี้ก็ลองหาเมนูที่อยากจะทำไว้พลางๆเลย *0*/
  7. เมื่อได้ของมาแล้ว แนะนำว่าให้ถ่ายรูป/วิดีโอสภาพสินค้าตั้งแต่แกะกล่อง จนถึงใช้งานครั้งแรก เผื่อมีปัญหา เราจะได้ใช้เป็นหลักฐานในการเคลมได้ง่ายขึ้น เป็นการป้องกันความเสี่ยงนั่นเอง เพราะหม้อก็ไม่ใช่ถูกๆเนอะ

Advertisement

Advertisement

จากหลักการเหล่านี้ สรุปเราก็ได้หม้อทอดไร้น้ำมันเป็นยี่ห้อ Homu ความจุ 5.5/3.6ลิตร ค่อนข้างใหญ่ตรงใจมากๆในราคาที่พอใจ (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเล็กน้อย) แต่ต้องยอมแลกกับการที่ต้องรอของนานนิดนึงเพราะเป็นสินค้าพรีออเดอร์จากจีน แต่ไม่เป็นไม่ไรค่ะ เพื่อความคุ้มค่า เรารอได้! >< นอกจากนี้สินค้าก็มีประกัน และสามารถเคลมได้ด้วยถ้าสินค้าที่ส่งมามีปัญหา ซึ่งถือว่าบริการหลังการขายค่อนข้างโอเคเลย เมื่อลองใช้แล้ว ใช้งานง่าย มีจอ LED สีฟ้าปรับอุณหภูมิและเวลา แล้วก็ทำความสะอาดง่ายด้วย คุ้มค่าแก่การนอนคิดเป็นเดือนจริงๆเลยนะ ^0^/~~

จอ LED สีฟ้า

สุดท้ายนี้ เราก็หวังว่าหลักการเลือกซื้อเหล่านี้ จะช่วยทำให้ทุกคนที่สนใจหม้อทอดไร้น้ำมันสามารถเลือกซื้อหม้อทอดได้อย่างคุ้มค่ากันนะคะ ขอให้สนุกกับการเลือกซื้อหม้อทอดไร้น้ำมันจ้าาาา :DDD

Advertisement

Advertisement

ภาพประกอบที่ 1, 2, 4 ถ่ายโดยนักเขียน

ภาพประกอบที่ 3 ขอบคุณรูปภาพจาก freepik

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์