อื่นๆ
เหมืองร้าง

โชคกับชัยสองสหายได้ยินข่าวว่า มีเหมืองแร่ร้างแห่งหนึ่งอยู่ในป่าลึก ที่มีการขุดแร่ออกมาแล้วแต่ยังไม่ได้มีการนำไปขาย เพราะติดเรื่องปัญหาทางด้านกฎหมาย ซึ่งมีแร่หายากที่ราคาแพงอยู่มากมายในเหมืองแห่งนั้น พวกเขาจึงพากันเข้าไปตามหาเหมืองแห่งนั้นเพื่อจะแอบเขาไปขโมยแร่บางส่วนออกมา พวกเขาพยายามหาข้อมูลจนทราบตำแหน่งของเหมืองแห่งนั้น และรีบเดินทางไปที่เหมืองทันที
ที่มาภาพจาก https://pixabay.com/th/photos
โชคกับชัยขับรถเข้ามาที่เหมืองอย่างยากลำบาก เพราะตลอดเส้นทางเป็นถนนแคบคดเคี้ยว มีป่าปกคลุมและมีแต่หินซึ่งทำให้ขับรถยากมาก พวกเขามาถึงเหมืองจนค่ำ เมื่อถึงเหมืองโชคที่มีความชำนาญเรื่องแร่ เขารีบเดินสำรวจหาแร่ราคาแพงทันที ซึ่งก็เป็นโชคดีของเขาที่ทำให้เขาได้พบกับแร่คาร์บอนที่มีราคาสูงมาก โชคดีใจมากและรีบตะโกนเรียกให้ชัยมาดู ชัยก็วิ่งมาด้วยความตื่นเต้น โชคได้บอกกับชัยว่า “แร่ชนิดนี้ เราเอากลับไปแค่ไม่กี่ก้อนก็ได้เป็นมหาเศรษฐีแล้วเพื่อน”
Advertisement
Advertisement
ชัยก็ตอบกลับมาว่า “แต่มันมืดแล้ว เราคงมองหาแร่กันต่อไม่ไหว และถ้าเราจะกลับกันคืนนี้ก็คงลำบากแน่ สงสัยคืนนี้เราคงต้องค้างกันที่นี่”
โชคก็ตอบว่า “นั่นสิ อย่างนั้นคืนนี้เราค้างคืนกันที่นี่ก่อน พรุ่งนี้ค่อยเดินหาแร่กันสองสองสามก้อน แล้วรีบกลับกันแต่เช้า”
ที่มาภาพจาก https://pixabay.com/th/photos
จากนั้นโชคก็นำเต็นท์ออกมากาง ส่วนชัยก็เดินเก็บฟืนเพื่อมาก่อไฟ จากนั้นทั้งสองก็นั่งคุยกันที่หน้ากองไฟถึงวิธีชีวิตที่วางแผนเอาไว้เมื่อได้เงินจากการขายแร่ที่จะทำให้พวกเขารวยได้ในไม่กี่วัน เมื่อคุยกันเสร็จพวกเขาก็นอนพักผ่อนเพี่อเก็บแรงไว้ขับรถในวันต่อไป พวกเขาหลับไปได้ไม่นานโชครู้สึกปวดฉี่ จึงลุกออกมาฉี่นอกเต็นท์ ระหว่างที่เขายืนฉี่อยู่ใกล้ๆ กับเต้นนั้น เขาก็เห็นมีเงาคนยืนอยู่ที่ทางเข้าเหมือง โชครู้ทันทีว่าในป่าลึกยามดึกขนาดนี้ไม่มีคนมาอยู่แถวนี้แน่นอน สิ่งที่เขาเห็นต้องเป็นวิญญาณเจ้าป่าเจ้าเขาแน่ๆ เขาจึงรีบวิ่งกลับเข้ามาในเต็นท์ แต่เขาไม่เห็นชัยอยู่ในเต็นท์แล้ว โชคพยายามคิดว่าจะทำยังไงดี จะออกไปตามหาชัยหรือจะรออยู่ในเต็นท์ เพราะเขาไม่แน่ใจว่าร่างๆ เงาดำๆ ที่เขาเห็นจะมาดีหรือมาร้าย แต่ด้วยความเป็นห่วงเพื่อน เขาจึงค่อยๆ โผล่หน้าออกมาจากเต็นท์แล้วมองไปรอบๆ พอเห็นว่าไม่มีอะไรเขาจึงออกมาจากเต็นท์และพยายามมองว่าชัยหายไปไหน และเขาก็คิดขึ้นได้ว่า เงาดำๆ ที่เขาเห็นยืนที่หน้าเหมืองอาจจะเป็นเงาของชัยก็เป็นได้ เขาจึงรีบวิ่งเข้าไปข้างในเหมือง เขาไม่พบชัยแต่เขากลับเห็นคนกลุ่มหนึ่งเดินไปเดินมาอยู่ในเหมือง ซึ่งแน่นอนว่าจริงๆ พวกเขาเหล่านั้นไม่ใช่คน แต่เป็นร่างที่ผอมจนหนังติดกระดูก หน้าตาซูบแห้ง บางร่างก็มีแผลเน่าจนน้ำเหลืองไหลหยดไปทั่วพื้น ดูแล้วเป็นที่น่าสยดสยองเป็นอย่างมาก ทำให้โชคตกตะลึงกับภาพที่เขาเห็นจนตะโกนร้องลั่นออกมา เสียงของเขาดังไปทั่วบริเวณ เขาวิ่งออกมาจากตรงนั้นด้วยความกลัวสุดขีด โชควิ่งไปล้มไปและอยู่ๆ ชัยก็วิ่งมาประครองร่างของเขาไว้ ทั้งสองพากันวิ่งมาที่รถ และขับรถหนีออกมาทันทีโดยไม่สนใจที่จะหาแร่ต่อ เมื่อโชคหายตกใจจากเหตุการณ์ที่ได้เจอแล้ว เขาก็ได้ถามชัยว่า “เอ็งหายไปไหนมา ข้าเดินตามหาเอ็งเข้าไปในเหมืองจนโดนผีหลอกเข้าเต็มๆ” เมื่อพูดจบโชคก็หันไปมองชัยที่นั่งอยู่ข้างๆ แต่คนที่นั่งมากับเขากลับไม่ใช่ชัยแต่เป็นผีที่สภาพน่ากลัวไม่ต่างจากที่เขาเห็นในเหมืองเลย เขาจึงรีบโดดลงจากรถแล้ววิ่งหนีฝ่าความมืดเข้าไปในป่าแบบไม่รู้ทิศทาง เขาหลับหูหลับตาวิ่งจนหมดแรงและสลบไป โชครู้สึกตัวอีกทีเมื่อเขาตื่นขึ้นมาในตอนเช้า และปรากฏว่าเมื่อคืนเขาได้วิ่งกลับมาที่เหมืองเหมือนเดิม ขณะชัยก็เดินออกมาจากเต็นท์เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วถามโชคว่า “ทำไมมานอนอยู่กับพื้น แล้วรถหายไปไหน”
Advertisement
Advertisement
โชคจึงเล่าเหตุการณ์ที่เขาเจอให้ฟังซึ่งชัยก็ไม่รู้เรื่องเลยเขาหลับสนิทอยู่ในเต็นท์ตลอดทั้งคืน
โชคจึงบอกกับชัยว่า “จากเหตุการณ์ที่กูเจอเมื่อคืน กูไม่กล้าเอาของในนี้ออกไปแล้วว่ะ กูกลัว”
ชัยก็ได้ตอบกลับมาว่า “ถ้าเป็นอย่างนั้นก็น่าเสียดายอุตส่าห์คิดว่าจะรวยกันแล้ว แต่เพื่อความสบายใจเราไม่เอาอะไรออกไปก็ได้”
ที่มาภาพจาก https://pixabay.com/th/photos
จากนั้นทั้งสองคนก็เก็บของและเดินออกมาตายหารถซึ่งจอดอยู่ไม่ไกลจากจุดนั้นมากนัก เมื่อพบรถแล้วทั้งสองก็รีบขับรถกลับบ้านโดยที่ไม่เอาอะไรออกไปและไม่กล้ากลับมาที่เหมืองแห่งนี้อีก แต่ก็เป็นเรื่องที่น่าประหลาดเมื่อพวกเขาขับรถถึงบ้าน พวกเขากลับพบว่ามีแร่คาร์บอนก้อนใหญ่หลายก้อนอยู่ในท้ายรถของพวกเขา โชคกับชับนำแร่ไปขายได้เงินมาเป็นจำนวนมาก พวกเขาจึงตัดสินใจกลับเข้าไปที่เหมืองร้างแห่งนั้นอีกครั้ง เพื่อเอาอาหารไปเซ่นไหว้ดวงวิญญาณที่อยู่ในเหมืองแห่งนั้น โชคคิดว่าดวงวิญญาณเหล่านั้นคงหิวโหยจึงมองแร่ให้พวกเขามา เพื่อให้พวกเขานำอาหารมาเซ่นไหว้นั่นเอง
ความคิดเห็น






