อื่นๆ
แกล้งจนเพื่อนตาย

บรรจงกำลังนั่งดื่มกาแฟอยู่ที่ระเบียงบ้านในตอนเช้า เขาได้ยินเสียงมอเตอร์ไซค์มาจอดที่หน้าบ้าน เมื่อเขาหันไปมองเห็นหรั่งถือหนังสือพิมพ์วิ่งมาหาเขา หรั่งชี้ให้เขาดูข่าวในหนังสือพิมพ์อย่างกระหืดกระหอบ
หรั่งถามบรรจงไปว่า “นี่มึงเห็นข่างในหนังสือพิมพ์หรือยัง”
บรรจงเอื้อมหน้ามาดูแล้วถามว่า “ข่าวอะไรวะ”
หรั่งชี้ไปที่รูปใต้หัวข้อข่าวและพูดว่า “ข่าวรถชนนี่ไง รถคันนี้มันเป็นรถของไปเจือ ในขาวบอกว่าคนขับตายคาที่ร่างเละติดอยู่ในรถ”
บรรจงเห็นข่าวก็ก็เงยหน้าไปมองที่หรั่งอย่างหน้าตาตื่นแล้วพูดไปว่า “น่าสงสารมันจริง ๆ ไม่น่าอายุสั้นเลยเพื่อนเรา”
หรั่งก็พูดว่า “นั่นสิเมื่อวานยังยืนคุยกับอยู่เลย ให้หายเลยหว่ะเพื่อน”
บรรจงก็พูดว่า “แต่คนมันก็ตายไปแล้ว ทำใจเพื่อน”
หรั่งก็พูดมาต่อว่า “กูคงคิดถึงมันแย่เคยไปเที่ยวด้วยกันบ่อย ๆ”
Advertisement
Advertisement
บรรจงก็พูดอย่างติดตลกว่า “คิดถึงก็เรียกมันมาสิเผื่อมันจะมาเยี่ยม”
หรั่งก็พูดสวนกลับมามา “มึงอย่าเอาคนตายมาล้อเล่นแบบนี้สิวะ”
ภาพโดย HAPPY NEW YEAR *** S. Hermann & F. Richter จาก Pixabay
จากนั้นบรรจงก็เดินเข้าบ้านไป และแต่งตัวออกไปทำงาน บรรจงพยายามโทรติดต่อครอบครัวของเจือแต่ก็ไม่มีใครรับสาย เขาจึงทำงานต่อตลอดทั้งวัน เมื่อเขากลับมาถึงบ้านในตอนเย็น เขาเห็นหรั่งนั่งทำสีหน้าไม่ค่อยดีอยู่หน้าบ้านของเขา
บรรจงจึงถามไปว่า “เห็นอะไรดูสีหน้าไม่ค่อยดีเลย”
หรั่งหันมามองหน้าจงพร้อมกับยกโทรศัพท์ให้ดูแล้วพูดว่า “เมื่อสักพักเบอร์ไอเจือมันโทรมาหากู พอกูรับสายก็ไม่มีใครพูด พอโทรกลับไปก็ไม่ติด ต้องเป็นผีไอเจือแน่ ๆ เลย”
บรรจงจึงตอบว่ามา “ผีอะไร เพ้อเจ้อ อาจจะเป็นญาติมันโทรมาก็ได้ สัญญาณโทรศัพท์อาจจะไม่ดี”
Advertisement
Advertisement
เมื่อได้ยินดังนั้นหรั่งก็ยืนนึ่งอยู่พักหนึ่งแล้วบอกกับบรรจงว่า “คืนนี้กูขอนอนบ้านมึงได้ไหม”
บรรจงก็ตอบมาว่า “อะไรวะ อยู่ดี ๆ มาขอนอนบ้านกู ปอดแหกอะไรอีก”
หรั่งก็ตอบว่า “ก็กูกลัวผีไอเจือมาหลอก”
บรรจงก็ตอบกลับไปว่า “ถ้าผีมันจะมาหลอกมึงจริง ๆ บ้านกูมันก็มาถูก”
จากนั้นทั้งสองคนก็เดินเข้าบ้านไป ในตอนค่ำระหว่างที่บรรจงกับหรั่งกำลังนั่งดูทีวีกันอยู่พวกเขาก็ได้ยินเสียงเคาะประตูบ้าน หรั่งจึงเดินมาเปิดประตูไม่พบว่ามีใครยืนอยู่ที่หน้าประตู หรั่งจึงหันมามองที่บรรจงแล้วบอกบรรจงว่า “บรรจงประตูบ้านมึงทำไมมันดังเองได้วะ”
บรรจงจึงตอบว่า “อาจจะเป็นเสียงลมพัดก็ได้ มึงอย่าคิดมาก”
หรั่งจึงเดินกลับมานั่งหน้าทีวี แล้วเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นอีก หรั่งมองหน้าบรรจงและเดินไปเปิดประตูแต่ก็ไม่เจอใครอีก บรรจงจึงลุกเดินออกมานอกบ้านแล้วมองไปรอบ ๆ แล้วเขาก็พูดว่า “อาจจะเป็นคนแถวนี้มาแกล้งก็ได้ไม่มีอะไรหรอก”
Advertisement
Advertisement
และเมื่อพวกเขาหันกลับเข้ามาในบ้านหรั่งก็ต้องตกใจร้องลั่น เมื่อเห็นร่างของเจือที่เต็มไปด้วยเลือดยืนอยู่หน้าทีวี หรั่งตกใจกระโดนออกจากบ้านวิ่งหนีเข้าไปในสวนหลังบ้าน ส่วนบรรจงก็ยืนหัวเราะหน้าระรื่นอยู่หน้าบ้าน เพราะที่จริงแล้วเจือยังไม่ตาย เพราะคนที่อยู่ในรถไม่ใช่เขา แต่เป็นคนที่ซื้อรถต่อจากเขาไป บรรจงรู้เพราะเขาโทรหาญาติของเจือ จากนั้นพวกเขาจึงวางแผนให้เจือแต่งตัวเป็นผีมาหลอกหรั่งกันเล่น ๆ
ภาพโดย Free-Photos จาก Pixabay
ส่วนหรั่งนั้นเกิดกลัวจริง ๆ เพราะเขาเป็นคนขี้กลัวอยู่แล้ว เขาวิ่งตะโกนร้องลั่นสวน และสดุดหินล้มหล่นลงไปในร่องน้ำในสวน บรรจงกับเจือวิ่งตามหรั่งจนทั่ว พวกเชาตะโกนเรียกแต่หรั่งก็ไม่ขาน แล้วอยู่ ๆ หรั่งก็วิ่งพรวดเข้ามาตัวของเขาเปียกโชก เขารีบคว้าแขนบรรจงให้วิ่งหนีออกมาเพราะเจือที่ยังแต่งตัวเป็นผีอยู่ยืนอยู่ข้างหลังบรรจง เจือพยายามจะตะโกนเรียกว่าเขาไม่ใช่ผี แต่หรั่งก็ไม่สนใจฟังตั้งหน้าตั้งตาวิ่งหนีอย่างเดียว ทำให้เจือต้องวิ่งตามมาติด ๆ เมื่อวิ่งมาถึงร่องน้ำในสวนบรรจงก็สะบัดมือและบอกกับหรั่งว่า “ไอหรั่งมึงใจเย็น ๆ หยุดวิ่งก่อน”
หรั่งก็บอกว่า “มึงจะให้กูใจเย็นได้ยังไงวะ ก็ผีมันกำลังวิ่งตามมา”
ขณะนั้นเสียงของเจือที่ยืนอยู่ตรงร่องน้ำสวนก็ตะโกนมาว่า “บรรจงมึงรีบวิ่งมาหากู กูไม่ใช่ผี ไอหรั่งนั่นแหล่ะเป็นผี”
บรรจงก็ถามกลับไปว่า “มึงพูดอะไรวะ”
เจือยืนชี้ให้บรรจงดูศพของหรั่งที่ล้มหัวกระแทหินแล้วหล่นลงไปจมน้ำตายในร่องสวน บรรจงยืนตกใจค้างรีบกระโดดไปหาเจือทันที ขณะนั้นหรั่งได้พูดขึ้นมาว่า “อะไรกัน นี่พวกมึงแกล้งเป็นผีมาหลอกกูหรอ ไอพวกเพื่อนระยำ”
เจือจึงตะโกนบอกว่า “กูขอโทษที่กูหลอกมึง แต่ตอนนี้มึงนั่นแหละเป็นผีกำลังหลอกพวกกูอยู่”
หรั่งก็ทำท่าตกใจที่เห็นว่าตัวเองตายและกระโกรธที่เขาโดนหลอกจึงตะโกนกลับไปว่า “ที่กูตายก็เพราะพวกมึงนั่นแหล่ะ อย่างนั้นพวกมึงก็ตายกับกูเถอะ”
เมื่อผีหรั่งพูดอแบบนั้นบรรจงกับเจือจึงรีบพากันวิ่งหนีเอาตัวรอดเข้าไปในวัด พวกเขารีบเคาะประตูเรียกหลวงพ่อด้วยความกลัวอย่างรนราน พวกเขาเล่าให้หลวงพ่อฟังถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลวงพ่อก็ต่อว่าไปถึงการกระทำของพวกเขา หลวงพ่อจึงให้ทั้งสองบวชเพื่ออุทิศส่วนกุศลชดใช้ให้หรั่ง ทำให้หรั่งไม่มารบกวนพวกเขาอีก และอย่างนั้นมาพวกเขาก็จำเหตุการณ์นั้นจนวันตายและไม่กล้าเล่นอะไรแบบนี้อีกเลย
ความคิดเห็น







ภาพโดย