แชร์ประสบการณ์...2 สิ่งลี้ลับ..ที่มองไม่เห็น…แต่มีอยู่จริง !!!

เรื่องลี้ลับหรือเรื่องเหนือธรรมชาติ ที่เกิดจากสิ่งที่มองไม่เห็นนั้น เป็นเรื่องหนึ่งที่ทำให้คนมีความคิดเห็นแตกต่างกันออกไป    ซึ่งผู้เขียนเชื่อว่ามีคนจำนวนไม่น้อยเลยล่ะค่ะ  ที่ไม่เชื่อว่า สิ่งลี้ลับนั้นมีอยู่จริง โดยมักจะคิดว่านั่นเป็นเรื่องของความเชื่อส่วนบุคคลซะมากกว่า…

แต่ในความเป็นจริงแล้ว  เมื่อสิ่งเหล่านั้นมีอยู่จริง   ก็คือมีอยู่จริงวันยังค่ำนั่นแหล่ะค่ะ  ไม่ว่าจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ตาม  ก็ไม่ได้มีผลทำให้สิ่งลี้ลับนั้นหายไป หรือไร้ตัวตนได้  เพราะพวกเค้าก็อยู่รอบ ๆ ตัวเรานี่เอง   แม้ว่าจะมองไม่เห็นด้วยตาก็ตามเถอะ

โดยที่สิ่งลี้ลับนั้นมีอยู่ สอง อย่างด้วยกัน  ที่ทำให้ผู้คนมีความรู้สึกในด้านลบและด้านบวก แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงเลยค่ะ   ซึ่งตัวผู้เขียนเองก็มีประสบการณ์กับ สิ่งลี้ลับทั้งสองด้วย เลยอยากจะบอกเล่าให้ฟังค่ะ

ส่วนตัวเองก็นอนตาค้างอยู่คนเดียว  ไม่หลับเลยค่ะในแต่ละคืน  ได้ยินเสียงหมาเห่าหมาหอนตลอดเลย   กลัวมาก ๆ สัมผัสได้ว่า    วิญญาณอยู่ตรงนั้นแหล่ะ  เพียงแต่มองไม่เห็นเท่านั้นเอง เลยทำให้ขนลุก  เย็นวาบ เสียวสันหลังไปหมด การคลุมโปง หรือแม้แต่มีเพื่อน  ก็ไม่ได้ช่วยทำให้กลัวน้อยลงเลยค่ะ    เพราะแม้แต่กลางวันแสก ๆ ก็ยังกลัวมาก ๆ    ซึ่งนั่นก็เป็นเหตุการณ์ที่ทำให้กลัวแทบจะเป็นบ้าเลยล่ะ   ถึงขั้นต้องย้ายที่อยู่ใหม่ ความกลัวนี้ถึงได้ค่อย ๆ หายไปน่ะ

ซึ่งความกลัวที่เกิดจาก " ผี หรือ วิญญาณ " สิ่งลี้ลับที่มองไม่เห็นแต่มีอยู่จริงนั้น  เป็นความกลัวที่ทรมานสุด ๆ เลยค่ะ  ซึ่งต่างจากสิ่งลี้ลับอย่างที่สอง  ที่ให้ความรู้สึกแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงเลย

• สิ่งลี้ลับอย่างที่สอง  "ทูตสวรรค์"

เมื่อพูดถึงสิ่งลี้ลับ   หลาย ๆ คนอาจจะคิดแค่ว่า  สิ่งลี้ลับที่พูดถึงนั้นก็คือ "ผี " นั่นเอง  แต่จริง ๆ แล้วยังมีอีกสิ่งหนึ่ง ที่คอยปกป้องผู้คนจนทำให้เกิดเรื่องเหนือธรรมชาติ อย่างไม่น่าเชื่อในหลาย ๆ เหตุการณ์อีกด้วย ซึ่งหากเป็นคนไทยแล้วก็จะเรียกสิ่งนั้นว่า "เทวดา"  แต่ฝรั่งจะเรียกว่า "ทูตสวรรค์" หรือแม้แต่คนจีนก็จะเรียกว่า " เทพ หรือ เซียน " แม้จะเรียกกันไปต่าง ๆ นานา  แต่ในความหมายที่ทุกคนเข้าใจกันก็คือ "ผู้ที่คอยปกป้องและพิทักษ์รักษา " ผู้คนนั่นเอง

สำหรับตัวผู้เขียนแล้ว   เคยมีประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่องเหนือธรรมชาติเหล่านี้มาหลายครั้ง  ฉะนั้นก็เลยอยากจะเล่าประสบการณ์เรื่องหนึ่ง   ที่เป็นเรื่องเหนือธรรมชาติซึ่งเกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อน ตอนนั้นผู้เขียนได้ไปทำงานกับทีมงาน   ที่จังหวัดแห่งหนึ่งทางภาคเหนือ   ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดในวันนั้นเป็นตอนประมาณ 7 โมงเช้านี่แหละค่ะ

ซึ่งเช้านั้นผู้เขียนได้ขับมอเตอร์ไซค์ออกจากบ้านหลังหนึ่ง โดยตั้งใจว่าจะข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม  เพื่อจะไปเข้าในซอยหนึ่ง     ซึ่งซอยนั้นเยื้องห่างจากประตูรั้วที่ผู้เขียนยู่  ไปทางขวาประมาณ 3-4  เมตรได้  แต่ว่าถนนเส้นหลักช่วงนั้น  ออกจะโค้ง ๆ หน่อย   จึงไม่สามารถมองเห็นรถทางขวาในระยะไกลได้มากนัก   แต่ระยะที่สามารถมองเห็นได้ ณ ตอนนั้นคือไม่มีรถน่ะค่ะ

ฉะนั้นเมื่อแน่ใจว่าไม่น่าจะมีรถมา   จึงเร่งมอเตอร์ไซค์ เพื่อจะข้ามไปอีกฝั่งหนึ่ง  แต่พอถึงจุดรัศมีที่สามารถมองเห็นรถทางตรงจากทางขวาได้เท่านั้นล่ะค่ะ   ก็เห็นคนหนึ่งขับมอเตอร์ไซค์มาอย่างเร็ว  โดยที่เขาไม่ได้มองถนนข้างหน้า  คือที่ผู้เขียนอยู่นั้น    แต่กลับมองทางขวาตามรถใหญ่คันหนึ่งที่กำลังเข้าซอยเยื้อง ๆ นั้นไป   ซึ่งก็เป็นซอยเดียวกับที่ผู้เขียนกำลังจะไปนี่แหล่ะค่ะ

พอเห็นอย่างนี้แล้ว   ตอนนั้นตกใจมากเลย จึงพยายามเร่งมอเตอร์ไซค์ให้พ้น  ก่อนที่รถเขาจะเข้ามาปะทะ  เพราะว่ากว่าเขาจะหันมามองถนนและเห็นว่าผู้เขียนอยู่ข้างหน้า  เขาก็เบรคไม่ทันแล้วล่ะค่ะ    ส่วนผู้เขียนก็เร่งไม่พ้น.. เพราะเร็วมาก  รถเขาจึงพุ่งชนกลางตัวมอเตอร์ไซค์เข้าอย่างจัง    จนทำให้คันสตาร์ทรถมอเตอร์ไซค์ของผู้เขียนนั้น  หักยุบไปติดกับตัวรถเลยล่ะค่ะ

ซึ่งในเสี้ยววินาทีก่อนที่รถจะชนกันนั้น  ผู้เขียนมีความรู้สึกว่า  ตัวเองกำลังถูกยกขึ้นออกจากมอเตอร์ไซค์ เพื่อให้พ้นจากการปะทะนั้น   แล้วก็ถูกวางลงอย่างนิ่มนวลบนถนน  ซึ่งความรู้สึกตอนนั้นเหมือนกับอยู่ในความฝันที่นานเป็นหลายนาทีเลยล่ะค่ะ  เพราะรับรู้ได้ถึงการค่อย ๆ ถูกวางลงอย่างช้าๆ บนถนนนั้น  ทั้ง ๆ ที่ในความเป็นจริงแล้วแค่วินาทีเท่านั้นเอง   พอตั้งสติได้ก็เห็นตัวเองยืนอยู่กลางถนนแบบงง ๆ  ไม่ล้ม ไม่เซ ไม่บาดเจ็บตรงไหนเลยนะคะ    ส่วนมอเตอร์ไซค์นั้น   เพราะถูกชนอย่างแรง  จึงไถลออกไปจากที่ผู้เขียนยืนอยู่ประมาณหนึ่งถึงสองเมตรได้น่ะ  ส่วนคู่กรณีก็กองอยู่กับมอเตอร์ไซค์ของเขาใกล้ ๆ  กับผู้เขียนตรงนั้นแหล่ะค่ะ ซึ่งเขาก็ได้รับบาดเจ็บทั้งนิ้วเท้าแล้วก็เข่าด้วย

นี่แหล่ะค่ะ  เรื่องเหนือธรรมชาติที่เกิดขึ้นจากสิ่งลี้ลับที่เรามองไม่เห็น  ซึ่งก็เป็นการพิสูจน์แล้วว่า มีอยู่จริง ๆ !!! เพราะหากไม่แล้ว  ผู้เขียนก็คงจะบาดเจ็บไม่น้อยเลยล่ะ  ในเมื่อคันสตาร์รถ ถึงขั้นหักและยุบไปติดตัวรถอย่างนั้น  สงสัยก็เท้าขวาคงจะไม่เหลือแน่ค่ะ  หากไม่ได้รับการปกป้องแบบนี้น่ะค่ะ

ไม่ทราบว่า  คุณผู้อ่านเคยมีประสบการณ์ทำนองนี้หรือเปล่าคะ?  จากประสบการณ์เหนือธรรมชาตินี้ ก็รู้ว่ามีผู้ที่คอยปกป้องเราอยู่เสมอ  แม้จะมองไม่เห็นก็ตาม  จึงทำให้รู้สึกอุ่นใจมากเลยล่ะ   และแม้ว่าจะมีคนที่ไม่เชื่อว่าพวกเค้ามีอยู่จริง  นั่นก็ไม่ได้ทำให้พวกเค้าหายไปหรือไร้ตัวตนค่ะ… ขอบคุณค่ะ

เครดิตภาพ

• ภาพปกโดย  :  ผู้เขียน
• ภาพประกอบที่ 1 :  ผู้เขียน
• ภาพประกอบที่ 2 :  ผู้เขียน
• ภาพประกอบที่ 3 :  ผู้เขียน
• ภาพประกอบที่ 4 :  ผู้เขียน

เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !