อื่นๆ
แชร์ไอเดียเก็บของให้อยู่ในหมวดหมู่ใกล้เคียงไว้ใกล้ ๆ กัน
การจัดบ้านที่สร้างความสุข เราต้องจัดลำดับให้ถูกต้องค่ะ นั่นก็คือ ให้แบ่งข้าวของออกเป็น 5 กลุ่มใหญ่ ๆ ได้แก่ เสื้อผ้า หนังสือ เอกสาร และของที่มีคุณค่าทางจิตใจ แล้วประเมินความสุขไปตามลำดับนี้ค่ะ
สำหรับการจัดเก็บหนังสือและเอกสาร ก็คงจะไม่ประสบกับปัญหาอะไร ดังนั้นเราอยากให้คำแนะนำสักเล็กน้อยนะคะว่า ตอนที่เราจัดเก็บหนังสือ คุณต้องนำหนังสือทั้งหมดที่อยู่บนชั้นหนังสือลงมาวางกองรวมกันไว้ที่พื้นก่อน เวลามีคนบอกเราว่าปริมาณหนังสือที่บ้านไม่ลดลงเลย ส่วนมากก็จะเป็นเพราะข้ามขั้นตอนนี้ไปนี่แหละค่ะ
ขอบคุณภาพจาก unsplash.com
ส่วนการจัดเก็บเอกสารแม้เราจะมีกฏทองอยู่ว่า "ทิ้งเอกสารให้เกลี้ยง" แต่ถ้าเป็นเอกสารที่คุณรู้เหตุผลชัดเจนว่าต้องเก็บไว้เพราะอะไร เช่น หนังสือสัญญาที่จำเป็นต้องเก็บไว้ หรือใบเสร็จรับเงินที่คุณต้องนำไปใช้ประกอบการยื่นภาษี ก็ให้เก็บเอกสารเหล่านี้ไว้ได้ค่ะ
Advertisement
Advertisement
เพราะฉะนั้นวันนี้เราจะพูดถึงวิธีการจัดเก็บของที่น่าจะมีกันทุกบ้าน รวมถึงของในหมวดหมู่ที่ค่อนข้างมีลักษณะเฉพาะตัวไปแล้ว
เพียงแค่คุณทำตามกฏเหล็กในการจัดเก็บที่ว่า "แยกเก็บตามหมวดหมู่" ก็จะไม่มีปัญหาอะไรแล้วล่ะค่ะ
ถ้าสิ่งของที่คุณมีนั้นไม่สามารถจัดให้อยู่ในหมวดหมู่ทั่วไปได้อย่าง "อุปกรณ์เครื่องเขียน" "สายไฟ" "ยา" หรือ "เครื่องมือช่าง" ก็ให้เรากำหนดหมวดหมู่ขึ้นมาใหม่ได้เลยค่ะ
สมมุติว่าคุณมีงานอดิเรกเป็นการวาดรูป ก็ให้กำหนดหมวด "อุปกรณ์วาดรูป" ขึ้นมา หรือบางคนก็กำหนดหมวด "กระดาษโพสต์อิต" ขึ้นมาเพราะชอบกระดาษโพสต์อิตมากจนถึงขั้นสะสมไว้เต็มลิ้นชักทั้งสองชั้น
ขอบคุณภาพจาก freepik.com
"เรามีงานอดิเรกหลายอย่างค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการเขียน เย็บผ้า ไปจนถึงประดิษฐ์เครื่องประดับ ก็เลยมีอุปกรณ์สารพัดอย่าง" สำหรับคนที่พูดแบบนี้ เราแนะนำให้นับรวมของเหล่านั้นไว้ในหมวด "อุปกรณ์ที่เกี่ยวกับงานอดิเรก" ดีกว่าค่ะ
Advertisement
Advertisement
"มีน้ำยาล้างจานกับฟองน้ำสำรองเยอะมากจนเก็บไว้ในห้องครัวหรือบริเวณล้างหน้าได้ไม่หมดค่ะ" ในกรณีนี้ให้คุณหาตู้ลิ้นชักมาใส่ของใช้สำรองทั้งหมดแล้วนำไปตั้งไว้ที่มุมหนึ่งของห้องเก็บของหรือตู้เก็บของ โดยกำหนดให้ของเหล่านั้นอยู่ในหมวด "ของที่เก็บตุนไว้"
เมื่อเราสามารถแบ่งแยกหมวดหมู่สิ่งของในแบบของตัวเองได้แล้ว สิ่งสำคัญก็เหลือแค่อย่างเดียว
นั่นคือ "นำของที่อยู่ในหมวดหมู่ใกล้เคียงกันมาเก็บไว้ใกล้ ๆ กัน" จากนั้นก็ทำแบบเดิมไปเรื่อย ๆ ก็พอ ตัวอย่างเช่น คุณสามารถเก็บอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และกล้องดิจิตอลไว้ใกล้ ๆ กับสายไฟเพราะเป็น "ของที่เกี่ยวกับไฟฟ้า" เหมือนกัน ส่วนข้าง ๆ คอมพิวเตอร์ คุณก็อาจจะวางอุปกรณ์เครื่องเขียนเอาไว้เพราะเป็น "ของที่ต้องใช้ทุกวัน" เหมือนกันไงล่ะคะ
ถ้าเราเล่น "เกมจับคู่" แบบนี้ไปเรื่อย ๆ ก็จะสามารถจัดเก็บสิ่งของที่มีลักษณะคล้ายกันไว้ด้วยกันโดยไม่รู้ตัวค่ะ
Advertisement
Advertisement
ขอบคุณภาพจาก freepik.com
เมื่อมองเผิน ๆ ข้าวของต่าง ๆ ดูเหมือนถูกแบ่งหมวดหมู่อย่างชัดเจนแล้ว แต่ความจริงข้าวของแต่ละชิ้นต่างก็มีความหมายชัดเจนแล้ว แต่ความจริงข้าวของแต่ละชิ้นต่างก็มีความคล้ายคลึงกันเล็ก ๆ น้อย ๆ และเชื่อมโยงกันเหมือนการไล่ระดับสี
ดังนั้น หากคุณค้นหาความเชื่อมโยงนั้นในแบบของตัวเอง แล้วนำของที่คล้ายคลึงกันมาจัดเก็บไว้ใกล้กัน ก็จะทำให้ข้าวของแต่ละชิ้นมีความกลมกลืนกัน
สายรุ้งเกิดจากการไล่เรียงสีที่ใกล้เคียงกัน การจัดเก็บก็เหมือนกับการสร้างสายรุ้งแสนสวยในบ้านของเรานั่นเอง
และเนื่องจากเป็นการจัดเก็บแบบไล่ระดับความใกล้เคียงกัน ดังนั้นถึงแม้จะมีของบางชิ้นที่คุณไม่แน่ใจว่าควรจัดให้อยู่ในหมวดหมู่ไหนดี คุณก็ไม่จำเป็นต้องกังวลเลยค่ะ
ท้ายที่สุดแล้ว ขอแค่คุณรู้แน่ชัดว่ามีอะไรวางอยู่ตรงไหนบ้าง และตำแหน่งดังกล่าวเหมาะสมกับทั้งตัวเองและข้าวของก็เพียงพอแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดคือคุณต้องเชื่อตัวเองตอนที่รู้สึกว่า "มันน่าจะเก็บไว้ตรงนี้" เพราะความรู้สึกดังกล่าวเป็นคำตอบที่ถูกต้องที่สุดค่ะ
ขอบคุณภาพจาก freepik.com
เวลาที่พิจารณาหมวดหมู่และหาตำแหน่งให้ข้าวของ หลักสำคัญก็คือต้องไม่คิดอะไรมาก ถ้าคุณคัดแยกของที่ปลุกเร้าความสุขได้แล้วที่เหลือก็จัดเก็บแบบสบาย ๆ ดีกว่าค่ะ
เริ่มจากคัดเลือกของที่ปลุกเร้าความสุขได้ แล้วใช้ความรู้สึกค้นหาความเชื่อมโยงของสิ่งของแต่ละชิ้นพร้อมกับจัดเก็บไปด้วย มันอาจจะฟังดูคลุมเครือ แต่การใช้ความรู้สึกนี่แหละค่ะที่จะทำให้ข้าวของในบ้านดูกลมกลืนเป็นธรรมชาติมากที่สุดค่ะ ทั้งยังทำให้เราสามารถเนรมิตบ้านที่อยู่แล้วรู้สึกสบายใจมากที่สุดได้อีกด้วย เราเชื่อมั่นอย่างนั้นค่ะ
"เพราะการจัดบ้านก็คือการทำให้บรรยากาศภายในบ้านมีความเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้นนั่นเองค่ะ"
ขอบคุณภาพปกจาก unsplash.com
ความคิดเห็น