แชร์ไอเดียใช้พื้นที่ “ใต้อ่างล้างหน้า” อย่างชาญฉลาด

นี่เป็นข้อเท็จจริงที่ฉันเองก็ไม่อยากยอมรับสักเท่าไหร่หรอกนะคะ ในสมัยที่เราอาศัยอยู่กับครอบครัว ไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่เราเก็บกวาดพื้นที่บริเวณอ่างล้างหน้าได้เรียบร้อยในระดับที่น่าพอใจ 

                                                                             ขอบคุณภาพจาก unsplash.com

อย่างแรกเลยค่ะ คือมีข้าวของเยอะมาก ไล่ตั้งแต่แปรงสีฟังสำรอง เครื่องสำอางขนาดทดลอง ไปจนถึงสบู่เราเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงได้มีข้าวของเยอะขนาดนี้แต่ถึงยังไงเราก็เอาไปทิ้งตามใจชอบไม่ได้อยู่ดี 

ยิ่งไปกว่านั้น บริเวณอ่างล้างหน้ายังมีน้ำเฉอะแฉะอีกต่างหาก พอเห็นน้ำที่กระเซ็นไปทั่วแล้วเราก็จะรู้สึกหงุดหงิดและพานติติงคนในบ้านเป็นประจำ “ถ้าใช้อ่างล้างหน้าเสร็จแล้ว ก็ช่วยเช็ดน้ำที่กระเซ็นเลอะเทอะด้วยสิ” แน่นอนว่าพอฉันพูดปุ๊ปบรรยากาศในบ้านก็จะตึงเครียดขึ้นมาทันที เราเลยไม่กล้าเตือนอะไรไปมากกว่านั้น 

แต่พอถึงช่วงที่เรางานยุ่ง ๆ จนลืมทำความสะอาดบริเวณอ่างล้าหน้าก็จะมีคราบเหนียวในพริบตา ทำเอาเรารู้สึกห่อเหี่ยวใจไปเลยทีเดียวค่ะ 

เมื่อพูดถึงการจัดบ้าน คนส่วนใหญ่ดูจะไม่ค่อยให้ความสำคัญกับบริเวณอ่างล้างหน้าสักเท่าไหร่ ทั้งที่ความจริงแล้วบริเวณอ่างล้างหน้าเป็นพื้นที่ที่มีการใช้น้ำมีข้าวของวางอยู่เยอะแยะ และมีคนใช้งานมากมายดังนั้น บริเวณอ่างล้างหน้าจึงอาจเป็นพื้นที่ที่ดูแลความสะอาดได้ยากที่สุดเลยก็ว่าได้ 

เวลาจัดเก็บของตามพื้นที่ต่าง ๆ เราจะคำนึงถึงวัตถุประสงค์ในการใช้งานพื้นที่อื่น ๆ เช่น ล้างหน้า แปรงฟัน อาบน้ำ โดยส่วนตัวแล้วเราคิดว่าบริเวณอ่างล้างหน้าเป็นพื้นที่จัดเก็บ “ของที่มีส่วนผสมของน้ำ” และ “ของที่เกี่ยวกับผิว” ค่ะ 

ดังนั้น ข้าวของที่มักจะถูกจัดเก็บในบริเวณอ่างล้างหน้าจึงอยู่ในหมวดหมู่ดังต่อไปนี้ 

                                                                             ขอบคุณภาพจาก unsplash.com 

• ผลิตภัณฑ์สำหรับล้างหน้า (เช่น ครีมบำรุง ผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผม แปรงสีฟัน ไดร์เป่าผม กิ๊บติดผมหรือที่คาดผม สำลีก้าน มีดโกนหนวดผ้าเช็ดตัว ของใช้ประจำวันอื่น ๆ ที่เก็บตุนไว้ ฯลฯ) 

• ผลิตภัณฑ์สำหรับอาบน้ำ (เช่น สบู่ ยาสระผม ผงอาบน้ำ ฯลฯ) 

• ผลิตภัณฑ์สำหรับซักผ้า (เช่น ผงซักฟอก ถุงตาข่ายซักผ้า ไม้หนีบผ้า ฯลฯ) 

• ผลิตภัณฑ์สำหรับทำความสะอาด (เช่น น้ำยาล้างอ่างอาบน้ำ ฟองน้ำ ฯลฯ) 

ถ้าในห้องน้ำของคุณมีตู้ลิ้นชักแบบบิลต์อิน เวลาที่จัดเก็บข้าวของแค่ยึดหลัก “แยกตามหมวดหมู่” และ “จัดเก็บในแนวตั้ง” ก็พอแล้วค่ะ 

กุญแจสำคัญในการจัดเก็บของในตู้เก็บของโล่ง ๆ อยู่ที่ “การใช้ความสูงของพื้นที่ให้เป็นประโยชน์” ในกรณีนี้เราไม่สามารถนำกล่องมาจัดแบ่งพื้นที่อย่างเดียวได้ ดังนั้น ถึงเวลาที่อุปกรณ์จัดเก็บจะได้แสดงฝีมือแล้วค่ะ 

                                                                             ขอบคุณภาพจาก unsplash.com

ของที่นิยมำมาใช้บ่อย ๆ ได้แก่ลิ้นชักพลาสติกอันเล็ก ๆ ที่เหลือจากตอนจัดเก็บ ถ้าหาลิ้นชักที่มีขนาดกำลังพอเหมาะได้ก็ใส่เข้าไปในตู้เก็บของได้เลย แต่ถ้าด้านบนของลิ้นชักยังมีพื้นที่เหลืออยู่ ก็ให้เอากล่องเปล่าไปวางซ้อนบนลิ้นชักโดยไม่ต้องปิดฝาเพื่อใช้สำหรับจัดเก็บขวดต่าง ๆ หรือไดร์เป่าผม นี่เป็นการใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดค่ะ 

“ความลึกของลิ้นชักกำลังพอดีนะคะ แต่ว่ามันสูงไปเลยเอาเข้าตู้ไม่ได้นะค่ะ” ในกรณีนี้ก็ไม่ต้องกังวลค่ะ เพราะถ้าเป็นลิ้นชักพลาสติกที่มีหลาย ๆ ชั้นละก็เราสามารถใช้วิธีแยกส่วนลิ้นชักได้ เริ่มจากนำลิ้นชักที่ถอดชั้นออกมาแล้วมาคว่ำลง ต่อด้วยใช้เท้าเหยียบแผ่นรองพื้นลิ้นชักแล้วออกแรงดึงให้เต็มที่ เท่านี้ชิ้นส่วนของลิ้นชักก็จะหลุดออกจากกัน จากนั้นก็นำชิ้นส่วนที่แยกจากกันมาประกอบใหม่เป็นลิ้นชัก 1-2 ชั้นตามใจชอบ ตรงส่วนล้อเลื่อนก็สามารถดึงให้หลุดออกมาได้เหมือนกันนะคะ  

นอกจากลิ้นชักแล้ว ชั้นวางของแบบมีขาตั้งก็นำมาใช้ได้เช่นกันค่ะ แต่ถ้าคุณบอกว่า “ไม่มีทั้งชั้นวางของแล้วก็ลิ้นชักเลย” ให้นำกล่อง (ไม่ต้องปิดฝา) ไปวางซ้อนบนกล่องพลาสติกแบบมีฝาปิดแทน แต่ถ้าใช้วิธีนี้กล่องที่อยู่ด้านล่างก็จะเปิดไม่สะดวกนัก มันจึงเหมาะจะใช้เก็บของที่ไม่ต้องหยิบใช้บ่อย ๆ อย่างของใช้สำรองที่เก็บตุนเอาไว้เช่น แปรงสีฟันหรือสบู่ดูค่ะ เผื่อว่าจะเป็นประโยชน์ดี ๆ  นะคะ

ขอบคุณภาพปกจาก unsplash.com