อื่นๆ

แนะนำ 4 Application Food Delivery และการนำร้านอาหารเข้าแอป

402
คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
แนะนำ 4 Application Food Delivery และการนำร้านอาหารเข้าแอป

เครดิตภาพ : LINE MAN / GrabFood / GET / foodpanda

อย่างที่เพื่อน ๆ ทราบกันอย่างดีว่า ตอนนี้โลกของเรากำลังเผชิญกับไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือที่เรียกกันอย่างคุ้นปากอย่าง 'โคโรน่า' และหนึ่งในประเทศที่ได้รับผลกระทบอย่างจังคือประเทศไทยของเรา และภาครัฐได้ออกมาตราการให้ทุกคนมีการกักตัวเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของ Covid-19 ซึ่งมีผลกระทบเกิดขึ้นเยอะแยะมากมาย ซึ่งหนึ่งในปัญหาใหญ่คือเรื่องอาหารการกิน จากวิกฤตในครั้งนี้ทำให้ธุรกิจ 'Food Delivery' มี Demand ที่เพิ่มสูงขึ้นเยอะมาก เพราะหลาย ๆ คนเลือกที่จะใช้บริการเดลิเวอรี่สั่งอาหารเพื่อที่จะไม่ต้องออกไปด้านนอก วันนี้เราจึงจะมาแนะนำและเปรียบเทียบเงื่อนไขการสมัครร้านอาหารในแอปพลิเคชัน 4 แอป นั่นคือ Line man,Grab Food ,Get และ Food Panda ให้ทางผู้ประกอบการที่กำลังสนใจจะทำการ Deal ได้เห็นภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งในตอนนี้นับว่าเป็นช่องทางที่ได้รับความนิยมและผู้ใช้บริการสูง

Advertisement

Advertisement

Line man ซึ่งหลายคนยังไม่รู้ว่าเจ้าของคือเว็บไซด์แนะนำอาหารชื่อดังอย่าง Wongnai

s

  • ขั้นตอนการเข้าร่วมของผู้ประกอบการดังนี้

1.) เข้า http://business.wongnai.com/restaurant-management-system/

s2.) หาเมนู Merchant app > สมัครใช้งานวันนี้ฟรี!

s

3.) ส่วนนี้จะมีด้วยกัน 2 กรณีค่ะ

กรณีที่มีธุรกิจอยู่ในฐานข้อมูลของ Wongnai ก็คลิก 'ค้นหาธุรกิจของคุณใน Wongnai'

แต่ในกรณีที่หาไม่มี เพิ่งเปิด หรือเป็นสาขาใหม่ให้คลิก 'คลิกที่นี่ เพื่อใส่ข้อมูลเอง'

s4.) กรณีลงทะเบียนเป็นผู้ใช้รายใหม่ หลังกรอกข้อมูลเสร็จก็กด “ลงทะเบียน” และรอเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับทาง E-mail หรือหากท่านใดมีปัญหาในการลงทะเบียนก็สามารถติดต่อได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-821-5788

s

s

  • ข้อดีของการ deal กับ Line man

- ลงทะเบียนฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ

- เลือกเมนูที่จะขาย แก้ไข เพิ่มข้อมูลร้าน ที่ตั้ง และเบอร์โทรได้อย่างง่ายดาย

Advertisement

Advertisement

- สร้างรูปโปรโมทร้านผ่านสื่อออนไลน์ พร้อมลิ้งค์สั่งเดลิเวอรี่ LINE MAN

- ไม่มีหักเปอร์เซ็นใด ๆ กับทางร้านในเรื่องของอาหารซึ่งทาง Line man จะมีการบวกค่าส่งกับลูกค้าเอง


Grab Food

s

  • ขั้นตอนการเข้าร่วมของผู้ประกอบการดังนี้

s1.) เข้า https://www.grab.com/th/merchant/food/

d2.) เลื่อนลงมาจะเจอ 'เข้าร่วมเป็นพาร์ทเนอร์ร้านอาหารกับเรา' ให้กรอกข้อมูลลงไปค่ะ

d3.) รับสัญญาอิเล็กทรอนิกส์ผ่านอีเมลของคุณในวันถัดไป (วันทำการ) โดยปกติจะรู้ผลการตรวจเอกสารภายใน 7 วัน หลังจากเซ็นสัญญาอิเล็กทรอนิกส์ผ่านอีเมล

4.) หากเอกสารผ่าน ศึกษาขั้นตอนการเปิดระบบพาร์ทเนอร์ร้านค้าด้วยตนเองผ่านอีเมล : ดาวน์โหลดแอปฯ ร้านค้า เพิ่มเมนูอาหาร รูปภาพ และราคา จากนั้นเปิดสถานะร้านค้าเพื่อรับออเดอร์ได้เลย!

  • เอกสารสำคัญของแต่ละธุรกิจมีดังนี้

Advertisement

Advertisement

d

แบบนิติบุคคล

- ใบภพ 20 (ใบจดทะเบียนภาษี)

- ใบจดทะเบียนรับรองบริษัท (ออกให้ไม่เกิน 3 เดือน)

- สำเนาบัตรประชาชนผู้มีอำนาจ พร้อมลายเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง

- สำเนาบัญชีธนาคารกสิกร พร้อมลายเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง (บัญชีต้องมีรายการเคลื่อนไหว)

- รูปถ่ายร้านอาหารที่เห็นชื่อร้านและพื้นที่โดยรอบของร้านชัดเจน (กรณีร้าน Home kitchen หรือไม่มีหน้าร้าน ต้องใช้ภาพหลักฐานการซื้อ/ขาย ทางช่องทางออนไลน์เท่านั้น)

*หมายเหตุ

- ผู้มีอำนาจลงนามจะต้องเซ็นรับรองสำเนาถูกต้องในเอกสารทุกฉบับ พร้อมประทับตราสำคัญบริษัท

- ถ้ามีการมอบอำนาจให้ผู้อื่นเซ็นแทน จะต้องมีใบมอบอำนาจรับรอง

แบบบุคคลธรรมดา

- สำเนาบัตรประชาชนผู้มีอำนาจ พร้อมลายเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง

- สำเนาบัญชีธนาคารกสิกร พร้อมลายเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง (บัญชีต้องมีรายการเคลื่อนไหว)

- รูปถ่ายร้านอาหารที่เห็นชื่อร้านและพื้นที่โดยรอบของร้านชัดเจน (กรณีร้าน Home kitchen หรือไม่มีหน้าร้าน ต้องใช้ภาพหลักฐานการซื้อ/ขาย ทางช่องทางออนไลน์เท่านั้น)

กรณีเจ้าของร้านเป็นชาวต่างชาติ

- สำเนา passport พร้อมลายเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง

- สำเนาเอกสารแสดงที่พำนักในประเทศไทย พร้อมลายเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง

- สำเนาเอกสารอนุญาติประกอบธุรกิจในประเทศไทย พร้อมลายเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง

  • ข้อดีของการ deal กับ Grab Food

- การเข้าร่วมเป็นพาร์ทเนอร์ร้านค้า GrabFood ไม่มีค่าแรกเข้า หรือค่าสมัครแต่อย่างใดทั้งสิ้น

- คุณสามารถรับคำสั่งซื้อจากลูกค้าผ่านแอปฯ ร้านค้า (GrabFood Merchant Application) ได้ทันที และสามารถจัดการระบบร้านอาหารของคุณได้ด้วยตนเอง ไม่ว่าจะเป็นการเปิด-ปิดร้าน การเพิ่ม/แก้ไขเมนูอาหาร การสร้างโปรโมชัน เป็นต้น

- ได้รับยอดเงินโอนเข้าบัญชีธนาคารของคุณในวันถัดไป โดยสามารถตรวจสอบรายงานยอดขายได้จากแอปฯ ร้านค้า และอีเมลของคุณ


Get Food

d

  • ขั้นตอนการเข้าร่วมของผู้ประกอบการดังนี้

1.) เข้าไปยัง https://www.getthailand.com/

d2.) กดที่แถบด้านบนให้เมนูต่าง ๆ ลงมา คลิกที่เมนู 'ร้านอาหาร' เพื่อเข้าสู่หน้าลงทะเบียนร้านค้าสำหรับเป็นพาร์ทเนอร์

d3.) กด 'ลงทะเบียนเป็นร้านค้าพาร์ทเนอร์' และกรอกรายละเอียดข้อมูลทั่วไปร้านค้าให้ครบถ้วน เมื่อกรอกข้อมูลเรียบร้อยแล้ว ก็กด Submit Data และรอเจ้าหน้าทิ่ติดต่อกลับ

d

  • เอกสารสำหรับใช้เพื่อการสมัครเป็น GET FOOD PARTNER ทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล

ในกรณีเป็นบุคคลธรรมดา ต้องมีเอกสารของเจ้าของร้านค้า ดังนี้

1. สำเนาบัตรประชาชนทั้งด้านหน้า และหลังบัตร

2. ลายมือชื่อ

3. สำเนาบัญชีธนาคารประเภทออมทรัพย์ หรือ กระแสรายวัน

4. สำเนาใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ.20) ซึ่งออกให้โดยกรมสรรพากร (ถ้ามี)

ในกรณีเป็นนิติบุคคล ต้องมีเอกสารของผู้มีอำนาจในการจัดการ ดังนี้

1. สำเนาบัตรประชาชนทั้งด้านหน้า และหลังบัตร

2. ลายมือชื่อ

3. สำเนาบัญชีธนาคารประเภทออมทรัพย์ หรือ กระแสรายวัน (เป็นบัญชีในนามของนิติบุคคล)

4. สำเนาใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ.20) ซึ่งออกให้โดยกรมสรรพากร (ถ้ามี)

5. สำเนาทะเบียนพาณิชย์หรือทะเบียนการค้าโดยจดทะเบียน (ถ้ามี)

6. สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัท หรือห้างหุ้นส่วนจำกัด หนังสือจัดตั้งห้างหุ้นส่วนสามัญ

7. (ตรวจสอบว่ากำหนดให้ใครเป็นผู้มีอำนาจในการจัดการนิติบุคคล)

  • ข้อดีของการ deal กับ Grab Food

- มีคนขับกว่า 20,000 คนพร้อมรอรับอาหารจากหน้าร้าน และส่งให้ถึงมือลูกค้า

- ดูแลโดยทีมงานมืออาชีพ ที่ช่วยแนะนำการส่งเสริมการขาย ทั้งแคมเปญ โปรโมชั่น และอื่น ๆ อีกมากมาย

- เพิ่มยอดขายได้มากขึ้น และสามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้ทั่วกรุงเทพฯ

- ราคาอาหารจะตรงกับหน้าร้านเพราะเก็บค่าอาหารตามจริงและบวกค่าส่งแยกออกไป


Food Panda

s

  • ขั้นตอนการเข้าร่วมของผู้ประกอบการดังนี้

1.) เข้าไปที่เว็บไซต์ https://www.foodpanda.co.th/th/?r=1 เลื่อนลงมาคลิก 'สมัครเลย'

sห2.) กรอกรายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับร้านอาหารของเราและอัปโหลดรูปภาพหน้าร้านให้ครบถ้วน จากนั้นรอทางเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ

ห3.) หลังจากอนุมัติการสมัครของร้านเราแล้ว จะได้รับหนังสือสัญญาจาก Food Panda ซึ่งหลังจากนั้นจะเข้าสู่ช่วงของการตกลงเซ็นสัญญา

4.) ต่อมาจะเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบเมนูอาหารและราคาให้ของอาหารแต่ละเมนูให้ถูกต้องครบถ้วน

5.) ร้านอาหารจะได้รับแท็บเล็ตจากทาง Food Panda พร้อมได้รับคำแนะนำในการใช้งานแท็บเล็ตและร้านค้าของเรา ก็จะออนไลน์อยู่บนแอปพลิเคชัน Food Panda และสามารถให้บริการได้เลย

  • ข้อดีของการ deal กับ Food Panda

- Food Panda จะคิดค่าคอมมิชชัน 35% จากมูลค่าของออเดอร์ทั้งหมดที่สั่งผ่านทาง Food Panda

- ร้านค้าที่ใช้บริการผ่าน Food Panda จะต้องจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่ม

- ตั้งร้านค้าออนไลน์ให้คุณ พร้อมช่วยรับและจัดการออเดอร์ให้ และรับ-ส่งอาหารไปบริการลูกค้าของคุณได้อย่างทันใจ

ก็จบลงไปแล้วนะคะ สำหรับ 'การนำร้านอาหารเข้าแอปพลิเคชันทั้ง 4 แอป' ซึ่งจะมี 'Line man,Grab Food ,Get และ Food Panda' ซึ่งเราแนะนำวิธีการสมัครและข้อดีของการที่ร้านค้าหรือผู้ประกอบการจะ Deal กับทาง Patner ทั้ง 4 หากผู้ประกอบการท่านไหนสนใจในช่องทางไหน ก็กดสมัครได้เลยค่ะ 🙂

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์