อื่นๆ

ใช้ชีวิตที่เรียบง่ายมากขึ้นด้วยการเปลี่ยนแนวทางการทำงาน

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
ใช้ชีวิตที่เรียบง่ายมากขึ้นด้วยการเปลี่ยนแนวทางการทำงาน

ท่ามกลางโลกที่พัฒนาและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว มีสิ่งอำนวยความสะดวกและสร้างความเพลิดเพลินมากมายให้กับชีวิต แต่ทำไมชีวิตกลับเหนื่อยมากขึ้นและมีความสุขน้อยลง ทุกคนต่างใช้ชีวิตไปตามแบบแผนที่ปฏิบัติกันมาอย่างยาวนาน คือ เรียนให้จบ ทำงาน มีบ้าน มีรถ แต่งงาน มีครอบครัว มีลูกหลาน และก็ตายไปในที่สุด ซึ่งกว่าจะผ่านพ้นในแต่ละช่วงเวลาของชีวิต เราต่างต้องดิ้นรนไขว่คว้า พยายามอย่างสุดแสนเพื่อให้ได้มาซึ่งการยอมรับจากสังคมตามที่ทำตามๆ กันมา เราลองเปลี่ยนมุมมองการใช้ชีวิตจากที่ต้องทำตามกระแสสังคม กลับมาใช้ชีวิตที่เรียบง่ายที่มีเงินพอใช้และมีเวลาเหลือเฟือ  ลองมาบาลานซ์โลกในการทำงานกับโลกส่วนตัวให้มีรายได้เลี้ยงชีพอย่างเหมาะสมและเบิกบานกับชีวิตได้ดี ด้วยการเปลี่ยนแนวทางการทำงานกันดู
Work at home

  1. มองหาบริษัทที่เสนอการทำงานแบบยืดหยุ่น ปัจจุบันมีหลายบริษัทที่มีความยืดหยุ่นในตารางเวลาการทำงานมากขึ้น โดยให้พนักงานกำหนดเวลาการทำงานของตนเองได้ เช่น ทำงานแบบไม่มีกำหนดเวลาเข้าออกแบบตายตัว  อาจทำงานสัปดาห์ละ 4 วัน และผสมผสานกับการทำงานที่บ้านสัปดาห์ละหนึ่งวัน เพราะมีรายงานวิจัยที่พบว่า การทำงานตามตารางเวลาที่ยืดหยุ่นนี้กลับสามารถเพิ่มรายได้ให้องค์กรได้มากกว่าทำงานเต็มเวลาเสียอีก
  2. ลองโน้มน้าวให้เจ้านายยอมให้ทำงานที่บ้าน ผลจากโควิดทำให้บริษัททั่วทั้งโลกต่างต้องปรับรูปแบบการทำงานในแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน หลายองค์กรล้วนได้รับประสบการณ์ที่ต้องให้พนักงานทำงานที่บ้าน และเริ่มคุ้นเคยกับมัน การทำงานที่บ้านนอกจากจะช่วยรักษาสมดุลระหว่างชีวิตการงานและส่วนตัวได้มากขึ้นแล้ว ยังช่วยลดรายจ่าย ลดเวลาและความเครียดในการเดินทางไปทำงาน ครอบครัวก็ได้รับประโยชน์ที่พ่อแม่มีเวลามากขึ้น สังคมก็ได้รับประโยชน์เพราะช่วยลดมลภาวะและลดการใช้พลังงานลง บรรเทาการจราจรติดขัด และยังส่งผลดีต่อนายจ้าง เพราะเมื่อพนักงานมีความสุขก็จะทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นและช่วยเพิ่มแรงจูงใจให้พนักงานตั้งใจทำงานและมีความภักดีต่อองค์กรเพื่อรักษาสิทธิพิเศษนี้ไว้ แถมยังช่วยลดค่าใช้จ่ายให้องค์กรได้ถึงร้อยละ 10  หากเจ้านายยังกลัวว่าการทำงานที่บ้านอาจทำให้พนักงานทำงานได้ไม่เต็มที่และไม่ตั้งใจทำงานก็ลองเสนอวิธีในการวัดประสิทธิภาพในการทำงานที่ดีกว่าการสังเกตการณ์ ด้วยการตกลงเป้าหมาย ความคาดหวัง กรอบเวลาและวิธีการรับผิดชอบให้ชัดเจนร่วมกัน โดยควรเริ่มโน้มน้าวใจทีละน้อยแบบค่อยเป็นค่อยไป เช่น ทดลองทำงานที่บ้านสัปดาห์ละวันในช่วงสามเดือน และเลือกวันที่กระทบกระเทือนบริษัทน้อยที่สุด เพื่อให้เป็นประโยชน์สูงสุดแก่ทุกฝ่าย
    Work at home 2
  3. ถามใจตัวเองว่าคุณเหมาะกับการทำงานที่บ้านหรือไม่ การทำงานที่บ้านเป็นกระแสความนิยมที่กำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ และมีแนวโน้มว่าจะมีความสำคัญเนื่องจากเทคโนโลยีทางไกลที่ทันสมัยมากขึ้น แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะเหมาะกับบรรยากาศการทำงานที่บ้าน เพราะคนรอบตัวไม่ว่าจะเป็นครอบครัว เพื่อนบ้าน อาจจะคิดว่าการทำงานที่บ้านแปลว่าคุณไม่ได้ทำงาน จึงมักจะมารบกวนคุณอยู่เสมอ ดังนั้นจึงควรบอกพวกเขาให้เข้าใจพร้อมตั้งกฎเกณฑ์ไว้ อีกสิ่งที่ต้องระวังคือสมาธิในการทำงาน เพราะจะมีสิ่งอื่นที่นอกเหนือจากงานมาทำให้จิตใจคุณว่อกแว่กคอยกวักมือเรียกให้คุณไปทำเสมอ เช่น ล้างจาน ปลูกต้นไม้ ซักผ้า ทำความสะอาดบ้าน ดูซีรีส์ เล่นกับน้องหมาน้องแมว นอนหลับ ถ้าเป็นไปได้ควรแยกห้องทำงานออกมาต่างหาก นอกจากนี้การใส่ชุดอยู่บ้านนั่งทำงานอาจทำให้คุณรู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในโหมดพักผ่อน จึงควรอาบน้ำแต่งตัวให้พร้อมกับโหมดทำงาน และสิ่งสำคัญคือสัมพันธภาพกับเพื่อนๆ ในที่ทำงาน ที่โทรศัพท์ อีเมล หรือ social ก็ทดแทนไม่ได้ คุณจึงควรถามตัวเองว่าคุณสามารถทำงานโดดเดี่ยวไร้คนเม้าท์มอยด้วยที่บ้านได้หรือไม่ เพื่อจะได้ตัดสินใจว่าคุณจะอยู่ได้หรือไม่หากไม่มีเพื่อนร่วมงานอยู่ใกล้ตัว
    work at home 3
  4. รายได้มากพอเลี้ยงชีพไหม ทุกวันนี้คนส่วนใหญ่ต่างใช้จ่ายกันแบบไม่บันยะบันยัง เพราะรอบกายล้วนมีสิ่งที่ต้องใช้ต้องจ่าย ไหนจะค่าเดินทางที่แสนแพง ค่ากาแฟยี่ห้อดัง ค่าอาหารมื้อกลางวันและเย็นที่ต้องไปสังสรรค์กับเพื่อน ค่าผ่อนบ้าน ผ่อนรถ เลี้ยงลูก เสื้อผ้า หน้าผม เครื่องบำรุง จนคุณอาจตกใจว่าคุณใช้เงินไปกับสิ่งเหล่านี้มากเพียงใด เมื่อรายจ่ายเริ่มปริ่มหรือมากกว่ารายได้ คุณอาจมองไม่เห็นทางเลยว่า จะอยู่ด้วยเงินจำนวนน้อยกว่านี้ได้อย่างไร ดังนั้นคุณควรลองรวมค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่คุณต้องใช้ในปัจจุบันนำมาหักลบด้วยรายได้ (และอย่าลืมบวกต้นทุนทางอารมณ์ สมองและความเครียดจากการทำงานด้วย) สุดท้ายคุณจะพบว่าทำไมฉันต้องทำงานหนักขนาดนี้เพียงเพื่อให้มีบ้านที่หรูหรา มีรถยี่ห้อดัง มีมือถือที่แสนแพง ส่งลูกเรียนโรงเรียนดีดี หรือได้ไปพักผ่อนสถานที่สุดหรู ไปกินอาหารร้านดังที่ต้องต่อคิวยาวเหยียด เพียงเพื่ออัพลงโซเชียลให้คนอื่นเห็น ลองถามตัวเองว่าสิ่งเหล่านี้มีความสำคัญกับคุณมากน้อยแค่ไหน คุณจำเป็นขนาดไหนที่ต้องทำงานหนักหนาสาหัสแต่ไม่มีเวลาอยู่กับครอบครัว หรือไม่มีโอกาสได้หยุดอยู่บ้านเพื่อรื่นรมย์กับบ้านที่คุณได้ทุ่มเทเวลาไปมากมายเพื่อหาเงินมาซื้อ ลองกำหนดเป้าหมายและสิ่งที่มีความหมายเพื่อปรับสมดุลสำหรับชีวิตใหม่ พร้อมปรับรายได้รายจ่ายให้ลงตัวและมีความสุขกับชีวิตตอนนี้
    Own business
  5. ลองทำธุรกิจของตัวเอง หลายๆ คนฝันอยากจะมีธุรกิจของตัวเอง ด้วยยุคสมัยใหม่ทำให้ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของธุรกิจของตนเองได้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจอะไรก็ตามขอให้คุณแน่ใจว่าคุณพร้อมจะตื่นมาเจอกับมันในทุกๆ เช้า ลองค้นหาช่องว่าง ความต้องการของผู้บริโภคและสิ่งที่คุณอยากทำ กำหนดวงเงินให้ชัดเจนว่าต้องกู้เงินหรือไม่ จะมีรายได้สม่ำเสมอทุกเดือนหรือไม่ ต้องใช้เวลานานเท่าไรจึงจะคุ้มทุนและมีกำไร พยายามหาข้อมูลให้มากที่สุด แต่ก็อย่ามากจนไม่ได้ลงมือทำสักที และอย่าลืมคิดถึงชีวิตส่วนตัว ว่าการทำธุรกิจจะทำให้ชีวิตเปลี่ยนไปอย่างไรทั้งในระยะสั้นและระยะยาว มันคุ้มค่าไหมที่คุณต้องยอมสูญเสียอะไรไปเพื่อให้ธุรกิจนี้เติบโตและก้าวต่อไปได้ ลองวาดภาพตัวเองในอีก 5 ปีหรือ 10 ปีข้างหน้าดู และเตรียมพร้อมสำหรับความพลิกผันเมื่อทุกสิ่งไม่เป็นไปตามที่ใจคุณต้องการ แต่ท้ายที่สุดเมื่อคุณผ่านมันมาได้ อาจดูเหมือนคุณทำงานหนักและนานขึ้น แต่คุณกลับไม่รู้สึกว่ามันหนักหนาอะไรเลย
    coffee
  6. หาที่ปรึกษาหรือพี่เลี้ยง ไม่ว่าจะชีวิตการทำงานหรือมีกิจการของตัวเอง การมีที่ปรึกษาหรือพี่เลี้ยงนับเป็นสิ่งที่ดี คุณจึงควรมองหาคนที่จะให้ความรู้หรือประสบการณ์กับคุณที่ไว้วางใจได้ โดยไม่จำเป็นว่าคนนั้นจะต้องมีชื่อเสียงหรือน่าเชื่อถือ ขอแค่ให้เป็นคนที่คุณรู้สึกเลื่อมใสและยึดมั่นในค่านิยมที่ไม่ต่างจากคุณ บางทีอาจเป็นแค่เจ้านายหรือเพื่อนร่วมงานที่คอยให้คำแนะนำ ให้กำลังใจ สร้างแรงบันดาลใจให้คุณไปต่อ หรือคุณอาจเข้าร่วมกับกลุ่มที่สนใจในเรื่องราวเดียวกับคุณ ซึ่งบางทีอาจไม่จำเป็นต้องเสียเงินเลยสักบาท หากวันใดคุณโชคดีได้รู้จักกับคนเหล่านี้ จงเรียนรู้จากเขาอย่างเต็มที่ เพราะคุณจะได้เรียนรู้แบบทางลัดที่จะช่วยให้คุณไปถึงเป้าหมายในชีวิตได้เร็วขึ้น

Advertisement

Advertisement

friend

ชีวิตเกิดมาแล้วก็ควรใช้อย่างคุ้มค่า คุ้มกับเวลาเพื่อเป้าหมายที่คุณต้องการ อย่ามัวเปรียบเทียบชีวิตคุณกับชีวิตคนอื่น ไม่จำเป็นที่คุณจะต้องใช้ชีวิตตามกรอบของสังคมเหมือนคนทั่วไป  แต่จงมุ่งมั่นและตั้งใจที่จะออกแบบชีวิตของคุณเองที่มีความสุขในแบบที่เรียบง่าย ไม่ทำให้ใครเดือดร้อนและเป็นตัวของคุณเอง โดยลองเริ่มต้นจากการปรับเปลี่ยนแนวทางการทำงานตั้งแต่วันนี้

ภาพประกอบ

เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !

Advertisement

Advertisement

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์