อื่นๆ

ได้เท่านี้ก็มีความสุขแล้ว.......?

167
คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
ได้เท่านี้ก็มีความสุขแล้ว.......?

ได้เท่านี้ก็มีความสุขแล้ว.........

ในช่วงเวลาหนึ่งของมนุษย์หรือของใครหลายๆคนอาจจะดิ้นรนวิ่งตามหาความสุขหรือแม้แต่ทุกสิ่งตัวเองเองรู้สึกว่าสิ่งนั้นได้ขายหายไปหรือว่าไม่มีเลยเป็นต้นซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็คงจะปฏิเสธไม่ได้อยู่แล้วใช่ไหมครับเพราะใครก็เขาก็อยากมีความสุขในชีวิตกันทั้งนั้นจึงจำเป็นที่ทำให้ทุกคนบนโลกในนี้ยังต้องตามหามันอยู่เป็นเรื่องธรรมดาซึ่งสิ่งต่างๆเหล่านี้นั้นก็หลายๆคนอาจจะรู้อยู่แล้วยกตัวอย่างเช่น....

-ทรัพย์สินของมีค่าต่างๆ

-บ้านที่พักอาศัยที่ใหญ่โต

-เสื้อผ้าสวยๆกระเป๋างามๆ

-ท่องเที่ยวในต่างประเทศบ่อยๆเท่าที่จะทำได้

-ความรักหรือแม้แต่ความสุขจากเพื่อนๆทั้งจริงใจและไม่จริงใจ เป็นต้น

คุณชายต้น

ซึ่งสิ่งต่างๆที่ยกตัวอย่างเหล่านี้มานั้นทุกคนบนโลกใบนี้ต่างก็มีความฝันที่อยากจะได้แบบนี้  แต่ปัญหาของมันคือเราไม่ได้แต่คนอื่นทำไมเขาทำได้อะไรทำนองนี้ซึ่งเหตุผลต่างๆเหล่านี้มันจึงมีอิทธิพลต่อใจของเราอย่างมากเพราะว่าเรามองตัวแต่คนที่เขามีจนไม่ได้มองดูสิ่งที่ตัวเองมีอยู่นั้นเลยเป็นสาเหตุที่ทำให้เราเป็นทุกข์และไม่มีความสุข

Advertisement

Advertisement

หากเราลองคิดและทบทวนดูดีๆแล้วว่าเพราะเหตุใดตัวเราถึงต้องไปมองคนอื่นแล้วเอามาทำร้ายจิตใจของตัวเราเองใช่ไหมครับ

เราต้องคิดสิครับว่าทำไม่เราถึงไม่มีความสุขเหมือนคนอื่นๆเขา เหตุผลของผมก็คือ..........?

1. เราไม่พอใจในสิ่งที่เรามีเรามักจะคิดเสมอว่าเขามีมากกว่าเรา

2.  เราถูกครอบงำโดยคำว่าอยากได้

3.  เราต้องมองย้อนมาดูว่าเรามีปัจจัยอะไรที่เราจะสามารถทำได้อย่างนั้นบ้าง

4.   มัวแต่มองคนอื่นอย่างเดียวแต่ไม่เอาแบบหรือว่าพยามให้ให้ได้แบบเขา

5.   ถึงรู้ว่าตัวเองสามารถทำได้แต่ไม่รอไม่อดทนหรือแม้แต่ไม่สู้เป็นต้น

คุณชายต้น

เอาล่ะหากยิ่งพูดไปมันก็จะยิ่งยาวไปไม่จบสักทีถ้างั้นผมขอสรุปเลยล่ะกันนะครับ สรุปก็คือว่า ถ้าหากเราอยากมีความสุขแบบไม่ต้องคิดอะไรนะครับ คือ ....

เราต้องพอใจในสิ่งที่ตัวเรามีอยู่และก็ต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดเท่าที่ตัวเองจะได้หรือแม้แต่อาจจะอยู่แบบเรียบง่ายไม่จะเป็นต้องดิ้นรนอะไรมากมายนักจนเกิดความกดดันให้กับตัวของเราเองอะไรมานานแหละครับ  คือพอใจในสิ่งที่ตนมีอยู่จับจ่ายใช้สอยด้วยความประหยัดขยัดอดทนให้มากๆแล้วก็ทำหน้าที่ของตัวเองไปเรื่อยๆและก็ให้ดีขึ้นกว่าเมื่อวานโดยที่ไม่ต้องไปแข็งหรือเอาความสำเร็จของคนอื่นมาเป็นตัวชี้วัดให้ตัวเองเพราะมันจะทำให้เรานั้นหมดกำลังใจเมื่อใดที่กำลังใจของคุณหมด แม้แต่เนินเล็กๆคุนก็จะมองว่ามันคือภูเขา แต่หากว่ากำลังใจคุณเต็มเปี่ยมแม้ภูเขาจะใหญ่แค่ไหนคุณก็จะเห็นมันเป็นแค่เนินเล็กๆเท่านั้นเอง...........

Advertisement

Advertisement

แต่ถ้าว่าเราพอใจในสิ่งที่เรามีแล้วถึงแม้ไม่จำเป็นต้องอะไรมากมายอาจจะทำนา ทำสวน ทำไร่ปลูกพืชเลี้ยงสัตว์อยู่ที่บ้านนอกก็มีความสุข(ความฝันของผู้เขียนแหละครับ)ซึ่งเราได้อยู่ตามท้องทุ่งท้องนาบรรยากาศเย็นสบายในตอนใกล้ค่ำโอ๊ยมันมีความสุขที่สุดเลยแหละปลูกผักสวนครัวแบบง่ายๆและที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือแทบจะไม่ต้องซื้อเขาเลยเท่านี้ก็สุดจะสุขที่สุดแล้วซึ่งวิถีชีวิตแบบนี้เด็กรุ่นใหม่หรือแม้แต่คนในเมืองใหญ่ๆกำลังฝันถึงเลยแหละครับ....

คุณชายต้น

เพราะหากเราเปรียบเทียบกันระหว่างสังคมในเมืองกับสังคมบ้านบอกเราแล้วมันแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงไม่ว่าจะเป็นการครองชีพพืชผักสวนครัว กุ้ง หอย ปู ปลา อะไรก็ต้องใช้เงินเป็นหลักซึ่งถ้าจะพึ่งพาอาศัยกันแบบชาวบ้านหรือเพื่อนบ้านนั้นแล้วละก็หาได้น้อยมากในสังคมเมือง แต่อย่างไรก็ตามเราก็ยังคงมีหน้าที่และต้องทำให้ดีที่สุดจนสุดความรู้ความสามารถในกำลังและสติปัญญาของเรานั่นแหละครับแล้วสิ่งที่สำคัญที่สุดก็ต้องพอใจในสิ่งที่ตัวเองมีและทำให้ดียิ่งขึ้นกว่าวันที่ผ่านมาก็พอครับ

Advertisement

Advertisement

!!!!!!   แม้เนินเล็กๆคุณก็ได้มองเห็นเป็นภูเขา  แต่หากกำลังคุณเต็มเปี่ยม ภูเขาก็จะเป็นแค่เนินเล็กๆในสายตาคุณเท่านั้นเอง  !!!!!!

ภาพจาก คุณชายต้น  (ผู้เขียน)

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์