ไลฟ์แฮ็ก

ไปต่างประเทศ ทำไมต้องมี VPN ติดตัวไว้เสมอ

398
คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
ไปต่างประเทศ ทำไมต้องมี VPN ติดตัวไว้เสมอ

ถ้าให้ย้อนเวลากลับไปเมื่อ 15 ปีที่แล้ว การติดต่อสื่อสารหรือที่เรียกว่าโทรคมนาคมทั้งในและต่างประเทศ แตกต่างจากในปัจจุบันโดยสิ้นเชิง ซึ่งหากเป็นสมัยนั้น เราจะสามารถติดต่อสื่อสารหากันได้ทางเดียวคือ การโทรศัพท์และการส่ง SMS ยิ่งถ้าเราต้องโทรศัพท์หาคนที่อยู่ต่างประเทศด้วยแล้ว ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงเลยทีเดียว (ถ้าอ่านมาถึงตรงนี้แล้วรับรู้ถึงค่าเสียหาย ก็แปลว่าเราไม่เด็กแล้วนะ)

กลับมาในปัจจุบันกันบ้าง การติดต่อสื่อสารกันง่ายเพียงปลายนิ้วมือ อยากจะโทรศัพท์หาคนที่อยู่อีกประเทศก็แค่เปิดไลน์หรือเปิดเฟสบุ๊คแล้ว Facetime หากันก็เจอหน้ากันได้แล้ว เพราะเรามีนวัฒกรรมที่เรียกว่า "อินเทอร์เน็ต" อยู่ จะทำธุรกรรมข้ามประเทศก็แสนจะง่ายดาย แทนที่จะส่ง SMS หากัน ก็เปลี่ยนมาเป็นส่ง E-Mail แต่เพราะความง่ายดายนี้ ทำให้เกิดช่องว่างในการใช้งาน เป็นเหตุให้เกิดการแฮ็ก (Hack) เกิดขึ้น เพราะฉะนั้นผู้เขียนจะพาทุกคนมารู้จักกับตำรวจที่เรียกว่า VPN ว่าเขาทำงานอย่างไร แล้วจะดูแลความปลอดภัยระหว่างที่เราใช้อินเทอร์เน็ตได้อย่างไร ตามมาดูกันเลยจ้า

Advertisement

Advertisement

ทำไมต้องมี VPN ติดตัวทุกครั้งเมื่อต้องไปต่างประเทศ?

Social Network กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเราไปแล้ว ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ไหน เราก็ต้องใช้ Social Network ในการติดต่อสื่อสาร ลองคิดเล่นๆ ดู ถ้าวันนี้โทรศัพท์มือถือของเราไม่สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ การใช้ชีวิตประจำวันของเราน่าจะวุ่นวายน่าดูเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นหากมี VPN (Virtual Private Network) ติดตัวไว้ ก็จะทำให้การเล่น Social Network, การทำงาน, การเล่นเกม หรือการเรียนของเราปลอดภัยยิ่งขึ้น

ข้อควรคำนึงก่อนเริ่มใช้ VPN คู่กับอินเทอร์เน็ตในต่างประเทศ

แน่นอนว่าการใช้อินเทอร์เน็ตในต่างประเทศในปัจจุบันไม่ใช่เรื่องยาก อีกทั้งยังเป็นความสบายใจแก่ผู้ที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศอีกด้วย แล้วเราจะต้องเตรียมตัวอย่างไรเมื่อต้องใช้อินเทอร์เน็ตในต่างประเทศ ตามมาดูกันเลยจ้า

Advertisement

Advertisement

1. ความปลอดภัย (Security)
สิ่งที่เราต้องคำนึงเป็นลำดับแรก ก่อนที่จะใช้อินเทอร์เน็ตในต่างประเทศคือเรื่อง “ความปลอดภัยของข้อมูล” ของอุปกรณ์เรา เพราะถึงแม้ว่าเราจะใช้บริการจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตในต่างประเทศ หรือจะใช้บริการ Wi-Fi ฟรีที่มีอยู่มากมาย แต่ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัวเราด้วย เพราะถ้าหากถูกดักจับข้อมูลผ่านทาง Wi-Fi สาธารณะขึ้นมากจริง ๆ คงไม่ดีแน่

ที่ต้องให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก ๆ เพราะเราไปอยู่ต่างบ้านต่างเมือง หากเกิดปัญหาขึ้นมาจริง ๆ การขอความช่วยเหลือจะเป็นไปด้วยความยากลำบาก ต้องติดต่อเรื่องผ่านคนมากมาย กว่าจะสามารถกู้คืนหรือเรียกคืนข้อมูลกลับมาได้ อาจจะต้องใช้เวลาหลายวัน หรืออาจจะสายไปเสียแล้วที่จะต้องใช้ข้อมูลนั้น ถ้าหากไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ก็เปิด VPN (Virtual Private Network) ก่อนใช้งานอินเทอร์เน็ตด้วยนะ

Advertisement

Advertisement

ยิ่งถ้าหากใครที่ไปเรียนต่อหรือไปทำงาน การส่งข้อมูลสำคัญผ่านทางอินเทอร์เน็ตอาจจะไม่ปลอดภัย บิ๊กบลูแนะนำให้เชื่อมต่อ VPN (Virtual Private Network) ด้วย BullVPN ก่อนใช้งานอินเทอร์เน็ต เพราะนอกจากจะเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานอินเทอร์เน็ตแล้ว ยังปลอดภัยจากการถูกดักจับข้อมูลจากผู้ที่ไม่หวังดีด้วย ยิ่งถ้าเป็นเอกสารสำคัญแล้ว การใช้ VPN (Virtual Private Network) จะช่วยเรื่องความปลอดภัยได้มาก รวมไปถึงการทำธุรกรรมทางการเงินด้วย

2. ความบันเทิง
เมื่อเราอยู่ต่างประเทศ แต่ต้องการเข้า Social Network อย่างเช่น Facebook, Line, Youtube, Instagram, Twitter ฯลฯ หรือจะเป็นสตรีมมิ่ง (Streamimg) อย่าง Netflix, Disney +, Line TV, AIS Play, Joox, Spontify, HBO Max ฯลฯ ไม่ว่าจะในประเทศไทยหรือประเทศไหน คุณก็สามารถมุด VPN (Virtual Private Network) เข้าไปเล่น Social Network และรับชม Streaming ได้ เพียงแค่เชื่อมต่อ VPN ของ BullVPN เพราะ BullVPN มี Server ให้คุณเลือกถึง 22 ประเทศทั่วโลก และที่สำคัญหากต้องการมุดไปที่ไหน หรือต้องการความช่วยเหลือ ก็สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ให้ช่วยเหลือได้ตลอดเวลา

นอกเหนือจาก Social Network และสตรีมมิ่ง (Streamimg) ก็สามารถเข้าถึงได้ เพียงแค่เชื่อมต่อ VPN (Virtual Private Network) ด้วย BullVPN เพียงเท่านี้ก็สามารถเข้าใช้งานและรับชมได้แล้ว เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ ผู้หญิงหรือผู้ชาย ก็สามารถใช้งาน VPN (Virtual Private Network) ได้ เพราะใช้งานง่าย สะดวกสบาย และที่สำคัญคือ “ความปลอดภัย” อย่างที่เราเน้นไปตอนแรก ไม่ว่าจะต้องการความบันเทิงมากน้อยขนาดไหน ความปลอดภัยก็คือข้อหนึ่งที่เราต้องคำนึงให้มาก ๆ อีกด้วย

3. เข้าถึงข้อมูลที่ถูกปิดกั้นจากประเทศต้นทาง
เนื้อหาบางอย่างในประเทศที่เราไป เช่น จีน ดูไบ รัสเซีย ยูเออี (UAE : United Arab Emirates) ฯลฯ ประเทศเหล่านี้อาจปิดกั้นให้คุณไม่สามารถเข้าถึง Social Network บางอย่างได้ อาทิ คุณไม่สามารถเข้า Facebook และ Line ที่ประเทศจีนได้ เป็นต้น แล้วถ้าเราอยากเข้าถึงข้อมูลหรือเข้าถึงเว็บไซต์ล่ะ ต้องทำอย่างไรดี?

วิธีการก็แสนง่าย เพียงแค่เชื่อต่อ VPN (Virtual Private Network) และเลือกเชื่อมต่อ Server ในประเทศปลายทาง ผ่าน BullVPN เพียงเท่านี้ คุณก็สามารถเข้าถึงข้อมูลดังกล่าวได้แล้ว เช่น คุณอยู่ประเทศจีน แล้วต้องการเล่น Line เพื่อคุยกับคนในประเทศไทย ก็ให้คุณเชื่อมต่อ BullVPN Server Thailand เป็นต้น

แต่ในกรณีนี้เราต้องศึกษาข้อมูลมาก่อนเบื้องต้น ว่าเราอยู่ใกล้ประเทศที่สามารถใช้งานแอปพลิเคชั่นนั้นมากน้อยแค่ไหน เพราะด้วยระยะทางที่ไกล อาจจะทำให้ความเสถียรของการใช้งานนั้นลดลง ส่งผลให้การใช้งานแอปพลิเคชั่นนั้นอาจจะไม่ได้เร็วอย่างที่คิด เพราะฉะนั้นถ้าเรารู้ว่าประเทศรอบ ๆ ตัวเราสามารถใช้งานแอปพลิเคชั่นที่เราต้องการใช้ได้ ก็ให้เลือก Server ที่อยู่ใกล้ประเทศเรา จะเป็นการดีที่สุด

4. มุดไปเล่นเกมในต่างประเทศและลดแลค ลดปิง
สำหรับผู้ที่ต้องเล่นเกม Server ต่างประเทศ ก็สามารถทำได้ง่ายๆ เพียงดาวน์โหลดเกม และทำการติดตั้งเกมลงเครื่องให้เรียบร้อย และก่อนเปิดเกมให้เชื่อมต่อ BullVPN และเลือก Server ประเทศที่คุณต้องการเล่นเกม เช่น ต้องการเล่นเกม Server เกาหลี (Korea) เราก็แค่เชื่อมต่อ BullVPN Server Korea เพียงเท่านี้คุณก็สามารถเล่นเกมใน Server ในเกาหลีได้แล้ว และที่สำคัญยังลดลดความแกว่งของค่า Ping (ปิง) ซึ่งเป็นสาเหตุของอาการแลคอีกด้วย

หากใครที่ต้องการคำแนะนำเกี่ยวกับการเลือกใช้ VPN (Virtual Private Network) ผู้เขียนก็อยากจะแนะนำให้เลือกใช้บริการกับผู้ให้บริการที่เราสามารถเข้าถึงได้ เมื่อเวลาเกิดปัญหาขึ้นมาเราจะได้ปรึกษาได้ทันท่วงที และที่สำคัญเลยคือเรื่องความปลอดภัย ผู้เริ่มใช้งานต้องศึกษากระบวนการทำงานของ VPN (Virtual Private Network) ก่อนเริ่มใช้งานเพื่อที่จะได้เลือกใช้งานได้อย่างเหมาะสมและปลอดภัยนั่นเอง

บางคนมักเข้าใจผิด คิดว่าการเชื่อมต่อ VPN (Virtual Private Network) จะทำให้เกมที่เราเล่นอยู่ ลื่น ไหล ไม่กระตุกเลย จึงทำให้ไว้วางใจ VPN (Virtual Private Network) มากเสียเกินลืมดูความแรง (ความเร็วของอินเทอร์เน็ต) ของอินเทอร์เน็ตตัวเองไป ถ้าหากอินเทอร์เน็ตของเรา มีกำลังส่งออกที่น้อยจนเกินไป การเชื่อมต่อ VPN (Virtual Private Network) ก็คงไม่ใช่ทางออกที่ดี แต่หากเรามีความเร็วอินเทอร์เน็ตที่ดี แล้วในขณะเล่นเกม เกิดมีอาการกระตุกบ้าง ปิงบ้าง แลคบ้าง เพราะเนื่องจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตปล่อยอินเทอร์เน็ตให้ใช้บริการได้ไม่เสถียรมากนัก การใช้ VPN (Virtual Private Network) ก็จะช่วยได้ในระดับหนึ่ง เพราะด้วยความไม่ระบุตัวตนของ VPN (Virtual Private Network) นี่แหล่ะ จึงทำให้ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตตรวจสอบการใช้งานของเราไม่ได้ อินเทอร์เน็ตที่เราใช้งานจึงเสถียรขึ้น สรุปง่าย ๆ เลยก็คือเราไม่สามารถใช้ VPN (Virtual Private Network) โกงค่าอินเทอร์เน็ตจากผู้ให้บริการได้นะจ๊ะ

VPN (Virtual Private Network) เป็นเครือข่ายเสมือนจริงที่ทำให้เราสามารถเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ ที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ อาจจะเกิดจากการที่ประเทศปลายทางกำหนดให้คนในประเทศเท่านั้นที่สามารถรับชมได้ เราก็จำเป็นที่จะต้องมุด VPN (Virtual Private Network) เข้าไปเพื่อรับชม แต่ด้วยความปลอดภัยนี้ก็ทำให้ VPN (Virtual Private Network) ถูกใช้ไปในทางที่ไม่ดี ซึ่งอันนี้ผู้เขียนขอไม่แนะนำดีกว่า ให้ใช้เพื่อการทำงานและเพื่อความบันเทิงจะดีกว่า

สุดท้ายนี้ผู้เขียนก็หวังว่าทุกท่านที่อ่านมาถึงตรงนี้จะนำ VPN (Virtual Private Network) ไปใช้ในทางที่ถูกต้อง หากใช้ไปในทางที่ถูก VPN (Virtual Private Network) ก็จะให้ประโยชน์ ให้ความบันเทิงเรากลับมา แต่หากเราใช้ไปในทางที่ไม่ถูกต้อง ไม่เหมาะสม เจ้า VPN (Virtual Private Network) ก็อาจจะย้อนกลับเข้ามาทำร้ายเราได้ในภายหลัง

หากชื่นชอบผลงานของผู้เขียน สามารถให้กำลังใจได้ด้วยการแชร์บทความนี้ออกไปสู่โลกกว้าง ผู้เขียนจะดีใจมาก ๆ เลยค่ะ

สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : https://bit.ly/3aQf7rD

เว็บไซต์ BullVPN : https://www.bullvpn.com/

Facebook : www.facebook.com/bullvpn

Line : @bullvpn


disneyplusxbullvpnMGTVxbullvpnTVerxbullvpncrunchyrollxbullvpngamezonexbullvpn


BullVPN สามารถใช้งานได้ทั้งในระบบ Window, iOS, Mac, Android และบน Chrome (ภาพโดยผู้เขียน)

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์