อื่นๆ

ไมยราพชีวิตล้มแล้วลุก

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
ไมยราพชีวิตล้มแล้วลุก

ผมจำได้ว่าเมื่อช่วงสมัยปิดเทอมตอนผมเป็นเด็ก ๆ เวลาประมาณช่วงสาย ๆ จำได้ว่าผมมาวิ่งเล่นตามท้องถนน ช่วงนั้นแถวบ้านนั้นค่อนข้างจะเป็นป่า ท้องถนนจะเป็นถนนลูกรัง และเห็นไมยราพตามสองข้างทาง ตามป่า หรือตามท้องทุ่ง เข้าใจว่าเป็นพืชหรือ เป็นดอกไม้ชนิดหนึ่ง ดอกไมยราพจะมีลักษณะจะเป็นดอกปุยสีม่วงอ่อน ๆ สีสวย ผมเคยเอามือแตะใบที่เป็นใบเล็ก ๆ เมื่อแตะแล้วใบจะค่อย ๆ หุบลง และเมื่อตอนเช้ามาสังเกตอีกทีใบจะบานขึ้นมาใหม่

ผมได้ศึกษาวรรณกรรมบางตอนของเรื่องรามเกียรติ์ ไมยราพเป็นตัวละครตัวหนึ่งเป็นศัตรูของพระลักษณ์พระราม ซึ่งฆ่าเท่าไหร่ฆ่าไม่ตาย ทำให้หนุมานทหารเอกของพระรามปวดหัวเป็นยิ่งนัก ผมคิดเหมือนกันว่าผมนึกถึงชื่อ ไมยราพ ซึ่งเป็นตัวละครเรื่อง รามเกียรติ์ ขึ้นเมื่อผมนึกถึงต้นไมยราพ ตามสองข้างทางหรือตามท้องทุ่งนานั่นเอง ชอบตัวละครไมยราพ เพราะนึกว่าฆ่าแล้วฟื้นขึ้นมาใหม่ ส่วนต้นไมยราพเมื่อใบถูกแตะแล้วจะหุบลง หลังจากนั้นรุ่งเช้าใบไมยราพก็จะผลิบานขึ้นมาใหม่ หากเปรียบเทียบชีวิตเล็ก ๆ ของผมแล้วก็คงจะเฉกเช่นเดียวกัน ที่ผิดพลาดแล้วพร้อมที่จะลุกขึ้นมาใหม่เมื่ออรุณรุ่ง

Advertisement

Advertisement

ผมเคยเจ็บป่วยเป็นโรคจิตเภทเมื่อนานมาแล้ว ปัจจุบันก็ยังคงรับยาทานต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ  ช่วงนี้ดีขึ้นเรื่อย ๆ พอทรงตัว เมื่อก่อนความเจ็บป่วยจนทำให้ผมนั้นต้องลาออกจากงานเพราะสุขภาพร่างกายเพลียมาก ทำงานต่อไปไม่ไหว อาการอ่อนเพลีย มีอาการง่วงนอน จำเป็นต้องนอนพักผ่อน ชีวิตช่วงนั้นผมว่างก็จะอ่านหนังสือ เขียนบันทึกประจำวันเอาไว้ได้อ่านชีวิตของตัวเองบางช่วง

หลังจากที่ผมได้รักษาสุขภาพมาระยะหนึ่งก็ได้ลองสมัครงานที่บ้านทำดูเผื่อว่าการทำงานอาจทำให้ผมนั้นมีสุขภาพแข็งแรงขึ้นมาบ้างและตอนนั้นก็ได้งานทำที่โรงพยาบาลประจำอำเภอที่บ้าน ผมรับยาที่โรงพยาบาลที่ผมทำงานอยู่ ก็สู้ชีวิตมาเรื่อย ๆ ประกอบกับการออกกำลังกายด้วยการวิ่ง สามารถที่จะทำให้ผมลดน้ำหนักได้บ้าง และสุขภาพแข็งแรงขึ้นมาบ้าง นั่นคือชีวิตผมเริ่มจะผลิบานแล้ว สิ่งที่ผมบอกว่าผมจะลุกขึ้นก็เป็นการลุกขึ้นยืน ในชีวิตเล็ก ๆ  ของผมเอง

Advertisement

Advertisement

ก้าวแรกของนักเขียนตัวเล็กๆก้าวเล็กๆของงานนักเขียนตัวน้อยๆ

ผมได้เข้าร่วมกิจกรรมประกวดเรื่องเล่าของทางโรงพยาบาลที่จัดขึ้น เนื่องจากว่าผมชอบงานเขียนหนังสืออยู่แล้ว เพื่อที่จะเป็นกระจกสะท้อนตัวผมเองว่าผมจะสามารถเขียนหนังสือได้ดีหรือไม่  ผมก็ได้ทำสำเร็จผมได้รับรางวัลจากการเขียนเรื่องเล่า ชีวิตที่เจ็บปวดของคนป่วย โดยได้รับรางวัลที่ 3 ซึ่งทำให้ผมนั้นภูมิใจกับผลงานของตัวเอง และบอกกับตัวเองว่า ชีวิตนักเขียนเล็ก ๆ นั้นได้เริ่มก้าวเดินแล้ว เมื่อทางโรงพยาบาลจัดกิจกรรมเรื่องเล่า ผมจะส่งเรื่องเล่าเข้าประกวดอีกครับ

ความสำเร็จของการทำวิจัยความพึงพอใจการใช้งานคอมพิวดเตอร์

ความสำเร็จเล็ก ๆ ที่ผมได้เข้าร่วมกิจกรรมของทางโรงพยาบาลอีกคือ การเข้าร่วมกิจกรรมงานประจำสู่งานวิจัย ซึ่งผมก็ไม่ค่อยจะรู้เรื่องการทำงานวิจัยมากนัก แต่ก็ได้ร่วมมือกับน้องต้น จัดทำงานวิจัยสำเร็จออกมาเป็นรูปเล่มจนได้ สร้างความภาคภูมิใจเล็ก ๆ ในชีวิตให้ผมได้ภูมิใจมาจนถึงทุกวันนี้

Advertisement

Advertisement

ก้าวเดินเพื่อนสุขภาพรำลึกถึงจ่าแซม

การออกกำลังกายด้วยการวิ่ง ทำให้ผมนั้นได้เริ่มมีสุขภาพของตัวเองเริ่มแข็งแรงมากขึ้น ตอนนั้นผมได้รู้จักเพื่อนนักวิ่งที่บ้าน จึงทำให้ผมนั้นได้ฝึกการวิ่งที่บ้านกับเพื่อน ผมคิดว่าชีวิตผมเริ่มมีชีวิตชีวามากขึ้นกว่าเดิม การวิ่งนอกจากจะทำให้ผมได้ฝึกวิ่งเพื่อสุขภาพแข็งแรงแล้ว ยังทำให้ผมนั้นได้เข้าร่วมกิจกรรมงานวิ่งต่าง ๆ เปรียบเหมือนได้ไปเที่ยวต่างจังหวัดไปในตัวด้วย ได้คุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์วิ่งกับนักวิ่งผู้ร่วมทาง มีมิตรภาพดีดีสองข้างทาง  และนั่นคือ บันใดสู่ฝัน ของตัวเองที่ผมนั้นฝันถึงการ วิ่งระยะมาราธอน (42.195 กิโลเมตร) ผมสัญญากับเพื่อนนักวิ่งทางคนหนึ่งว่าผมจะส่งการบ้าน การวิ่งระยะฟูลมาราธอนแรก ให้จงได้

หากไมยราพเปรียบได้ดั่งชีวิตของคนเรานั้นโดยที่ไม่คำนึงถึงตัวเอกหรือตัวร้าย ชีวิตของคนเรานั้นมีล้มเหลวแล้วจะต้องมีลุกขึ้นมาต่อสู้ชีวิตใหม่กันอีกครั้งหนึ่ง ชีวิตของคนนั้นผมไม่คิดว่าจะล้มเหลวตลอดชีวิตแน่ ถ้าหากเรามีความพยายามที่จะต่อสู้กับชีวิตโดยไม่ย่อท้อต่อความยากลำบาก ผมหวังว่าชีวิตเราจะบานอีกครั้งเมื่อตอนพรุ่งนี้.........

*ภาพทั้งหมดโดย นายกตัญญู เชิงหอม (นักเขียน) เรื่อง ไมยราพชีวิตล้มแล้วลุก

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์