ไม่ทำงานหนัก ≠ จะไม่ประสบความสำเร็จ

แค่ไม่ทำงานหนักคงไม่ได้แปลว่าคุณจะล้มเหลวในเป้าหมาย จริงหรือ? อย่าพึ่งเชื่อครับ ลองอ่านบทความต่อไปนี้ก่อน

เริ่มแรกผมต้องบอกเหตุผลก่อนว่าทำไมผมจึงคิดว่าทุกวันนี้เราทำงานหนักจนเกินไป เหตุผลที่ผมคิดเห็นเช่นนั้นมาจากการการสังเกตพฤติกรรมทั้งของตัวเองและคนรอบๆตัวครับ แม่และพี่สาว เพื่อนที่ทำงานหรือแม้กระทั้งหัวหน้า ทุกคนที่ผมกล่าวถึงล้วนแล้วแต่เป็นคนที่ทำงานหนักทั้งสิ้น มันไม่ดีงั้นหรือ เปล่าครับอย่าพึ่งเข้าใจผมผิดไป การทำงานหนักเป็นสิ่งที่ดีครับ การทุ่มเทให้กับหน้าที่หรือว่าเป้าหมายนั้นย่อมส่งผลดีเสมอ แต่เราควรจะมีจังหวะที่เบาลงบ้าง ควรมีเวลาให้การนอนดูซีรี่ย์หรืองานอดิเรกบ้าง พูดง่ายคือเวลาส่วนตัวนั้นเองครับ

ตามแนวคิดบอล5ลูกนั้นบอกเอาไว้ว่า ในชีวิตเราประกอบไปด้วยลูกบอลอยู่5ลูก นั้นก็คือ

ลูกแรก - การงาน หน้าที่การงานที่ช่วยให้เรามีรายได้เพื่อใช้ในชีวิตประจำวัน

สิ่งที่แตกต่างคือ มีเพียงหนึ่งลูกเท่านั้นที่ทำมาจากยาง ผมอยากลองให้เพื่อนๆคิดดูว่าลูกไหนครับที่ทำจากยาง เพื่อนๆคิดว่าลูกแรกหรือเปล่าครับ ถ้าใช้แสดงว่าคุณเองก็พอจะแยกแยะสิ่งสำคัญในชีวิตออกนะครับ ถูกต้องแล้วครับงานคือลูกบอลยางเพียงหนึ่งเดียวในหมู่บอลทั้ง5 แล้วที่เหลือละ ที่เหลือล้วนทำมาจากแก้วที่เปราะบางเหลือเกินครับ

ลองนึกภาพตาม เรากำลังเล่นโยนบอลไปบนอากาศและสลับไปเรื่อยๆ และอย่างที่รู้กันเราคงไม่สามารถรับได้ทันทุกครั้งไปอย่างแน่นอน และหากตอนนั้นมาถึงเมื่อเราต้องเลือกว่าจะปล่อยให้ลูกไหนหล่นลงพื้น เราจะเลือกลูกไหน นั้นก็ต้องเป็นบอลยางถูกไหมครับ เพราะถ้าเป็นบอลที่ทำจากแก้วแล้วมันจะแตกถ้าคุณยอมปล่อยให้มันหล่นและมันจะไม่เหมือนเดิมอีกเลย ผมรับรองได้

ผมจะลองเปรียบเทียบกับการขับรถนะครับ คุณกำลังขับรถอยู่นะตอนนี้ สายตามองตรงไปข้างหน้าอย่างเดียวเลย เท้าก็เหยียบที่คันเร่งอย่างเดียวเหมือนกัน ความเร็วรถเพิ่มขึ้นเรื่อยๆโดยที่คุณยังคิดว่ามันเร็วไม่พอด้วยซํ้า จนรู้ตัวอีกทีคุณก็ไม่สามารถควบคุมทิศทางของรถได้แล้ว

พอเห็นภาพไหมครับ การขับรถที่ดีต้องมีเร่งมีผ่อน มองซ้ายมองขวา พูดคุยกับคนในรถบ้าง คนในรถก็คือ พ่อแม่คุณ ภรรยาลูกๆที่น่ารัก คนในครอบครัว เขาคือคนที่คุณจะพามุ่งหน้าไปพร้อมกับคุณหรือเปล่า ถ้าใช่คุณควรจะฟังพวกเขาบ้าง ถามความคิดเห็นของเขาหน่อย ทางนี้ดีไหม เร็วไปหรือเปล่า

ขออนุญาติยกตัวอย่างหัวหน้าของผมเอง เขามักจะทำงานล่วงเวลาเป็นประจำ และในทุกๆวัน ภรรยาของหัวหน้าจะต้องมานั่งรออยู่ที่หน้าโรงงานเพื่อที่จะกลับบ้านพร้อมกัน ผมไม่สามารถสรุปความรู้สึกของเธอได้ ผมเพียงคิดในมุมของตัวเอง หากเป็นผม ผมเองคงอยากกลับบ้านและกินข้าวพร้อมหน้ากันให้เร็วกว่านี้หน่อยคงดี

อีกหนึ่งตัวอย่าง คร่าวนี้ขอยกเรื่องของพี่สาวของผมเอง เธอก็มักจะทำงานล่วงเวลาเช่นเดียวกันทำหนักมาก วันอาทิตย์ก็ไม่หยุด เมื่อเดือนสิงหาคมปีก่อน วันนั้นเป็นวันเกิดของเธอ ผมกับพี่ไม่ได้อยู่บ้านเดียวกัน ผมจึงซื้อเค้กและขับรถตั้งใจว่าจะเอาไปให้ ปรากฏว่าพอไปถึงกลับไม่มีใครอยู่บ้าน พอโทรถามจึงรู้ว่าทำงานอยู่

ผมรู้ดีครับว่าที่ทุกคนทำงานก็เพื่อเงินผมเองก็ไม่ต่างกัน ผมเองก็ต้องการเงิน มันคือเรื่องจริงครับผมเข้าใจในข้อนี้ ผมไม่อาจพูดว่าเงินไม่จำเป็นในชีวิต แต่ผมกล้าพูดว่ามันไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิต ดังนั้น ชีวิตต้องถูกเติมเต็มด้วยบางสิ่งบางอย่าง ต่อเติมให้สมบูรณ์ขึ้นมา

ลองหันไปถามภรรยาหน่อยไหม เธออยากไปทะเลหรือเปล่า เธออยากไปทานข้าวข้างนอกหรือไม่ ผมรับประกันได้ว่าใบหน้าของเธอต้องเปื้อนยิ้มอย่างแน่นอน

แล้วทำอย่างไรจึงจะผ่อนคันเร่งแห่งการทำงานลงได้ ผมคงต้องให้คุณพิจารณาดูดีๆครับ งานตรงหน้าคุณ มันต้องมีแน่ๆที่คุณไม่ต้องทำก็ได้ มีแน่ๆที่ไม่สำคัญ ตรงนั้นแหละครับลองทิ้งมันไป อะไรที่ไม่สำคัญทิ้งไปสะ ตัดออกจากชีวิตอย่าให้มันมาดึงเวลาที่มีค่ามหาศาลไปจากคุณได้ เก็บความสนใจไว้ให้กับสิ่งที่สำคัญจะดีกว่า

ลองจัดตารางเวลา ไม่ต้องบังคับตัวเองมากแค่เอาไว้ดูคร่าวๆว่าเวลานี้ควรจะทำอะไร ลองดูครับแล้วชีวิตคุณจะดีขึ้น เวลาว่างจะค่อยๆปรากฏตัวขึ้นมาเอง

ทั้งนี้ผมอยากจะยํ้าว่าการไม่ทำงานหนักนั้นไม่ได้แปลว่าคุณจะล้มเหลว อย่ากดดันตัวเองตลอดเวลา แต่ก็อย่าเข้าใจผิดนะ ผมไม่ได้หมายความว่าคุณจะสามารถนอนชิวๆไปวันๆและประสบความสำเร็จได้ คนที่บรรลุเป้าหมายได้เป็นคนที่พยายามอยู่เสมอ

สิ่งที่ผมต้องการอยากจะพูดคือ คุณต้องแบ่งเวลาให้ได้ ให้งาน ให้ตัวเอง ให้ครอบครัว ให้เพื่อนฝูง

เพราะว่าการประสบความสำเร็จในชีวิตนั้นมีหลายอย่างครับ ประสบความสำเร็จในหน้าที่พ่อ หน้าที่สามี หน้าที่ลูกที่ดี เรามีหลายอย่างที่ต้องทำให้สำเร็จ เราอย่ามุ่ง หมายเพียงสิ่งเดียวเพราะมันจะทำให้สิ่งอื่นพังถลายลงได้

ไม่มีใครภูมิใจหรอกครับ หากมีคนบอกว่าคุณเป็นที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานอย่างสูง แต่ล้มเหลวในด้านชีวิตส่วนตัว และคุณเองนั้นแหละที่จะเป็นทุกข์มากกว่าใครอื่น

สุดท้ายนี้ คงต้องบอกว่า ผ่อนคันเร่ง คุยกับคนข้างๆ และมองออกไปนอกหน้าต่าง สองข้างทางเต็มไปด้วยสวนดอกไม้แสนสวยครับ

ภาพถ่ายโดย Andrea Piacquadio / pexels

ภาพที่1ถ่ายโดย Pixabay / pexel

ภาพที่2ถ่ายโดย NEOSiAM 2021 / pexel

ภาพที่3ถ่ายโดย Anthony / pexel

ภาพที่4ถ่ายโดย Emma Bauso / pexel

*STAR COVER"อย่ามัวแต่ดูมาดังกัน"*

ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ขอชวนทุกคนมาสนุกโคฟเวอร์ พร้อมลุ้นรับเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 7,000 บาท (5 รางวัล) โคฟคนที่ใช่ ไลค์คนที่ชอบ`ร่วมสนุกได้ที่ ทรูไอดีคอมมูนิตี้ ห้อง cover บนแอปทรูไอดี`

คลิกเลย >> https://ttid.co/UAnK/7y9jfqkq

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://bit.ly/3O1cmUQ

ร่วมสนุกตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2565 - วันที่ 3 สิงหาคม 2565