อื่นๆ
ไม่รู้ตัว

"เฮ้! บังเอิญจริงๆเลย" คูนพบกับฉงนเพื่อนของเขาโดยบังเอิญบนรถโดยสารประจำทาง ที่จริงแล้วทั้ง 2 คนก็อาศัยอยู่ที่บ้านหลังเดียวกัน แต่โดยปกติแล้วก็ไม่ได้เดินทางไปด้วยกันเพราะเรียนคนละที่ โดยเฉพาะตอนเย็นเวลากลับบ้านยิ่งมีโอกาสพบกันระหว่างทางน้อยมากๆ
คูนดีใจที่มีเพื่อนกลับบ้านด้วยกัน "นายเล่นพินบอลมั้ย" คูนถามฉงนโดยที่ไม่ต้องรอคำตอบจากอีกฝ่าย ทั้งสองก็เริ่มเล่นกันอย่างสนุกสนาน เมื่อรถมาถึงที่หมายก็เป็นเวลาพลบค่ำแล้ว เวลาผ่านไปเร็วเหมือนโกหกโดยเฉพาะเวลาที่เรารู้สึกว่ามีความสุข เมื่อลงจากรถคูนกับฉงนจึงรีบเดินทางกลับบ้านของพวกเขาให้เร็วที่สุด ที่จริงแล้วก็น่าจะเป็นเพราะมื้อเย็นที่กำลังรอพวกเขาอยู่
บ้านที่พวกเขาอยู่มีสมาชิกทั้งหมด 5 คน คูน ฉงน ขลุ่ย ดรงค์ และ ทวี ทั้งหมดเป็นเด็กต่างจังหวัดซึ่งมาอาศัยอยู่ด้วยกันแบบครอบครัวมีอะไรก็มักช่วยเหลือกัน คูน ฉงน และ ขลุ่ย เป็นนักศึกษา ส่วน ดรงค์กับทวี เป็นพนักงานบริษัทแห่งหนึ่ง ต้องบอกก่อนเลยว่าบ้านนี้เป็นบ้านเช่าหลังเก่าราคาไม่แพงนัก คนที่มาอยู่ส่วนมากก็ต้องการพื้นที่ใช้สอยส่วนตัวและมีบรรยากาศใกล้เคียงกับบ้านของตัวเองมากที่สุดและที่สำคัญราคาประหยัด ทุกคนที่นี่ก็มักจะทานอาหารเย็นร่วมกัน ดังนั้นทุกๆคนก็จะมีหน้าที่รับผิดชอบของตนเองในแต่ละวัน วันนี้เป็นเวรของขลุ่ยกับดรงค์ที่ต้องรับผิดชอบในการทำมื้อเย็นให้กับทุกคน คนอื่นๆที่เหลือก็มีหน้าที่ตระเตรียมอุปกรณ์ของตัวเองให้พร้อม เมื่อคูนกับฉงนมาถึง สมาชิกทุกคนก็พร้อมหน้าพร้อมตา วงสนทนาก็เริ่มขึ้น "วันนี้เป็นยังไงกันบ้าง มีอะไรสนุกๆมาแชร์มั้ย" ทวีเปิดประเด็น หลังจากนั้นทุกคนก็ต่อบทสนากันอย่างสนุกสนาน
Advertisement
Advertisement
"ตื๊ด...ตื๊ด..." เสียงโทรศัทพ์ดังขึ้น ทุกคนได้หันไปทางฉงนที่กำลังพูดสายอยู่ "ออ...ครับ ได้ครับ คืนนี้เลยหรอครับ...ตกลงครับ" พอจบบทสนทนาทุกคนหันมองหน้ากัน "ดึกๆค่ำมืดแล้วไปไหนน้า จะออกเดทก็ไม่เห็นเล่าให้เพื่อนๆฟังเลย" ขลุ่ยซึ่งนั่งติดกับฉงนทักขึ้น "ออ...พอดีลูกพี่ลูกน้องเราเดินทางมาจากต่างจังหวัด เราต้องไปค้างบ้านป้าคืนนี้" ฉงนตอบรับ "เออ...เดินทางปลอดภัย เที่ยวฝากพวกเราด้วยละกัน พรุ่งนี้เวรนายทำอาหารนะ" ทุกคนทิ้งท้าย หลังจากนั้นมื้อค่ำก็จบลงไปแบบรวดเร็ว ทุกคนรีบเข้านอนเพื่อต้อนรับวันใหม่ "ฟึบ..."คูนสปริงตัวขึ้นจากที่นอนอย่างรวดเร็ว เขารู้ดีว่าวันนี้เป็นวันหยุดแต่ก็ต้องรีบทำการบ้านต่อให้เสร็จ เขารีบทำธุระส่วนตัวตอนเช้าแล้วรีบกลับเข้าห้องของตัวเองเพื่อทำการบ้านต่อ สังเกตุเห็นว่าในบ้านจะเหลือเพียงเขาเพียงคนเดียวเพราะว่าห้องของคูนอยู่ตรงข้ามกับชั้นวางรองเท้าหน้าบ้านที่ว่างเปล่านั่นเอง แต่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะเป็นประจำที่คูนจะหยุดเรียนเพื่อทบทวนบทเรียนหรือทำการบ้านอยู่เป็นประจำ
Advertisement
Advertisement
คูณนั่งทำงานสลับกับพักสายตามองดูต้นไม้นอกหน้าต่าง นี่อาจจะเป็นเหตุผลนึงที่ทำให้เขาสามารถนั่งคนเดียวได้นานๆ ขณะที่เพลิดเพลินอยู่กับการบ้านที่ทำ คูณรู้สึกตัวว่ามีสายตากำลังจ้องมองมาที่เขา อาจจะเป็นเพราะโต๊ะที่นั่งทำงานอยู่ตรงข้ามกับเตียงทำให้รู้สึกแบบนั้นก็เป็นได้ คูนกลับมาทำสมาธิอยู่กับการบ้านของตัวเองอีกครั้ง แต่ได้ไม่นานนักเขารู้สึกขนลุกขึ้นมาแปลกๆอย่างบอกไม่ถูก เหมือนมีคนนั่งอยู่บนเตียงแล้วจ้องมองมาที่เขา "เฮ้อ..." คูนถอนหายใจด้วยความรู้สึกแปลกที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน คูนตัดสินใจไปพักเข้าห้องน้ำ
"อื๊ด..." คูนพยายามปลดทุกข์แบบสไตล์ของเขา ซึ่งทุกคนก็ชอบเตือนเขาเสมอว่าอย่าทำแบบนั้น แต่ก็เป็นเรื่องปกติที่จะรู้ได้ทันทีว่าเป็นคูนที่ใช้ห้องน้ำอยู่ "น๊อคๆ...เสียงเคาะประตูดังขึ้น" คูนคิดว่าเขาอยู่บ้านคนเดียววันนี้น่าจะไม่มีใครมาเคาะประตูเรียกหรอก "ป๊อกๆ..." เสียงเคาะดังขึ้นอีก 3 ครั้ง รอบนี้คูนคิดว่าน่าจะ...ถ้าไม่ใช่เพื่อนเขาก็แมวหรือเสียงแว่วมาจากข้างบ้าน "ใครอะ?...ทำธุระอยู่รอแปบนะ" คูนตอบรับเสียงเคาะเรียก แต่ปรากฏว่าไม่มีเสียงตอบรับอะไรเลย คูนลองมองลอดใต้ประตูห้องน้ำ เห็นเป็นเงาของใครสักคนรออยู่ด้านนอก ปกติถ้าเพื่อนที่มารอต่อห้องน้ำก็จะตอบรับทันที หรือบอกว่าไม่เป็นไรรอได้ประมาณนี้ แต่นี่เงียบสนิท เขาคิดว่าเพื่อนน่าจะแกล้งหยอกเล่น จึงตัดสินใจเปิดออกไปเลยทันทีเพื่อดูว่าใคร ปรากฏว่าว่างเปล่าไร้เงา คูนเริ่มระแวงขึ้นมาเล็กน้อย เขาคิดว่าอาจจะเป็นขโมยเข้าบ้านก็เป็นได้ เขารีบลงไปเช็คตามห้องต่างๆทุกห้องและพบว่ายังไม่มีคนกลับมา จากนั้นไปที่ชั้นรองเท้าที่อยู่ตรงข้ามห้องนอนปรากฏว่าไม่มีรองเท้าของใครอยู่เลย คูนตัดสินใจเข้าห้องมาทำการบ้านต่อแล้วพยามลืมสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้น
Advertisement
Advertisement
ขณะที่เขานั่งทำงานอยู่นั้นเขารู้สึกแปลกๆ เหมือนไม่ได้อยู่บ้านคนเดียวและตอนนี้เหมือนมีคนมายืนอยู่ข้างหลังทั้งที่ไม่เคยเกิดความรู้สึกแบบนี้มาก่อน เขาถึงกับขนลุกขึ้นมาเลยทีเดียว เขาตัดสินใจโทรหาขลุ่ยแล้วเล่าเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นให้ฟัง ขลุ่ยหัวเราะเหมือนเป็นเรื่องตลก "นายไปเดินเล่นชอปปิ้งก่อนก็ได้ แล้วซื้อขนมมาฝากเพื่อนด้วยนะ แล้วเย็นนี้เจอกัน" ขลุ่ยตอบรับแบบจบๆไป หลังจากจบบทสนทนาเขาคิดว่าเป็นความคิดที่ดีนะ เพราะถึงนั่งต่อไปอีกจนถึงเย็นก็คงจะไม่มีสมาธิแน่นอน เขาตัดสินใจออกไปพักผ่อนนอกบ้าน เมื่อคูนกลับมาถึงบ้านตอนเย็น สมาชิกทุกคนก็พร้อมหน้าพร้อมตากันเรียบร้อยแล้วยกเว้นฉงน วันนี้เป็นเวรของทวีและฉงนที่ต้องรับผิดชอบมื้อเย็นให้กับเพื่อนๆ ทวีเห็นตอนนี้ก็เย็นมากแล้ว จึงได้เริ่มทำอาหารคนเดียวและก็มีคูนกับขลุ่ยเป็นลูกมือเพิ่มเติม ขณะที่วงอาหารเย็นเริ่มขึ้น "เออ...เพื่อนวันนี้เราอยู่บ้านคนเดียว แต่เรารู้สึกว่าเหมือนมีใครอยู่กับเราเลยว่ะ ทีแรกเราคิดว่าเป็นโจรแต่ก็ไม่ใช่ วันนี้รู้สึกขนลุกยังไงๆบอกไม่ถูก" คูนพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังท่ามกลางความเงียบไปชั่วขณะ "ฮ่าๆไม่มั้ง...ผีเผลอที่ไหนคิดไปเองมากกว่า ฉงนน่าจะแวะมาตอนพวกเราไม่อยู่มั้ง ดูสิวันนี้มันหายไปเลย" ดรงค์หัวเราะดังลั่น คูนก็เลยเล่าเหตุการณ์ต่างๆทั้งหมดให้เพื่อนๆฟังจนจบ และแล้วมื้อนี้ก็จบลงด้วยเสียงหัวเราะสนุกสนานเหมือนเช่นเคยน่าจะไม่มีใครในที่นี้ดูจริงจังกับเรื่องแบบนี้สักเท่าไร
เช้าตรู่วันถัดมา "ต๊อดๆอ๊อดๆ..." เสียงกริ่งดังขึ้นหน้าบ้าน ทุกคนพร้อมใจกันตื่นแล้วรีบวิ่งไปที่ประตูหน้าบ้าน ปกติไม่ค่อยมีใครสนใจจะเปิดรับใครสักเท่าไร แต่ว่าวันนี้น่าจะตกใจเสียงกริ่งก็เป็นได้ ดรงค์เปิดประตูออกไปพร้อมกับสมาชิกคนอื่นๆภายในบ้าน "พวกเธอรู้มั้ย ฉงนเสียแล้วนะ...เมื่อคืนก่อน ป้าขอเข้าไปเก็บข้าวของสำคัญของเขานะ" ป้าพูดด้วยน้ำเสียงสั่นครอ ทุกคนได้ยินแบบนั้นก็ถึงกับทรุดแล้วอึ้งไปชั่วขณะ หลังจากที่ช่วยคุณป้าแล้วส่งแกกลับบ้านเรียบร้อย ทุกคนก็มองหน้ากันโดยที่ไม่มีใครพูดอะไรอีกเลย สำหรับคูนความรู้สึกเมื่อวาน ความทรงจำบนรถบัส และอื่นๆย้อนกลับมาแบบชัดเจน
หลังจากเหตุการณ์นั้นทุกคนก็น่าจะมีมุมมองที่แตกต่างออกไปเกี่ยวกับ ความรักความผูกผัน สิ่งที่มองไม่เห็นแต่สัมผัสได้ และที่สำคัญมันทำให้เราจดจำช่วงเวลาดีๆ แล้วสามารถมองย้อนกลับมาดูปัจจุบันเพื่อรักษาเวลาที่มีอยู่ให้มีค่ามากที่สุด
ความคิดเห็น
