10 ขบวนการ! สร้างแรงบันดาลใจในการเขียน

1) หนังสือคือเพื่อนที่ดีที่สุด

เราได้รับแรงบันดาลใจหลายๆอย่างมาจากหนังสือที่เราชอบอ่านค่ะ อยากแนะนำให้ทุกคนอ่านหนังสือกันเยอะๆนะคะ เพราะนอกจากจะช่วยทำให้เราได้ข้อมูลความรู้ใหม่ๆแล้ว ยังช่วยให้เรารับรู้ถึงแง่มุม ทัศนคติ ประสบการณ์ ความรู้สึก ของผู้เขียนจากหลากหลายสาขาอาชีพอีกด้วย (ที่สำคัญคือ แนวทางการเขียน การวางประโยค ลักษณะการใช้คำ ฯลฯ เพื่อนำเอามาใช้พัฒนาทักษะการเขียนของเราให้ดียิ่งขึ้นค่ะ) เพิ่มเติมก็คือ เราอาจจะได้เพื่อนใหม่ๆจากการอ่านหนังสือเล่มเดียวกันก็ได้นะคะ

2) ชนใดไม่มีดนตรีกาล ในสันดานเป็นคนชอบกลนัก

ดนตรี เป็นส่วนผสมในการเขียนที่เรียกได้ว่า เราขาดไม่ได้เลยค่ะ ในการเขียนเรื่องอะไรซักเรื่องหนึ่ง เพราะดนตรีจะช่วยสร้างอารมณ์ ความรู้สึก จังหวะในการวางโครงเรื่อง การเลือกใช้คำ เหมือนเป็นสิ่งที่ช่วยเราจินตนการฉากของเรื่องนั้นๆด้วย สมมุติว่า เราจะเขียนเรื่องแนวสืบสวนสอบสวน ก็จะหาฟังดนตรีร็อคหรือพั๊งค์ที่มีเบสต่ำๆของหนังแนวลึกลับฟัง แต่ถ้าเขียนแนวรักกุ๊กกิ๊กก็แนวดนตรีป๊อบใสๆ เป็นต้นค่ะ ได้อารมณ์ไปอีกแบบด้วย

5) กินอาหารที่มีประโยชน์

เชื่อมั้ยคะว่า อาหารที่ครบหมู่ ช่วยให้คิดงานเขียนออกจริงๆนะ เคยลองอดข้าวเพื่อเร่งเขียนงาน ปรากฏว่าความคิดไม่แล่น เขียนไม่ออกเลยค่ะ ตื้อตันมากๆ จึงเชียร์สุดใจเลยว่า ไม่ว่าจะอยากเขียนแค่ไหนก็ห้ามอดข้าวเด็ดขาดนะคะ

6) ยินดีที่ไม่รู้จัก! ลองทักคนแปลกหน้า!

การที่ได้ลองพูดคุยกับคนแปลกหน้า ไถ่ถามอย่างเป็นกันเอง เริ่มจากการพูดคุยเล็ก ๆ น้อย ๆ บางทีเราอาจจะได้ฟังเรื่องราวแปลกใหม่ที่น่าประหลาดใจหรือน่าทึ่งก็ได้นะคะ เผลอๆอาจจะได้เพื่อนใหม่ด้วยก็เป็นโชคชั้นสองค่ะ นอกจากนี้ยังช่วยพัฒนาทักษะการเข้าสังคมอีกด้วยนะ

7) แรงบันดาลใจจากคนใกล้ตัว

เชื่อมั้ยว่า บางทีการที่เราสังเกตการกระทำต่างๆของคนใกล้ๆตัว ก็อาจช่วยสร้างแรงบันดาลใจใหม่ๆขึ้นได้โดยที่ไม่คาดคิดมาก่อน ใกล้ตัวที่ว่านี้ไม่ใช่แค่พ่อแม่พี่น้อง หากแต่เป็นคนที่เราเจอในร้านกาแฟ คนที่เราเดินสวนกันในที่ทำงาน คนที่แอบชอบ คนที่เคยเจอกันบนรถไฟฟ้า คนที่พาเราข้ามถนน ฯลฯ

8) ไปดูหนังกันมั้ย

นี่เลย การดูหนัง อีกหนึ่งเครื่องปรุงรสชั้นเยี่ยมให้กับงานเขียนของเรา อันนี้ถือว่าเป็นโชคดีนะ การดูหนังให้อะไรเรามากๆ เพราะเวลาเราดูหนัง เราจะไม่แค่ดูเนื้อหาของมัน แต่เราดูทุกอย่างที่เรียกว่าเป็นองค์ประกอบศิลป์ เช่น การวางมุมกล้อง การจัดแสง การแสดงของนักแสดง การใช้ภาษาในบทภาพยนตร์ ดนตรีประกอบภาพยนตร์ (Original Soundtracks หรือ Scores)ฯลฯ ทุกอย่างเนี้ยมันช่วยให้เราจินตนาการภาพของฉากหรืองานเขียนของเราได้ดีมากๆ

9) นอนหลับอย่างเพียงพอ

การพักผ่อนเป็นสิ่งที่เราขาดไม่ได้พอๆกับการกินเลยค่ะ ถ้านอนไม่พอ สมองก็ไม่แล่น มึน ทึบ ปวดตา ปวดหัวไปหมด เราถึงต้องนอนพักจนเต็มที่ แล้วค่อยกลับมาลุยเขียนต่อ

10) ทำงานศิลปะด้วยตัวเอง

การทำงานศิลปะ ไม่ว่าจะเป็นประเภทใด ก็ล้วนให้ประโยชน์ในเรื่องของการทำสมาธิด้วยกันทั้งนั้นค่ะ เนื่องจากศิลปะทุกแขนงต้องใช้ความละเอียดอ่อนในการลงมือปฏิบัติ สิ่งที่เราได้ก็คือความสงบนิ่งของจิตใจและทักษะทางศิลปะเพิ่มด้วย ซึ่งในการเขียน สมาธิเป็นสิ่งที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง เพราะถ้าไม่มี เราอาจจะเขียนมั่ว สะเปะสะปะ จับต้นชนปลายไม่ถูกกันเลยทีเดียว บางคนอาจจะบ่นว่า ก็ฉันวาดรูปไม่เก่งหรือไม่มีหัวทางด้านนี้นี่ จะให้ไปทำได้ไง? ไม่ใช่เรื่องยากเลยค่ะ ศิลปะ ไม่ได้จำกัดแค่การวาดรูปเท่านั้น แต่ยังหมายถึง การเล่นดนตรี การร้องเพลง การเต้นรำ การทำอาหาร การประดิษฐ์ของใช้ ฯลฯ ซึ่งเมื่อทำแล้วเราจะรู้สึกได้ถึงความสนุกและมีความสุข คือให้เราลงมือทำไปเลยแบบไม่ต้องคิดอะไร ไม่ต้องคาดหวังว่า มันจะต้องดีเลิศ แค่ทำออกมาด้วยใจที่มีความสุข แค่นี้ก็พอแล้วค่ะ

แหล่งที่มาของภาพ: https://unsplash.com/images/things/book

แอพพลิเคชั่นที่ใช้สร้างภาพประกอบ: Nichi