อื่นๆ

10 วิธีเปลี่ยนชีวิตเป็นคนใหม่ แตกต่างจากตัวเองที่ผ่านมา

684
คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
10 วิธีเปลี่ยนชีวิตเป็นคนใหม่ แตกต่างจากตัวเองที่ผ่านมา

ครั้งแล้วครั้งเล่าที่เราตั้งเป้าหมายกับชีวิตไว้ว่าจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อทำให้ชีวิตดีขึ้น บางคนทำได้ตามที่ตั้งไว้ บางคนทำได้เพียงบางส่วน บางคนล้มเลิกไปในระหว่างทาง หรือบางคนกลับพ่ายแพ้ตั้งแต่ยังไม่เริ่ม ความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จะไม่มีวันเกิดขึ้น ถ้าเราไม่ลุกขึ้นมาจริงจังและทำมันสักทีดังที่เราได้ให้สัญญากับตัวเองไว้ หากเราอดทนและพยายามทำสิ่งที่ตั้งใจจะทำให้ต่อเนื่องทุกวันได้ครบ 21 วัน เชื่อว่านี้พฤติกรรมนี้จะกลายเป็นนิสัยใหม่ของเราไปโดยปริยาย


1.ทำ life list สร้างเป้าหมายในชีวิตว่าเราต้องการอะไรในชีวิตนี้ขึ้นมา เพื่อออกแบบและสร้างชีวิตของเราว่าจะดำเนินไปในรูปแบบไหนที่มีแค่ตัวเราเองเท่านั้นที่ทำได้ เพื่อให้เรารู้จักตัวเอง รู้ในสิ่งที่เราอยากทำ ในสิ่งที่เราอยากได้ ในที่ที่เราอยากไป ใช้ชีวิตในแบบของตัวเอง เพื่อเป็นเป้าหมายในการดำเนินชีวิตและจิตใจของเราในแต่ละวัน สิ่งนี้จะเป็นพลังขับดันความสามารถที่แท้จริงของเราออกมา ลองเขียนสิ่งที่ต้องทำอย่างเป็นรูปธรรมว่าเราจะทำสิ่งเหล่านั้นให้สำเร็จได้อย่างไร  และใช้ชีวิตตามนั้น หมั่นคอยเช็ค แก้ไข ปรับเปลี่ยนใหม่ไปเรื่อยๆ เพื่อออกแบบชีวิตเราให้ดีขึ้นกว่าเดิม
LIFE LIST

Advertisement

Advertisement

2.ตื่นเช้า เป็นสิ่งที่เหมาะสำหรับการเริ่มต้นเปลี่ยนแปลงตัวเอง ถือเป็นเรื่องปราบเซียนสำหรับใครหลายคนเลยทีเดียว การเข้านอนแต่หัวค่ำและตื่นแต่เช้า นอกจากเราจะได้รับความสดชื่นจากอากาศในยามเช้าแล้ว ยังช่วยปรับสมดุลของนาฬิกาชีวิตที่รวนเรมานานของร่างกายเราให้เป็นปกติ ทำให้เรามีความจำและระบบเผาผลาญที่ดีขึ้น ที่สำคัญเราจะมีเวลาในการใช้ชีวิตในระหว่างวันที่มากขึ้น

3.เปลี่ยนเดี๋ยวก่อนเป็นเดี๋ยวนี้ หลายคนคงเคยชินกับคำพูดว่าเดี๋ยวก่อนค่อยทำ เช่น เก็บที่นอน ล้างจาน จัดบ้าน ทำความสะอาดบ้าน ออกกำลังกาย หรือแม้แต่การสะสางงานในหน้าที่ หากเราไม่เริ่มต้นเปลี่ยนแปลงคำว่า 'เดี๋ยวก่อน' มาเป็น 'เดี๋ยวนี้' นิสัยและความเคยชินนี้จะติดตัวเราไปตลอดชีวิต เมื่ออายุมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงตัวเองก็จะยิ่งยากขึ้นตามไปด้วย

NOW

4. อยู่กับปัจจุบัน เป็นคำยอดฮิตของยุคนี้ ที่พูดง่ายแต่ทำได้ค่อนข้างยาก แต่เป็นเรื่องดีที่ต้องทำ เพราะในหนึ่งวันมนุษย์มีความคิดปรุงแต่งในหัวไม่ต่ำกว่าวันละ 5-6 หมื่นเรื่อง ปรุงแต่งเรื่องนี้จบ เรื่องใหม่ก็เกิดขึ้นวนเวียนต่อเนื่องไม่มีที่สิ้นสุด ชีวิตเราจะสุขหรือทุกข์ล้วนขึ้นอยู่กับเรื่องราวที่ถูกปรุงแต่งขึ้นมา ลองตัดความคิดปรุงแต่งนี้ลงเรื่อยๆ โดยฝึกให้มีสติอยู่กับปัจจุบัน เพราะบางเรื่องคิดไปเราก็ทำอะไรไม่ได้ ไม่ได้ช่วยให้เราดีขึ้น แล้วปล่อยวางลง อะไรจะเกิดย่อมต้องเกิด

Advertisement

Advertisement

5.เลิกหาข้ออ้าง เป็นหนึ่งในมารร้ายสำคัญที่ทำให้เราพ่ายแพ้ต่อการปรับเปลี่ยนชีวิตของเรา ยามจะทำสิ่งที่ตั้งใจไว้แล้วมีสารพัดข้ออ้างผุดขึ้นมาในหัว ให้รีบสะกดจุดหยุดมารร้ายข้ออ้างเหล่านี้ให้หลุดออกจากความคิด แล้วรีบลงมือทำทันทีเพื่อเอาชนะมัน อาจมีบางครั้งที่เรายังเพลี่ยงพล้ำ แต่ลองจับดาบลุกขึ้นสู้ สักวันเราต้องเป็นฝ่ายชนะแน่นอน

shut up

6.เลิกจู้จี้ ขี้บ่น และนินทา พฤติกรรมเหล่านี้เป็นสิ่งที่ไม่มีใครชอบ แม้แต่เราเองก็ตาม ดังนั้นหมั่นสังเกตตัวเองว่าเรามีนิสัยเหล่านี้หรือไม่ และค่อยๆ ลด ละ เลิก ไปเรื่อยๆ นอกจากจะทำให้ชีวิตเรามีความสุขมากขึ้นแล้ว ก็พลอยทำให้คนรอบข้างมีความสุขที่จะอยู่ใกล้เราไปด้วย

7. ลดการเล่นมือถือ หนัง เกม เพลง หรือสิ่งเสพติดทั้งหลาย แม้สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้เราได้หลีกเร้นออกไปจากโลกปัจจุบันได้ชั่วขณะ ได้ลืมเรื่องราวที่ไม่สบายใจและคลายเครียด แต่เหรียญย่อมมีสองด้านเสมอ หากเราใช้เวลากับมันมากเกินไป กลับจะสร้างปัญหาและผลเสียต่อชีวิตมากกว่า เพราะธุรกิจเอนเตอร์เทนเหล่านี้ ล้วนสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นกับดักให้เราจมจ่อมอยู่กับมันไปเรื่อยๆ ให้มากและนานที่สุด
Nature

Advertisement

Advertisement

8. สนใจสิ่งรอบข้าง นานแค่ไหนแล้วที่เราไม่ได้เงยหน้าสังเกตดูคนรอบข้าง ต้นไม้ริมรั้ว ดอกไม้ริมทาง เสียงนกกระจาบร้อง น้องหมาและแมวข้างถนน จิ้งจกที่รอทักเราก่อนออกจากบ้าน และธรรมชาติที่งดงามรอบตัว ลองละจากชีวิตบนหน้าจอมือถือมาสังเกตสิ่งรอบตัวดูบ้าง ไม่แน่เราอาจเจอเรื่องดีๆ ที่แตกต่างจากเรื่องราวบนหน้าจอมือถือที่จะทำให้เรามีชีวิตที่มีความสุขมากกว่า

9. เลิกขี้เกียจ ความขี้เกียจไม่เคยมีผลดี เพราะนอกจากจะทำให้เราทำอะไรไม่สำเร็จเสียทีแล้ว ยังส่งผลต่อสุขภาพและจิตใจทั้งของเราและคนรอบข้างด้วย  ลองลุกขึ้นมาปัดฝุ่นไล่ตัวเกียจคร้านในตัวเรา หาสาเหตุว่าอะไรทำให้เราขี้เกียจแล้วขจัดมันเสีย เมื่อทำได้ก็มอบรางวัลให้ตัวเองสักหน่อย เพื่อเป็นแรงผลักดันให้เราสามารถเอาชนะตัวขี้เกียจไปได้เรื่อยๆ
Give

10. ฝึกเป็นผู้ให้ ถ้ามนุษย์ทุกคนบนโลกล้วนคอยแต่ตักตวงเป็นผู้รับฝ่ายเดียว โลกใบนี้คงไม่น่าอยู่ ลองเปลี่ยนมุมมองมาเป็นผู้ที่ให้คนอื่นบ้าง แม้เป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เช่น มอบรอยยิ้มให้คนรอบข้าง แบ่งขนมให้เพื่อน ช่วยคนตาบอดข้ามถนน จอดรถให้คนข้ามทางม้าลาย เสียสละที่นั่งให้เด็ก คนแก่ หรือคนมีครรภ์บนรถไฟฟ้า บริจาคโลหิต ฯลฯ สิ่งเล็กๆ เหล่านี้ ถ้าเราทุกคนช่วยกันละเล็กละน้อย โลกใบนี้ย่อมน่าอยู่ยิ่งขึ้น แม้ทำแล้วจะไม่มีใครเห็น แต่ใจเราย่อมเป็นสุขกับการเป็นผู้ให้โดยไม่หวังผลตอบแทนแน่นอน และยิ่งเราเป็นผู้ให้มากเท่าไหร่ สิ่งดีๆ ย่อมย้อนกลับมาให้เราเสมอ

มนุษย์เราเติบโตและเปลี่ยนแปลงทุกวัน เราคือคนกำหนดชะตาชีวิตของตัวเอง จงอย่าล้มเลิก ละทิ้งความคิด ความฝันที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองให้สำเร็จ สิ่งที่เราทำไม่ได้ในเมื่อวานก็ไม่ได้หมายความว่าพรุ่งนี้เราจะทำไม่ได้ หมั่นให้กำลังใจกับตัวเอง ลองสู้กับมันสักตั้ง แล้วรอดูผลแห่งชัยชนะที่จะเปลี่ยนให้เราเป็นคนใหม่ให้ดูแตกต่างจากที่ผ่านมา

Photo Credit:

ภาพปก: canva.com

เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์