5 วิธีสร้างอารมณ์ดี ๆ ได้ทุกวัน

ทุกวันนี้เรา 'ยิ้ม' น้อยเกินไปหรือเปล่า..?

เราหัวเราะครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่กันนะ..?

ถ้าคุณคือคนหนึ่งที่มีความสุขได้ยากเหลือเกิน คิ้วขมวด ปากคว่ำเป็นสะพานโค้งจนเป็นเรื่องปกติ คุณอาจจะแย้งในใจ "ก็แน่ล่ะสิ ข่าวแต่ละวันช่างชวนหดหู่ สังคมทุกวันนี้มันน่ามีความสุขไหมล่ะ" หรือ "ลองมาเป็นหนี้ดูสิ จะเอาอารมณ์ที่ไหนไปมีความสุขได้" หรือ "เจ้านายน่าปวดหัวแบบนี้ทุกวัน คงจะอารมณ์ดีได้หรอกนะ.." ฯลฯ

เราเข้าใจคุณค่ะ เราเข้าใจในความไม่น่ารักนักของสังคมตอนนี้ แต่ถ้าหากเลือกได้ เชื่อว่าทุกคนคงอยากมีความสุขกันทั้งนั้น งั้นเรามาเริ่มจากสิ่งเล็ก ๆ คือการทำให้ตัวเองสามารถอารมณ์ดีได้ในชีวิตประจำวันกันค่ะ มีงานวิจัยเคยบอกว่า ถ้าเราอารมณ์ดีในตอนเช้าของวัน ก็มีแนวโน้มว่าสิ่งต่าง ๆ ในวันนั้นจะดีแน่นอน

และนี่คือ 5 วิธี ที่จะช่วยสร้างอารมณ์ดี ๆ ให้เกิดขึ้นได้ในทุกวัน ไปดูกันค่ะว่ามีอะไรบ้าง

“การสำนึกรู้คุณ” คือกุญแจที่นำไปสู่ความสุข ในทุก ๆ วัน อาจจะเป็นตอนเช้าและก่อนเข้านอน ให้คุณฝึกขอบคุณสิ่งดี ๆ ที่คุณมีอยู่ สิ่งที่แม้ว่าไม่มีเงินคุณก็สามารถมีมันได้ ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวที่อบอุ่น สุขภาพที่สมบูรณ์แข็งแรง ดวงตาที่สามารถมองเห็น เสื้อผ้ามากมายที่มีใส่ หรือสิ่งที่สำคัญมาก ๆ อย่างการมีอากาศหายใจ ที่คนเรามักจะหลงลืมไปว่าเราโชคดีแค่ไหน ฝึกขอบคุณสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ให้ได้ในทุกวัน จะเปล่งเสียงออกมา เขียนใส่สมุดบันทึก หรือโพสต์ลง Social media ก็ตามแต่จริตของแต่ละคนเลย การเห็นคุณค่าในสิ่งเหล่านี้ จะทำให้คุณเป็นคนที่มีความสุขได้ง่ายขึ้น และพึงพอใจในตัวเองมากขึ้น รักตัวเองได้อย่างสุดจิตสุดใจมากขึ้น ลองดูกันนะคะ

ขอบคุณภาพประกอบจาก Unsplash

3. ตรวจสอบอารมณ์ตัวเอง

การ Tracking อารมณ์ตัวเองในแต่ละวัน เป็นอีกเทคนิคหนึ่ง ที่จะทำให้เราสามารถประเมินตนเอง รู้เท่าทันตัวเอง และสามารถเปลี่ยนเส้นทางอารมณ์ของเราได้ทันหากมันมีทีท่าไม่ดีนัก การเก็บความรู้สึก ซุกซ่อนปัญหาไว้ใต้พรม หลอกตัวเองว่าแค่นี้ไม่เป็นไร ไม่ใช่วิธีที่ดีในการจัดการอารมณ์หรอกค่ะ คุณแค่หนีมันไปในชั่วขณะหนึ่งเท่านั้น แต่ขยะทางอารมณ์นั้นจะยังคงอยู่ข้างในเบื้องลึกของจิตใจ และถ้าไม่หาทางจัดการมัน มันก็กลายเป็นระเบิดเวลาดี ๆ นี่เอง แม้จะเป็นอารมณ์ในแง่ลบ ก็ควรที่จะเผชิญหน้ากับมัน เพื่อจัดการให้มันหายไป

ลองนึกภาพห้องนอนของคุณที่มีขยะมาซุกไว้ใต้เเตียง แรก ๆ อาจไม่เป็นไร แต่นานวันเข้ามันก็กลบไม่มิด ส่งกลิ่นเหม็น ผู้คนที่มาพบเจอก็รับรู้ถึงความไม่น่าเข้าใกล้ แม้ว่าจะซ่อนมันไว้ใต้เตียงก็ตาม เพราะฉะนั้น จัดการมันเถอะนะคะ เริ่มจากการตามรู้อารมณ์ตัวเองในแต่ละวัน สังเกตการสวิงของอารมณ์ โดยคุณอาจใช้แอปพลิเคชัในสมาร์ทโฟนช่วยได้ค่ะ ลองค้นด้วย Keyword ‘Mood Tracking’ จะเจอหลายแอพฯ ที่ใช้งานได้ดีเลยค่ะ ที่สำคัญคือฟรีด้วย และหากพบว่าอารมณ์ไม่ปกติ ให้คุณลองหาเวลาเงียบ ๆ อยู่กับตัวเอง อมรับกับตัวเองว่าตอนนี้กำลังรู้สึกไม่ดี กำลังโกรธ เกลียด อิจฉา น้อยใจ เสียใจ หรืออะไรก็ตาม ซื่อสัตย์กับอารมณ์ตัวเอง จากนั้นปล่อยอารมณ์เหล่านั้นที่คั่งค้างอยู่ภายในออกไปให้หมด บทความหน้าจะมาแนะนำเทคนิคการกำจัดอารมณ์ลบ รอติดตามกันนะคะ

4. เลือกสังคมที่คุณอยู่

เคยได้ยินไหมคะว่า “ตัวเรา..คือค่าเฉลี่ยจาก 5 คน ที่เราสนิทด้วยมากที่สุด” เป็นผลจากงานวิจัยค่ะ ว่าสภาพแวดล้อมของคนที่ใกล้ชิดเราที่สุด หล่อหลอมให้เกิดเป็นตัวเราในปัจจุบัน เพราะฉะนั้นขอให้ระมัดระวังในการเลือกคนที่คบ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน คนรัก หรือผู้คนและสื่อใน Social media ที่กำลังติดตาม เพราะสิ่งเหล่านั้นมีอิทธิพลกับความคิด และส่งผลต่อการเป็นเราเสมอ คุณอยากให้ตัวคุณเองเป็นแบบไหน ก็ขอให้เลือกสิ่งแวดล้อมและผู้คนรอบข้างแบบที่คุณอยากเป็น

5. จัดสภาพแวดล้อมรอบตัว

สภาพแวดล้อมในที่ที่เราอยู่ มีผลอย่างมากต่อการดำเนินชีวิตในแต่ละวัน ศาสตร์ฮวงจุ้ยของจีน ถึงได้ยังนิยมมาจนทุกวันนี้ ลองนึกดูว่าหากคุณอยู่ในห้องที่รกเละเทะ มีขยะส่งกลิ่นเหม็น จะทำให้คุณสามารถผลิตชิ้นงานดี ๆ ความคิดดี ๆ ออกมาได้ไหม? หากใครทำได้ก็ยินดีด้วยจริง ๆ เพราะมันยากที่จะเกิดสิ่งดี ๆ ได้ ท่ามกลางสภาพแวดล้อมเช่นนั้น ความคิดของเราก็ไม่ต่างกันค่ะ มันเหมือนสมองที่วุ่นวาย เพราะมีอะไรต่อมิอะไรเต็มไปหมด คำแนะนำคือ นอกจากจะต้องดูแลรักษาความสะอาดบ้าน ห้องนอน หรือโต๊ะทำงานอย่างสม่ำเสมอแล้ว ลองมีของให้น้อยชิ้นที่สุดดูค่ะ หรือแนวคิดที่เรียกว่า ‘Minimalism’ นั่นเอง การมีของน้อยชิ้นจะทำให้ใจเรารู้สึกว่าง โล่ง ปลอดโปร่ง สามารถปล่อยว่างได้ง่ายขึ้น หากใครที่กำลังอยู่ในภาพวะสมองตื้อตัน คิดอะไรไม่ออก ลองลุกขึ้นมาจัดบ้านดูนะคะ

ขอบคุณภาพประกอบจาก Unsplash

“ความสุข” ไม่ใช่สิ่งที่ต้องค้นหา แต่เป็นสิ่งที่ต้องสร้างขึ้นมาเอง และแน่นอนว่ามันไม่สามารถเกิดขึ้นได้ปุบปับราวสับสวิตซ์ แต่ต้องอาศัยเวลา และการฝึกฝนจิตใจอย่างสม่ำเสมอ

วิธีเหล่านี้ล้วนแล้วแต่ฟังดูธรรมดา ไม่ได้มีอะไรพิเศษ แต่เมื่อคุณฝึกฝน ใส่ใจที่จะทำมันอย่างจริงจัง เมื่อผ่านไปช่วงเวลาหนึ่ง คุณจะสังเกตได้ถึงความเปลี่ยนแปลงในตัวเอง จะรู้สึกได้ว่าตัวเองอารมณ์ดีง่ายขึ้น ยิ้มเก่งขึ้น อาจจะยังมีอารมณ์โกรธบ้าง แต่หายเร็วขึ้น นั่นล่ะค่ะ คือสัญญาณที่บอกว่าคุณเริ่มมีความสุขได้อย่างแท้จริงแล้ว..

ขอให้ทุกวันเป็นวันที่ดีค่ะ :)

เรื่อง : ดารัณ พันสวะนัด (ผู้เขียน)

ขอบคุณภาพประกอบปกจาก Unsplash