อื่นๆ

ช่วยหนูด้วยเขาไม่ให้ออกไป...เล่นซ่อนหาจนได้เรื่อง

305
คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
ช่วยหนูด้วยเขาไม่ให้ออกไป...เล่นซ่อนหาจนได้เรื่อง

ช่วยหนูด้วยเขาไม่ให้ออกไป...เล่นซ่อนหาจนได้เรื่อง

เชื่อว่าใครหลายคนคงมีประสบการณ์การเล่นซ่อนแอบสมัยเด็กๆ ผมก็เป็นคนหนึ่งละครับที่ชอบเล่นและพ่อแม่ก็มักจะเตือนว่าอย่าเล่นตอนกลางคืนเดี๋ยวผีจับไปซ่อนแต่เอาจริงๆ มันก็เป็นเรื่องความปลอดภัยนั่นแหละครับ และเรื่องที่ผมจะเล่าให้ทุกคนฟังต่อไปนี้เป็นหนึ่งในประสบการณ์การเล่นซ่อนแอบของลูกเพื่อนในซอยบ้านผมซึ่งปัจจุบันผมก็ยังคงอยู่ในซอยแห่งนี้นะครับ

ขอเล่าเท้าความสักนิดหนึ่งซอยบ้านผมเป็นชุมชนเล็กๆ ที่มีคนไทยเชื้อสายจีนมาตั้งรกรากกันมาเป็นหลายชั่วอายุคนครับ ในโซนของบ้านผมเป็นบ้านเช่า 2 ชั้น ปูนครึ่งไม้ครึ่งครับกำแพงติดกัน แต่ปัจจุบันกลายเป็นตึกแถวหมดแล้วนะครับ ประสบการณ์สุดหลอนในครั้งนี้มีชาวบ้านรับรู้กว่า 40 คนเรียกว่าออกกันมาทั้งซอยเลยก็ว่าได้และมันมาเกิดอยู่ตรงบ้านผมเนี่ยแหละครับ

Advertisement

Advertisement

home ในวันนั้นช่วงประมาณ 1 ทุ่มผมยังเป็นนักศึกษาอยู่เดินทางกลับบ้านมาเห็นคนเดินกันเต็มซอยไปหมดอย่างกับมีเรื่องกัน ตอนแรกผมก็นึกว่าสงสัยวัยรุ่นตีกันหรือเปล่า ผมก็เลยถามแม่ไปว่าเกิดอะไรขึ้น

แม่ : “เขาตามหาไอกายกันมันเล่นซ่อนแอบหายังไงก็หาไม่เจอ จนเด็กคนอื่นเขาเข้าบ้านไปเป็นชั่วโมงแล้ว”

“กายคือลูกชายของเพื่อนข้างบ้านผมตอนนั้นอายุประมาณ 5 ขวบครับคือพูดรู้เรื่องเรียกต้องได้ยินครับ”

หลังจากนั้นผมก็เลยออกช่วยตามหาผมถามว่าหาทั่วหรือยัง แม่บอกกับผมว่ายังเหลืออีกที่ยังไม่ได้หาแต่แม่ไม่กล้า

แม่ : “ยังไม่ได้ไปหาในห้องน้ำในตึกห้องเช่าข้างๆ แม่ไม่กล้ากลัวว่ามันจะจมน้ำอยู่ในอ่าง”

“คือข้างบ้านผมจะมีตึกหนึ่งที่แบ่งเป็นห้องเช่ามีอยู่ในชั้นสองส่วนชั้นหนึ่งเป็นห้องน้ำรวมซึ่งเด็กๆ ชอบเข้าไปเล่นกัน”

ในชั้นหนึ่งของตึกห้องเช่ามีอยู่สองจุดที่น่ากลัวคือ 1.อ้างน้ำปูนสูงประมาณ 120 เซนคือถ้าไอกายปีนขึ้นไปแล้วหัวทิ่มไปในอ่างคือตายแน่ๆ จุดที่ 2. คือโอ่งเก่าที่บ้านผมเอาไปฝากไว้อันนั้นไม่เท่าไหร่เพราะไม่มีน้ำอะไรแต่มีฝาปิดเกิดออกไม่ได้ก็อาจจะขาดอากาศหายใจ

Advertisement

Advertisement

หลังจากนั้นผมตัดสินใจเป็นคนเข้าไปดูเอง พอเดินเข้าไปผมไม่เจอทั้งสองจุดก็โล่งออกไปแต่ดันไปได้ยินเสียงตะกุกตะกักที่ใต้บันไดแทนผมกลัวก็กลัวเพราะมันมืดผมก็มุดเข้าไปเอาไฟฉายฉ่องดูก็ไม่เจออะไร

หลังจากออกมาตอนนี้ทุกคนวุ่นวายกันใหญ่เพราะเวลามันเดินไปเรื่อยๆ สักสามทุ่มได้แล้วต้องบอกว่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่เขาตามหากันกินเวลายาวนานกว่า 3 ชั่วโมงแล้วนะครับ

ต่อมาผมบอกแม่ว่าได้ดูที่หลังประตูบ้านเราหรือยังเพราะเราเปิดไว้นิ เด็กชอบเข้าไปแอบหลังประตูบ้านเรา แม่บอกไม่หรอกมั้งเขาตะโกนกันขนาดนั้นถ้าอยู่ตรงนั้นยังไงคนก็เห็น

ต้องบอกว่าบ้านผมคือหลักแรกที่ติดกับตึกนะครับเพราะฉะนั้นประตูบ้านผมพอเปิดสุดมันจะไปชนกำแพงตึกและมีช่องว่างมากพอที่ใครจะเข้าไปแอบได้อยู่เป็นประจำ ไม่ว่าจะเด็ก ไม่ว่าจะพวกขี้ยาก็มักจะมาแอบที่มุมนี้เป็นประจำ

Advertisement

Advertisement

ผมเดินไปเปิดดูไม่พบอะไรเลยครับ ไม่เห็นจริงๆ ดูอยู่หลายรอบก็ไม่เจอ จนเวลาผ่านไปมีคนพูดขึ้นมาว่าอาม่าเอาไปซ่อนหรือเปล่าเพราะเมื่อหลายปีก่อนช่วงเชงเม้งแบบนี้ก็มีเด็กโดนเอาไปซ่อน อาม่าคือเจ้าของที่พื้นนี้และแกก็เสียชีวิตคาบ้านแกตอนอายุเกือบ 90 แกเป็นคนดุและแกไม่ชอบให้เด็กมาวิ่งเล่นแถวบ้านแกสมัยผมเด็กๆ แกก็ดุเป็นประจำ

หลังจากนั้นแม่ไอกายก็เลยจุดธูปจุดเทียนขอให้ปล่อยลูกแกออกมาถ้าเอาไปขอโทษขอโพยกันหลังจากนั้นเวลาผ่านไปไม่ได้นานครับประมาณ ครึ่งชั่วโมง ผมรู้สึกว่าคนเริ่มเยอะมากแถวๆ หน้าบ้านผมคือบ้านกายอยู่ติดกับบ้านผมครับ ผมก็เลยบอกแม่ว่าจะเข้าไปปิดบ้านดีกว่าเดี๋ยวของหายคนเยอะไป อ่อลืมบอก ผมอยู่บ้านสองหลังนะครับหลังข้างในไว้นอนคือหลังที่จะเข้าไปปิดประตู หลังด้านหน้าคือร้านค้า ผมก็เลยตัดสินใจเดินไปปิดประตู

และสิ่งที่ทำให้ทุกคนต้องช็อกก็คือหลังจากที่ผมปิดประตูบานเดิมที่ผมเปิดดูแล้วเปิดดูอีกไม่รู้กี่รอบ สิ่งที่ผมเห็นอยู่คือ

“กายนั่งกอดเข่าน้ำตาไหลพรากอยู่ที่มุมตึกตรงบ้านผม” ผมตะโกนเสียงหลงเจอแล้วนี่ไงอยู่นี่ไง

หลังจากนั้นพอทุกคนตั้งสติได้ปลอมเจ้ากายเสร็จก็เลยถามว่าทำไมไม่ออกมาเขาเรียกหากันตั้งนานแล้วนะ กายในวัย 5 ขวบตอบว่า

กาย : “อาม่าไม่ให้ออก”

คนถามต่อเขาทำอะไร  กาย : “อาม่านั่งเอามือปิดปากกอดไว้”

เรื่องทั้งหมดก็มีเท่านี้นี่เป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่ผมเคยประสบพบเจอมาร่วมกับคนอีกเป็นสิบๆ คนเห็นกันคาตา รูปที่ผมใช้ในปกก็คือซอยที่ผมอยู่นะตอนนี้และเป็นสถานที่เกิดเรื่องนะครับ

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์