Food delivery เลือกเจ้าไหนให้คุ้มสุด

ทุกวันนี้การสั่งอาหาร Delivery เป็นเรื่องง่ายมากสำหรับทุกคน เพราะมีแอปพลิเคชันมากมายเพื่อใช้อำนวยความสะดวก และการเติบโตของบริการส่งอาหารยังคงโตต่อเนื่อง ร้านอาหารหลายร้านเข้าร่วมเป็น partner กับเจ้าต่างๆ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้า รวมถึงเพิ่มยอดขายได้ด้วย เพราะลูกค้าสามารถเข้าถึงร้านได้ง่าย โดยวันนี้จะมาเจาะลึกว่าบริการ Food Delivery แต่ละเจ้ามีข้อดี-ข้อเสีย อะไรบ้าง

1. Line Man จากการที่เคยใช้บริการของเจ้านี้ ร้านอาหารมีให้เลือกเยอะเพราะไม่จำกัดพื้นที่การสั่ง แต่ก็จะแลกมาด้วยค่าส่งที่แพงขึ้น เหมาะสำหรับคนที่ต้องการกินอาหารที่หลากหลาย เพราะได้การการันตีจาก Wongnai โดยแนะนำว่าต้องคอยหาโค้ดส่วนลดค่าจัดส่งเพื่อจะได้ประหยัดมากขึ้น โดยสามารถจ่ายเงินผ่านช่องทาง Line Pay ได้อีกด้วย

ข้อดี : ร้านอาหารมีความหลากหลาย

ข้อดี : ค่าส่งไม่แพง (บางร้านส่งฟรี) , จ่ายผ่านบัตรเครดิตได้

ข้อเสีย : ร้านอาหารให้เลือกน้อย

4. GET โดย Food Delivery เจ้าสุดท้ายที่จะมารีวิวน้องใหม่ชื่อว่า GET โดยเจ้านี้เรียกได้ว่ามาทีหลังแต่นำข้อดีของแต่ละเจ้ามารวมกันเลยทีเดียว เริ่มตั้งแต่ค่าส่งที่คิดแค่ 10 บาท สำหรับ 5 กิโลเมตรแรก โดยกิโลถัดๆไปคิดเพิ่ม 10 บาท ร้านอาหารก็มีให้เลือกมากมายภายในระยะ 15 กิโลเมตร โดยข้อเสียที่เจอก็จะเป็นเรื่องที่รับเฉพาะเงินสด ส่วนลดที่อาจจะลดไม่มาก

ข้อดี : ค่าส่งไม่แพง , ร้านอาหารมีความหลากหลาย

ข้อเสีย : ไม่รับบัตรเครดิต , ส่วนลดน้อยกว่าเจ้าอื่น

สำรหรับเจ้าที่บอกมาอาจจะไม่ครบทั้งหมด แต่ถือว่าครบเจ้าเด่นๆ โดยผมจะสรุปง่ายๆอีกครั้ง โดยถ้าต้องการร้านอาหารที่คิดค่าส่งถูก ให้เลือก Foodpanda หรือ GET ซึ่งขึึ้นอยู่กับร้านค้าที่เข้าร่วมของแต่ละเจ้าอีกที ส่วนคยที่ต้องการอาหารที่หลากหลายให้เลือกใช้บริการของ Line Man หรือ Grab Food โดยให้ดูตามโค้ดที่แจกแต่ละวัน ทั้งหมดเป็นข้อมูลคร่าวๆ อาจจะมีข้อมูลบางอย่างที่ไม่ได้บอกไป

CR:รูปโดยผู้เขียน