อื่นๆ
ร้านอาหาร จา ฟาย (Ja Fei)
ร้านอาหาร จา ฟาย (Ja Fei)
เมื่อวานทำทัวร์เต็มวัน ออฟฟิศให้ใช้รถตุ๊กตุ๊ก เป็นพาหนะ ลูกทัวร์มีคนเดียว เป็นชายชาวเยอรมัน จุดนัดพบคือสะพานตากสิน พานั่งเรือจากสาทร มาท่ามหาราช เพื่อมาเปิดแอปรถตุ๊กตุ๊ก จากนั้น พาเดินบ้างนั่งรถตุ๊กตุ๊กบ้าง
อากาศร้อน เดินเหงื่อไหลไคลย้อย กลิ่นตัวตุุ ๆ โชยเข้าจมูก พอดีลืมทาโรลออนมาจากบ้าน ทำเอาจะเป็นลม บ่ายกว่า ๆ ได้เวลาพักกินข้าวเที่ยง มิสเตอร์นอร์แบท เอ่ยขึ้น
“ ไออยากไปกินข้าวร้าน จา ฟายหน่อย เขาดังมาก”
“ร้าน จา ฟายไหนวะ ” ผมคิด
“ยูเคยไปมาก่อนหรือเปล่า” ผมถาม
“โน ไม่เคยไปเลย แต่ที่ประเทศเยอรมนีบ้านฉัน ร้านนี้ดังมาก”
ร้านอะไรวะชื่อแปลก ๆ ผมคิด ตั้งแต่ทำทัวร์มา ยังไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อนเลย
ไม่น่าเชื่อ เรื่องบางเรื่องเกี่ยวกับเมืองไทย เราคิดว่า เรารู้ดีกว่าฝรั่ง ที่ไหนได้ ไม่รู้เรื่องเลย
Advertisement
Advertisement
ลองเปิดกูเกิลดู ตอนแรกมีแต่ร้าน Fei Ya ส่งภาพให้มิสเตอร์นอร์แบทดู
แกส่ายหน้า “ โนๆ ไม่ใช่ร้านนี้”
ผมไม่ท้อ เปิดหาดูอีกครั้ง มีร้าน Jay Fai (เจ๊ ไฝ) คลิกเข้าไปดู แล้วยื่นภาพร้านให้แกดูใหม่
“ใช่ร้านนี้ไหม” ผมถาม
“ใช่ ๆ ร้านนี้ ๆแหละ” มิสเตอร์นอร์แบทเอ่ยขึ้น ยิ้มสีน้าท่าทางดีใจและพูดต่อ
“ร้านนี้ ดังมากในเยอรมัน มีนักข่าวมาขอสัมภาษณ์เจ้าของร้าน ถ่ายภาพร้านและรายงานกันยกใหญ่ ใคร ๆ ก็อยากมากินข้าวร้านนี้กันทั้งนั้น” แกอธิบายเพิ่มเติม
ร้านอาหารจา ฟาย แกออกเสียงทำเอามึน
“คำนี้เขาออกเสียงว่า เจ๊ ไฝ Jay Fai ยูลองออกเสียงตามนะ เจ๊-ไฝ”
ผมสอนแกให้ออกเสียงตาม
“เจ ฟาย เจ ฟาย” มิสเตอร์นอร์แบทพยายามออกเสียงตามผม แต่ออกยังไง ก็ เจ ฟาย ๆ
เอ้า ฟายก็ฟาย ไม่เป็นไร เราก็ออกเสียงภาษาเยอรมันได้ไม่ชัดทุกตัวเหมือนกัน
Advertisement
Advertisement
จับตุ๊กตุ๊กได้ มุ่งหน้าไปร้านเจ๊ไฝ แถวสี่แยกประตูผี เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ถึงบ่ายโมงครึ่ง ร้านเปิดแล้ว เห็นแม่ครัวเตรียมอุปกรณ์ หั่นผัก ซอยเนื้อต่าง ๆ ดูขะมักเขม้น เห็นนักท่องเที่ยวชาวจีน และฝรั่งนั่งรอออกันอยู่หน้าร้านหลายคน เออ ดังสมกับที่ลูกทัวร์บอกจริง ๆ
ผมพามิสเตอร์นอร์แบทเดินเข้าไปดูใกล้ ๆ เห็นติดป้ายบอกหน้าร้าน
“เปิดเวลา 14:00 น."
เห็นหญิงสูงวัยคนหนึ่ง หน้าตาไม่บอกก็รู้ว่ามีเชื้อจีน เดินผ่านมาทางหน้าร้าน บนใบหน้าตรงแก้มด้านซ้ายของแกมีไฝมีเม็ดบะเริ่ม
“คนนี้แหละ เจ้าของร้าน อายุห้าสิบกว่า ๆ” มิสเตอร์นอร์แบทโพล่งขึ้น พลางชี้มือไปยังเจ๊ไฝ
ผมยืนยิ้ม อ๋อ เพราะเหตุนี้เอง แกจึงชื่อเจ๊ ไฝ
“ลงชื่อด้วยนะคะ” พนักงานเสิร์ฟคนหนึ่งตะโกนบอก
ร้านนี้ลูกค้าเยอะ จึงต้องลงชื่อเอาไว้ อันดับหนึ่ง สอง สาม เขาจะเรียกให้เข้าไปนั่งในร้านเมื่อร้านเปิด ตามลำดับหมายเลขที่ลงชื่อเอาไว้
Advertisement
Advertisement
พอเวลา 14:00 น้องคนหนึ่ง น่าจะเป็นลูกสาวเจ๊ไฝ พูดภาษาอังกฤษใช้ได้ หยิบลิสต์รายชื่อที่วางอยู่บนโต๊ะ ขึ้นมาอ่านชื่อลูกค้าที่ลงชื่อเอาไว้ตามลำดับ
ลูกค้าชุดแรกเดินเข้าไปนั่งในร้าน ยังไม่ถึงคิวของผมกับมิสเตอร์นอร์แบท เพราะคนที่มาลงชื่อบางคน ลงชื่อจองโต๊ะเอาไว้ทางอีเมลก่อนหน้าเป็นเดือน
พอลูกค้าชุดแรกเข้าไป เก้าอี้ด้านนอกที่เขาจัดเอาไว้ให้คนนั่งรอตามคิวก็ว่าง ผมจึงหย่อนก้นลงนั่งกับมิสเตอร์นอร์แบท
ยืนมาตั้งนาน ปวดขา
มองเข้าไปในร้านเห็นลูกค้าภายในร้านสั่งอาหารกับพนักงานส่งภาษากันสนุกสนาน จากนั้นลูกค้าที่ว่า ก็ผลัดกันเดินเข้าไปขอถ่ายรูปคู่กับเจ๊ไฟ ยกไม้ยกมือราวกับเจ๊เป็นดาราดัง
และพอได้เวลาปรุงอาหาร เจ๊ไฝจะสวมแว่นตาอันเบ้อเร่อกันควันเข้าตา คิดว่านะ ดูแปลกดีเหมือนกัน
ผมนั่งรอมาพักหนึ่ง ชักเซ็ง เลยหยิบเมนูขึ้นมาอ่านดู โอ อาหาร ที่นี่แพงเอาเรื่อง ผมถึงกับอึ้ง จานละ 500-600 บาท ราคามันแพงกว่างบที่ออฟฟิศเขาให้มานี่หว่า ผมคิด จึงเอ่ยกับนอร์แบท
“นอร์แบท ผมว่าเราไปกินร้านอื่นเถอะ งบที่ออฟฟิศให้มาไม่ถึง ถ้ายูอยากกินต้องจ่ายเพิ่มหลายร้อย ที่สำคัญไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้เข้าไปนั่ง”
นอร์แบทพยักหน้าเห็นด้วย
ตอนแรกกะว่าจะลองสั่งอะไรมากินหน่อย อยากรู้เหมือนกันว่าฝีมือขั้นเทพ อร่อยสมคำล่ำลือหรือเปล่า แต่พอเห็นราคาแล้ว ไม่ดีกว่า
เนื้อหาและรูปโดย ชา ชัยภูมิ
ความคิดเห็น