อื่นๆ

ร้านอาหาร จา ฟาย (Ja Fei)

176
คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
ร้านอาหาร จา ฟาย (Ja Fei)

ร้านอาหาร จา ฟาย (Ja Fei)

เมื่อวานทำทัวร์เต็มวัน ออฟฟิศให้ใช้รถตุ๊กตุ๊ก เป็นพาหนะ ลูกทัวร์มีคนเดียว เป็นชายชาวเยอรมัน จุดนัดพบคือสะพานตากสิน พานั่งเรือจากสาทร มาท่ามหาราช เพื่อมาเปิดแอปรถตุ๊กตุ๊ก จากนั้น พาเดินบ้างนั่งรถตุ๊กตุ๊กบ้าง

อากาศร้อน เดินเหงื่อไหลไคลย้อย กลิ่นตัวตุุ ๆ โชยเข้าจมูก พอดีลืมทาโรลออนมาจากบ้าน ทำเอาจะเป็นลม  บ่ายกว่า ๆ ได้เวลาพักกินข้าวเที่ยง  มิสเตอร์นอร์แบท เอ่ยขึ้น

“ ไออยากไปกินข้าวร้าน จา ฟายหน่อย เขาดังมาก”

“ร้าน จา ฟายไหนวะ ” ผมคิด

“ยูเคยไปมาก่อนหรือเปล่า” ผมถาม

“โน ไม่เคยไปเลย แต่ที่ประเทศเยอรมนีบ้านฉัน ร้านนี้ดังมาก”

ร้านอะไรวะชื่อแปลก ๆ ผมคิด ตั้งแต่ทำทัวร์มา ยังไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อนเลย

ไม่น่าเชื่อ เรื่องบางเรื่องเกี่ยวกับเมืองไทย เราคิดว่า เรารู้ดีกว่าฝรั่ง ที่ไหนได้ ไม่รู้เรื่องเลย

Advertisement

Advertisement

รูปที่ 1  หน้าร้านเจ้ไฝ

ลองเปิดกูเกิลดู ตอนแรกมีแต่ร้าน Fei Ya ส่งภาพให้มิสเตอร์นอร์แบทดู

แกส่ายหน้า “ โนๆ ไม่ใช่ร้านนี้”

ผมไม่ท้อ เปิดหาดูอีกครั้ง มีร้าน Jay Fai (เจ๊ ไฝ) คลิกเข้าไปดู แล้วยื่นภาพร้านให้แกดูใหม่

“ใช่ร้านนี้ไหม” ผมถาม

“ใช่ ๆ ร้านนี้ ๆแหละ” มิสเตอร์นอร์แบทเอ่ยขึ้น ยิ้มสีน้าท่าทางดีใจและพูดต่อ

“ร้านนี้ ดังมากในเยอรมัน มีนักข่าวมาขอสัมภาษณ์เจ้าของร้าน ถ่ายภาพร้านและรายงานกันยกใหญ่ ใคร ๆ ก็อยากมากินข้าวร้านนี้กันทั้งนั้น” แกอธิบายเพิ่มเติม

ร้านอาหารจา ฟาย แกออกเสียงทำเอามึน

“คำนี้เขาออกเสียงว่า เจ๊ ไฝ Jay Fai ยูลองออกเสียงตามนะ เจ๊-ไฝ”

ผมสอนแกให้ออกเสียงตาม

“เจ ฟาย เจ ฟาย” มิสเตอร์นอร์แบทพยายามออกเสียงตามผม แต่ออกยังไง ก็ เจ ฟาย ๆ

เอ้า ฟายก็ฟาย ไม่เป็นไร เราก็ออกเสียงภาษาเยอรมันได้ไม่ชัดทุกตัวเหมือนกัน

Advertisement

Advertisement

จับตุ๊กตุ๊กได้ มุ่งหน้าไปร้านเจ๊ไฝ แถวสี่แยกประตูผี เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย ถึงบ่ายโมงครึ่ง ร้านเปิดแล้ว เห็นแม่ครัวเตรียมอุปกรณ์ หั่นผัก ซอยเนื้อต่าง ๆ ดูขะมักเขม้น เห็นนักท่องเที่ยวชาวจีน และฝรั่งนั่งรอออกันอยู่หน้าร้านหลายคน เออ ดังสมกับที่ลูกทัวร์บอกจริง ๆ

ผมพามิสเตอร์นอร์แบทเดินเข้าไปดูใกล้ ๆ เห็นติดป้ายบอกหน้าร้าน

“เปิดเวลา 14:00 น."

เห็นหญิงสูงวัยคนหนึ่ง หน้าตาไม่บอกก็รู้ว่ามีเชื้อจีน เดินผ่านมาทางหน้าร้าน บนใบหน้าตรงแก้มด้านซ้ายของแกมีไฝมีเม็ดบะเริ่ม

“คนนี้แหละ เจ้าของร้าน อายุห้าสิบกว่า ๆ” มิสเตอร์นอร์แบทโพล่งขึ้น พลางชี้มือไปยังเจ๊ไฝ

ผมยืนยิ้ม อ๋อ เพราะเหตุนี้เอง แกจึงชื่อเจ๊ ไฝ

“ลงชื่อด้วยนะคะ” พนักงานเสิร์ฟคนหนึ่งตะโกนบอก

รูปที่ 2บริเวณในร้าน

ร้านนี้ลูกค้าเยอะ จึงต้องลงชื่อเอาไว้ อันดับหนึ่ง สอง สาม เขาจะเรียกให้เข้าไปนั่งในร้านเมื่อร้านเปิด ตามลำดับหมายเลขที่ลงชื่อเอาไว้

Advertisement

Advertisement

พอเวลา 14:00 น้องคนหนึ่ง น่าจะเป็นลูกสาวเจ๊ไฝ พูดภาษาอังกฤษใช้ได้ หยิบลิสต์รายชื่อที่วางอยู่บนโต๊ะ ขึ้นมาอ่านชื่อลูกค้าที่ลงชื่อเอาไว้ตามลำดับ

ลูกค้าชุดแรกเดินเข้าไปนั่งในร้าน ยังไม่ถึงคิวของผมกับมิสเตอร์นอร์แบท เพราะคนที่มาลงชื่อบางคน ลงชื่อจองโต๊ะเอาไว้ทางอีเมลก่อนหน้าเป็นเดือน

พอลูกค้าชุดแรกเข้าไป เก้าอี้ด้านนอกที่เขาจัดเอาไว้ให้คนนั่งรอตามคิวก็ว่าง ผมจึงหย่อนก้นลงนั่งกับมิสเตอร์นอร์แบท

ยืนมาตั้งนาน ปวดขา

มองเข้าไปในร้านเห็นลูกค้าภายในร้านสั่งอาหารกับพนักงานส่งภาษากันสนุกสนาน จากนั้นลูกค้าที่ว่า ก็ผลัดกันเดินเข้าไปขอถ่ายรูปคู่กับเจ๊ไฟ ยกไม้ยกมือราวกับเจ๊เป็นดาราดัง

รูปที่3 ใบจดคิวของร้าน

และพอได้เวลาปรุงอาหาร เจ๊ไฝจะสวมแว่นตาอันเบ้อเร่อกันควันเข้าตา คิดว่านะ ดูแปลกดีเหมือนกัน

ผมนั่งรอมาพักหนึ่ง ชักเซ็ง เลยหยิบเมนูขึ้นมาอ่านดู โอ อาหาร ที่นี่แพงเอาเรื่อง ผมถึงกับอึ้ง จานละ 500-600 บาท  ราคามันแพงกว่างบที่ออฟฟิศเขาให้มานี่หว่า ผมคิด จึงเอ่ยกับนอร์แบท

“นอร์แบท ผมว่าเราไปกินร้านอื่นเถอะ งบที่ออฟฟิศให้มาไม่ถึง ถ้ายูอยากกินต้องจ่ายเพิ่มหลายร้อย ที่สำคัญไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะได้เข้าไปนั่ง”

นอร์แบทพยักหน้าเห็นด้วย

ตอนแรกกะว่าจะลองสั่งอะไรมากินหน่อย อยากรู้เหมือนกันว่าฝีมือขั้นเทพ อร่อยสมคำล่ำลือหรือเปล่า แต่พอเห็นราคาแล้ว ไม่ดีกว่า

รูปที่4 เมนูร้าน

เนื้อหาและรูปโดย ชา ชัยภูมิ

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์