อื่นๆ

แมวในชีวิตของชายวัยดึก

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
แมวในชีวิตของชายวัยดึก

ส่องนกคืองานหลัก นอนหลับคืองานรอง

ตั้งแต่จำความได้  ผมเป็นคนที่ชอบอะไรเงียบๆ นิ่มนวล ช้าๆ แต่นิสัยกลับเป็นคนใจร้อน ชอบทำอะไรปุ๊บปับ อยากทำอะไรก็ทำเลย  โดยที่ไม่คิดถึงผลที่จะตามมา  บางครั้งผลลัพธ์นั้นก็ร้ายกาจจนไม่สามารถที่จะแก้ไขได้  เป็นบาดแผลที่ไม่มีวันหายอยู่ในใจ

แต่เดี๋ยวก่อนสิ  เรากำลังจะเล่าถึงเรื่องของแมวที่วนเวียนอยู่ในชีวิต  เอาล่ะ เรามาเริ่มกันเลย

แม่ปีใหม่

แมวตัวแรก เป็นแมวสีดำล้วน  ได้จากวัดแถวบ้าน วัดกลางคลองสี่  เจอน้องแมวสีดำและกำลังท้อง มาอ้อนลูกสาว จึงได้ขอหลวงพ่อนำกลับบ้าน ตั้งชื่อว่า แม่ปีใหม่ เพราะได้มาตอนปีใหม่พอดี  แต่อยู่ได้เพียงไม่กี่วัน ก็หาย  เข้าใจว่า คงหาที่คลอดลูก อีกทั้งเรายังไม่รู้วิธีดูแลแมวให้อยู่กลับบ้าน  ตามหาก็ไม่เจอ...

เจ้าขาว(ของขวัญ)

แมวตัวที่สอง  เป็นแมวสีขาวล้วน เพศผู้ ตอนนั้นมีเรื่องราวต่างๆเข้ามาในชีวิตคนข้างหนัก  เรื่องครอบครัว ความรัก งาน แต่ก็มีแมวตัวนี้ที่เป็นสิ่งเติมเต็มให้เราอยากมีชีวิตอยู่ต่อไป  เป็นแมวตัวแรกจริงๆ ที่รู้สึกว่า "หลงรัก" เลี้ยงมาได้ 7-8 เดือน เป็นช่วงที่แมวติดสัด  น้องติดสาวออกไปจากบ้าน ปกติ หายไปหนึ่งคืนก็กลับมา สามคืนก็กลับมากินข้าว ต่อมาเป็นอาทิตย์ และหายไปเลย  จำได้ว่า  ชีวิตเคว้งมากๆ ตั้งแต่แมวหายไป

Advertisement

Advertisement

คิดแล้วก็ให้รู้สึกถึงบรรยากาศเก่าๆ ที่มีแต่เราสอง  คนกับแมว...

เจ้าขาว(ของขวัญ)

หลายปีผ่านไป

ก็มีอีกตัวหนึ่ง เป็นแมววิเชียรมาศ ตัวเมีย สีเทาขาว สวยนะ  น้องที่ทำงานเอามาให้ ตั้งแต่อายุน้องได้เพียงไม่ถึงเดือน ตัวนิดเดียว ยังไม่หย่านมเลย  ก็แอบเลี้ยงบนอพาร์ทเม้นท์  ได้ค่อยๆ เรียนรู้นิสัยแมว ก็ทำให้หลงรักอีกครั้ง  ตัวนี้เลี้ยงอยู่ปีกว่า เลี้ยงอย่างดี ลาออกจากงานไปอยู่กับแม่ที่หนองคาย ก็หอบไปด้วย พยายามเลี้ยงระบบปิด คือไม่ให้ออกไปไหน อยู่แต่ในบ้าน เปิดให้ออกไปก็อยู่ในสายตาตลอด  แต่สุดท้ายก็หลุดหายไป  พยายามตามหา กว่าสองอาทิตย์   สุดท้ายมีคนมาบอกว่า น้องหลุดไปบ้านข้างๆ ที่หมาดุ และโดนหมากัดตาย  ตอนที่เราไปขายไอศครีม...ได้ยินข่าวร้าย  ยอมรับว่า เสียใจมาก  เหมือนสูญเสียคนในครอบครับเพราะที่ผ่านมา เลี้ยงเขาเหมือนลูก  ดูแลสุขภาพ อาหารการกินทุกอย่าง  และน้องเป็นเหมือนสิ่งยึดเหนี่ยวให้ผมรู้สึกมีชีวิตอีกครั้ง

Advertisement

Advertisement

เสียใจมากๆ

ต่อมาไม่นาน  ได้มารู้จักกับเจ้าส้ม ขณะตามหาน้องของขวัญ(แมวที่หายไป) ส้มเป็นแมวท้ายซอย เพศผู้ อายุประมาณ 2-3 เดือน หนวดโดนตัด ผอม แต่ขี้อ้อนมากๆ  น้องเดินตามผมมาขณะที่ผมเดินกลับบ้าน  เหมือนน้องเป็นแมวบ้านแล้วถูกนำมาปล่อย แสนรู้และฉลาดมากๆ  ผมนำกลับมาบ้านอาบน้ำ ให้อาหาร  (เป็นอาหารของของขวัญที่หายไป) จับแต่งหล่อ  กะว่าจะเลี้ยงเจ้าตัวนี้  และเนื่องจากเป็นแมวจร สกิลในการเอาตัวรอดถือว่าดีมาก จึงเลี้ยงระบบเปิด ปล่อยให้ออกไปเที่ยวเล่นนอกบ้าน ตกเย็นก็กลับมาบ้านเป็นปกติ  ทำวัคซีน และเตรียมทำหมัน  แมวส้ม เยียวยาชีวิตผมให้คลายความซึมเศร้าต่อการจากไปของ "น้องขวัญ" ได้เป็นอย่างดี

ส้ม

รู้สึกตัวเองเลยว่า ชีวิตนี้ ขาดแมวไม่ได้

ระหว่างนั้น เพื่อนในเฟสบุคท่านหนึ่ง ได้ให้เสนอจะให้ลูกแมวเปอร์เซียมาเลี้ยง ให้ทีสองตัวเลย  ผมตื่นเต้นมากๆ รีบเดินทางจากหนองคายมากรุงเทพเพื่อรับน้องมาอยู่ด้วยในคืนนั้นเลยสองพี่น้องเปอร์เซีย

Advertisement

Advertisement

ตอนนั้นมีแมว สามตัว  เป็นแมวเด็ก น่ารักมาก  ชีวิตก็วนเวียนอยู่กับแมว มีแมวเต็มไปหมด...

สองสามเดือนต่อมา ผมก็ต้องมีความจำเป็นต้องกลับมาอยู่กรุงเทพ ต้องหอบเอาแมวไป สามตัว  แต่เห็นว่า สามตัวเราคงไม่สะดวกแน่ๆ อีกอย่าง เจ้าส้ม รักอิสระ จะยอมอยู่ในพื้นที่จำกัดในห้อง มันจะดีต่อส้มจริงๆ เหรอ  จึงตัดสินใจ ให้เจ้าส้มอยู่ทีหนองคายเหมือนเดิม และหอบเอาแมวเปอร์เซีย สองพี่น้อง เรอา กับ เจได กลับกรุงเทพ

เวลาผ่านไป สองปีกว่าแล้ว เจ้าส้มจะเป็นอย่างไรบ้างนะ  ส่วนเรอากับเจได เป็นแมวที่มีนิสัยอ่อนโยนมากๆ ไม่เคยกัดหรือทำร้ายอะไรใครเลย  เห็นภาพเลยถ้าหลุดไป ตายแน่นอน...

ยังคงคิดถึงเจ้าส้ม  ถ้าเรากลับไปหนองคายจะเจอเจ้าส้มหรือเปล่านะ  อยากให้ยังอยู่ และแข็งแรง  ที่ปล่อยไว้ที่นั่นและคิดว่า น้องจะเอาตัวรอดได้ เพราะท้ายซอยก็มีคนคอยเอาอาหารมาให้ทุกวัน และเป็นชุมชนแมวจร ปัจจุบันจาแมวกลายเป็นหมูไปแล้ว

คิดถึงเจ้าส้ม...และทุกๆตัวที่ผ่านมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิต...

กลายเป็นทาสแมวไปเสียแล้วเรา...

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์