ไลฟ์แฮ็ก

มองความรักผ่าน “ต้นตีนเป็ด”

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
มองความรักผ่าน “ต้นตีนเป็ด”

หากกล่าวถึงต้นตีนเป็ดตีนเป็ด มน. (ขอบพระคุณภาพสวย ๆ จากเฮีย Akira )

หลายท่านอาจส่ายหน้าเพราะกลิ่น (ฉุน) จนอยากจะอาเจียน ไม่ว่าจะฟังตามกันมาหรือได้กลิ่นจริง ๆ โดยเฉพาะนิสิตและบุคลากรของมหาวิทยาลัยนเรศวร ส่วนใหญ่ค่อนข้างเบือนหน้าหนี...ถ้าผมจำไม่ผิดมีเสียงสะท้อนจากบรรดาน้อง ๆ นิสิตว่า พี่ตั้ม (ผู้เขียน) ผม/หนูขี่รถเครื่องแทบจะคว่ำเพราะกลิ่นดอกตีนเป็ด (เหม็น) เท่ากับว่า ผู้ประสบภัยอาจได้กลิ่นจริง ๆ แต่ยังมีบางท่านที่เชื่อว่ากลิ่นแรงเพราะฟังตามกันมา โดยปราศจากประสบการณ์ที่ไม่น่าอภิรมณ์กลายเป็นต้นตีนเป็ดจะได้รับเสียงยี้ (หยี) มากกว่าเสียงชมเชยyes no ( Cr: by freepik kreativkolors )

นี่จึงพอจะเปรียบกับความรักในยุคปัจจุบันว่าเราส่วนใหญ่ค่อนข้างให้ความสำคัญกับรสสัมผัส- ผ่าน ตา หู จมูก กาย รวมถึง สื่อ(กระแสหลัก) และค่านิยม:ความหล่อ & ความสวยตามพิมพ์นิยม โดยไม่เคยเรียนรู้ว่าลึก ๆ แล้วเราสมควรตัดสินคนที่เปลือกนอกหรือภายใน หรือทั้งคู่appearance ( Cr: by pixabay Jo-B )

Advertisement

Advertisement

ยกตัวอย่าง ลองถามตัวท่านเองว่าลึก ๆ แล้วเราลดน้ำหนัก/เข้าฟิตเนส เพื่ออะไรกันแน่? ระหว่าง "สุขภาพ" หรือ "เพื่อความดูดี" (ในสายตาคนอื่น) ถ้าคำตอบเป็นอย่างหลัง เท่ากับว่า เราพยายามทำตัวเองให้ดูดีในสายตาคนอื่น แต่ประโยชน์ที่แท้จริง คือ ออกกำลัง-> สุขภาพแข็งแรง (จริงหรือไม่) กล่าวอีกนัยหนึ่ง คือ เราให้คุณค่าของผลพลอยได้อยู่เหนือประโยชน์หลัก? หรือมีบางท่านมองว่า ปัจจุบันเราให้ความสำคัญกับกะพี้เหนือแก่นแท้

ผมเรียนตามตรงว่าคุณไม่ผิด หากจะตัดสินคนจากภายนอก อาจเป็นเพราะคุณเสพสื่อมากเกินไปหรือไม่ เนื่องด้วยเราไม่อาจปฏิเสธได้ว่าตัวละครในสื่อหลักล้วนอาศัยรูปลักษณ์ทั้งนั้น แต่น้อยมากที่เราจะเห็นนักแสดงนำไม่ใช่พิมพ์นิยม แต่นั่นต้องแทรกด้วยความสามารถพิเศษ เพื่อดึงดูดผู้บริโภคจำนวนมากเพื่อสนใจ (ขายได้)

แต่หากเรามองในเชิงธุรกิจbusiness ( Cr: by freepik macrovector )

Advertisement

Advertisement

ผมว่ามันเป็นสิทธิโดยชอบธรรมที่ผู้นำเสนอจะเลือกสิ่งที่ดีที่สุด (พรีเซนเตอร์) ที่ช่วยนำเสนอผลิตภัณฑ์ให้เข้าถึงใจลูกค้ามากที่สุด ทั้งนี้เพื่อคาดหวังผลประกอบการที่สูงที่สุด แต่ถ้าเรามองในมุมของความรู้สึกจากคนแวดล้อมก็ดีและผู้ที่ถูกมองก็ดี มันเป็นธรรมแล้วหรือ ? เพราะเรานำข้อเท็จจริงจากคนหนึ่ง (เช่น ดารานักแสดงหลัก) ไปตัดสินอีกคนหนึ่ง ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเมื่อผู้เขียนได้มีโอกาสไปเยือนประเทศเกาหลีใต้ และคนขับ taxi ถามว่า มาจากเมืองไทย? ทำไมหน้าตาไม่เหมือนคนไทยที่ได้ดิบได้ดีที่เกาหลี (อ้าว) ... ผมเลยรีบตอบว่า เขาไม่ใช่มาตรฐานขั้นต่ำที่แสดงว่าคนไทยจะมีพื้นฐานหน้าตาดีหรือเทียบเท่าเขา

นี่จึงนำมาสู่คำถามที่ว่า "แล้วเราควรจะใช้อะไรเป็นมาตรวัดดีที่เหมาะสม?" ส่วนตัวผมมองว่า มันน่าจะเป็น การกระทำ->ความดี น่าจะเป็นธรรมที่สุดเนื่องจากไม่ว่าคุณจะหน้าตาดีหรือไม่ดี คุณย่อมสามารถเริ่มต้น ด้วยต้นทุนที่เท่ากัน คือ "การกระทำและจิตใจ" แต่ถ้าคุณจะชั่งน้ำหนักด้วยรูปลักษณ์ ผมก็ไม่มีสิทธิไปก้าวล่วงบอกว่า คุณผิดนะครับ เพราะเราย่อมมีสิทธิเลือกสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อตัวเอง ยิ่งคนที่มีหน้าตาดีเป็นทุนเดิม เขา/เธอผู้นั้นย่อมมีสิทธิที่ดีกว่าในการเลือกคู่ครอง ที่เทียบเท่าหรือสูงกว่า...ขออนุญาตเทียบเคียงกับกรณี เราไปห้างสรรพสินค้า เพื่อซื้อสินค้า เรามักพิจารณาคุณสมบัติ รูปลักษณ์ และราคา ถ้าสินค้าชนิดใดที่สนองตอบความต้องการเราได้มากที่สุดเราจะเลือกซื้ออย่างไม่ลังเล แต่นั่นก็หาใช่เหตุผลร่วมที่ทุกคนจะต้องเลือกหรือไม่? เพราะมันเป็นเรื่องอัตวิสัย (ส่วนตัวล้วน ๆ) บางท่านอาจมองไปจนถึงใครเป็นผู้ผลิต และ/หรือเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ฯ นานาจิตตังครับ เสมือนเหตุผลที่เราจะรักใครสักคนมันมีเป็นล้านแปด แต่ท้ายที่สุด การจะรักใครสักคน คำ ๆ เดียว คือ “รัก” ก็คนมันรัก ทุกอย่างจบปึ้งLoL

Advertisement

Advertisement

(Cr: by unsplash Yoav Hornung )

กลับมาที่ต้นตีนเป็ด หากเรามองในสิ่งที่คนทั่วไปไม่ชอบ เพราะกลิ่น (ดอกตีนเป็ด) ซึ่งบางคนจะทนไม่ได้ แต่มีกลุ่มคนอีกบางจำพวกกลับทนได้ เท่ากับว่า "กลิ่น"อาจไม่ใช่ตัวชี้วัดที่ดีนักว่าต้นตีนเป็ดมีแต่โทษเท่านั้น แต่คนที่ทนกลิ่นไม่ได้อาจเผลอลืมมองไปว่าต้นตีนเป็ดดังกล่าวสามารถให้ร่มเงา ผลิตอากาศบริสุทธิ์ได้ และสามารถใช้เป็นสมุนไพรได้ อาทิ บรรเทาอาการไข้มาลาเรีย ช่วยเจริญอาหาร ขับพยาธิไส้เดือน ป้องกันหวัด และรักษาโรคผิวหนังบางประเภท เป็นต้นgood air (Cr: by pixabay cstekelenburg )

เท่ากับว่ากลุ่มคนที่มองต้นตีนเป็ดเป็นลบ อาจให้น้ำหนักด้านลบมากกว่าด้านบวก ส่วนตัวผมว่ามันดูจะไม่ค่อยเป็นธรรมสักเท่าไหร่ ดังนั้น การที่คุณจะชอบ หรือเกลียดต้นตีนเป็ด (โดยไม่มองสรรพคุณ/คุณประโยชน์ของต้นตีนเป็ดเลย) ก็ไม่ใช่เรื่องผิดตราบใดที่ การชอบและ/หรือเกลียดไม่ได้ทำร้ายใคร ดังนั้น การตัดสินคนคนหนึ่งว่าใช่หรือไม่ นั้น เราจึงสมควรดู/พิจารณาให้รอบด้านเช่นกัน มองให้ถ้วนถี่ลึกซึ้งถึงเนื้อแท้ หาด้านบวกให้เจอ แล้วยอมรับด้านลบของเขาผู้นั้นให้ได้ กล่าวคือ มองต้นตีนเป็ดอย่างเป็นกลาง แม้ต้นตีนเป็ดจะขึ้นชื่อ (เสีย) เรื่องกลิ่น (เหม็น) แต่ในด้านลบก็มีความเป็นบวกอยู่ นั่นคือ สรรพคุณทางยา (ที่เห็นได้ชัด) และอื่น ๆ เป็นต้น don't judge a book by its cover

(Cr: by pixabay geralt )

ท้ายนี้คุณต้องไม่ลืมว่าเราไม่สามารถเปลี่ยนต้นตีนเป็ดเป็นต้นสักได้นะครับ ง่ายที่สุด คือ ยอมรับว่านั่น คือต้นตีนเป็ด

ไม่ใช่จะรักต้นตีนเป็ดเพื่อคาดหวังว่าสักวันต้นตีนเป็ดจะกลายเป็นสักทอง มันไม่ใช่!!! หรือ การเชื่อว่าต้นตีนเป็ดให้โทษมากกว่าคุณ โดยที่คุณไม่เคยมีประสบการณ์เลย ผมว่ามันไม่แฟร์กับต้นตีนเป็ด

ในเมื่อเรามีที่มาที่ต่างกัน ความแตกต่างย่อมมีขึ้นอยู่เป็นเรื่องธรรมดา แม้ว่าเราจะมีชอบจะแตกต่างกัน แต่เราก็ไม่ควรไปตัดสินใครก็ตามที่เราไม่เคยมีประสบการณ์ร่วมด้วย ยิ่งไปกว่านั้น แม้บางท่านจะเคยมีประสบการณ์ด้านลบกับต้นตีนเป็ด แต่ไม่ได้แปลว่า ต้นตีนเป็ดจะไม่มีข้อดี ดังนั้น อย่างที่คนต่างชาติกล่าวว่า

Love who/what I am - not what u wanna me to be

โดยสรุปนะครับ ความรักจะยั่งยืนหรือไม่นอกจากความซื่อสัตย์ ความมั่นคง ความเชื่อใจ มันต้องบวกการยอมรับด้านลบของกันและกันได้ครับ แต่ผมไม่ได้บอกว่าเราต้องยอมจำนนต่อด้านลบของเขา/เธอนะครับ การปรับจูนสำคัญมาก เพราะการเป็นคนรักที่ดีต้องกล้าที่จะแนะนำกันไปในทางที่วัฒนะ อย่างที่มะม้าผมพูดไว้เสมอว่า “ถ้าจะมีแฟน/คนรัก ชีวิตเราและเขาต้องดีกว่าเดิม ... ถ้ายิ่งคบยิ่งแย่อยู่โสดเถอะ”... ทิ้งท้ายนะครับ ขอให้ผู้อ่านเจอต้นตีนเป็ดของตัวเองเร็ว ๆ นะครับ ... ไม่ต้องอวยพรผมกลับนะครับเพราะผมเจอแล้ว 有缘千里来相会 - นี่คือ เหตุผลที่ทำไมผมจึง Tag สถานฑูตจีน ใช่ครับแฟนผมเป็นคนจีน!!! (ด่าได้แต่อย่าแรง) 520

#เฉียบ


ปล. ขอบพระคุณภาพปก โดย pixabay Artie_Navarre

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์