อื่นๆ

เมื่อพรหมลิขิตแล้ว จากนี้ผมลิขิตเอง

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
เมื่อพรหมลิขิตแล้ว จากนี้ผมลิขิตเอง

OMG! surprised

คุณพระ ไม่น่าเชื่อ

ย้อนกลับไปเมื่อปีที่แล้วซึ่งผมกับแฟนได้เจอกันผ่านสื่อออนไลน์นี่ล่ะครับ แต่ความมหัศจรรย์คงไม่ใช่เพียงแค่เราเจอกันอย่างไร เมื่อไหร่ ที่ใดหรอก แต่มันควรจะเป็นว่านับแต่วันที่นั้น จนถึงวันนี้ ก็ปีกว่าแล้ว ไม่เคยทะเลาะกันแรง ๆ เลย แต่ก็มีเห็นไม่ตรงกันบ้างเป็นเรื่องปกติเล็ก ๆ น้อย ๆ (ติดไว้ก่อนจะมาเขียนทีหลัง) ทั้งนี้  แม้นางจะใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการทำงาน ส่วนผมจะชอบใช้ตรรกะ หรือเหตุผลในการทำงาน แต่เรื่องความสัมพันธ์ ยิ่งโดยระยะทางมันต้องใช้ทั้งอารมณ์และเหตุผล ถึงจะรอด (บูรณาการ) (ติดอีก - เดี๋ยวมาบอกทีหลัง) ยกตัวอย่างง่าย ๆ ถ้าเราใช้อารมณ์มากเกินไป เสมือนเรารักษาความสัมพันธ์คล้ายดูหนังดราม่าตลอดเวลา เรียนตามตรงเหนื่อยทั้งกาย-ใจ ส่วนเหตุผลมากเกินไป ก็อาจจะขาดรสชาติของการใช้ชีวิตคู่ ดังนั้น มันต้องสร้างสมดุลระหว่างเหตุผลและอารมณ์ให้ได้อย่างต่อเนื่องและคงที่ บางคนมองว่ารักระยะทางนั้นอาจเปรียบเสมือนเป็นบทบังคับให้ต้องประคับประคองกันและกัน โดยไม่ควรทะเลาะหรือไม่? ส่วนตัวผมมองว่าถ้าเข้าใจกันจริง ๆ ก็ไม่จำเป็นต้องทะเลาะนะครับ https://cities.trueid.net/post/207249 ขอย้ำเป็นรอบที่ล้านว่า เข้าใจจริง ๆ ไม่ใช่การมองโลกแง่ดีเกินไป แต่มันคือการมองโลกตามความเป็นจริงภายใต้ความเป็นไปได้สูงสุด บวกเหตุผล ความเข้าใจจริง ๆ จะเกิดไม่ใช่แสร้งว่าเข้าใจ (จริง ๆ ไม่เข้าใจ)ไปวัน ๆ เมื่อเราเข้าใจคนรักจริง ๆ ใจเราจะไม่เหนื่อยครับ กลับกันมันจะค่อนข้างโล่งใจ และมีสมาธิทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผล

Advertisement

Advertisement

บางคนกล่าวว่า อาจเป็นเพราะพรหมลิขิตหรือไม่ที่ทำให้เจอกัน แต่แฟนผมนางบอกมันคือ กระบวนการคัดสรรโดยธรรมชาติ หรือ natural selection หมายความว่า

attractionกฎแห่งแรงดึงดูด?

เมื่อวันหนึ่ง (ผมก็ไม่ทราบหรอกว่าเมื่อไหร่) เมื่อเราพร้อมทั้งคุณวุฒิและวัยวุฒิ ธรรมชาติจะส่งคนที่เหมาะกับเราจริง ๆ มาให้ หลายคนมักมองว่า มันคือ กฎแห่งแรงดึงดูด แต่ผมจะมองในเชิงพุทธว่า กรรมลิขิต ครับ เพราะเราคงมีอะไรผูกพันธ์ไว้ก่อน คล้าย ๆ การที่คุณได้มาอ่านบทความผม ถ้าคุณไม่ได้รู้จักผมตัวเป็น ๆ ทำไมคุณถึงได้มาเจอบทความนี้ บังเอิญ? โทษนะครับผมไม่เชื่อในเหตุบังเอิญอยู่แล้ว มันต้องมีเหตุให้ได้เจอ/พบ เช่น การที่ผมต้องมานั่งขีด ๆ เขียน ๆ เอาประสบการณ์ตัวเองมาขิง คุณคิดว่ามันเป็นเหตุบังเอิญหรือครับ? ถ้าคุณจะเชื่อว่าใช่ ผมคงไม่คิดจะค้านแต่ ผมต้องการจะบอกว่า บางครั้งบทเรียนอาจไม่ได้มีแค่ในตำราอย่างเดียว เรียนจากตัวอย่างทั้งดีและไม่ดี โดยเฉพาะบทเรียนชีวิตก็น่าจะรู้(ฉลาด)ขึ้น มิฉะนั้น คงไม่มีตัวอย่างหรือสถานการณ์ให้ได้ศึกษาหรอกครับ

Advertisement

Advertisement

coincidence?รักกัน คือ เหตุบังเอิญ?

กลับมาเล่าต่อว่าภายหลังที่เรา 2 คนรู้จักกัน ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ระหว่างทางผมกล้ายืนยัน นอนยันว่า มันไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เพราะบททดสอบมันค่อนข้างถาโถมเข้ามาโดยไม่มีการบอกก่อน โดยเฉพาะ การทดสอบหิน ๆ หลายด่าน แม้ว่าเราจะผ่านมันมาได้ แต่เราก็เรียนรู้อะไร ๆ หลาย ๆ อย่าง เป็นเหตุให้ผมนำมาเขียนบทความได้

ภายหลังที่เรารู้จักกันมากขึ้น เราต้องบริหารจัดการทั้งเวลาและความรับผิดชอบ รวมถึงบริหารความรัก ให้ดีที่สุดโดยต้องไม่พยายามมากไปจนสูญเสียความเป็นตัวเอง วันแรกเป็นแบบใด วันนี้ก็ต้องเป็นแบบนั้น ทั้งนี้อาจเป็นเพราะเวลาก็ดี ความรับผิดชอบก็ดี ปัจจัยภายนอก-ภายในดี ล้วนแตกต่างกันอย่างมาก ด้วยเหตุนี้ การยอมรับความแตกต่างไม่ใช่ความจำนน (ฝืนให้ต้องยอมรับ) นั่นน่าจะเป็นสิ่งที่สะท้อนความเข้าใจได้อย่างดี มันจึงไม่มีเหตุให้เราต้องทะเลาะกัน เพราะลึก ๆ แล้วผมไม่เห็นประโยชน์ของการทะเลาะเลยสักนิด บางคนบอกมันเป็นสีสันของชีวิตคู่ ถ้าจะสีสันแบบนี้ แนะนำอยู่โสดดีกว่าไหมครับ?

Advertisement

Advertisement

กฎเหล็กที่เราทั้งคู่ต้องยึด คือ ความซื่อสัตย์ครับ https://cities.trueid.net/post/209824 ; https://cities.trueid.net/post/206069 ที่เราจะไม่เน้นคำพูดแต่มันต้องสะท้อนจากการกระทำเท่านั้นและโอกาสที่จะนอกใจแต่เราต้องไม่ทำนี่แหล่ะ ของจริง

ที่ผมกล่าวมาตั้งแต่ต้น ผู้อ่านอาจจะพอสังเกตว่า เมื่อพรหมลิขิตให้เราเจอกันแล้ว หลังจากนั้น เราสองคนต้องลิขิตกันเอง ไม่อยากให้เป็นภาระของสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีก ลึก ๆ ผมมองว่าท่านก็หน้าจะไม่ว่างพอ ให้ผมกับแฟนต้องรักกันไปจนแก่จนเฒ่าผ่านบททดสอบตลอดเวลา ผมแอบคิดเล่น ๆ เทพก็คงเหนื่อยเป็น ไม่เช่นนั้น ท่านก็คงไม่ต้องทำอะไรแล้ว

เนื่องด้วยความรักจะเป็นอย่างไรต่อนั้นมันเป็นเรื่องของคนสองคนจะเดินต่อไปพร้อมกันอย่างไร เพราะชีวิตคู่มันอาจจะเริ่มต้นจากสิ่งเหนือธรรมชาติ แต่ ระหว่างทางมันเป็นเรื่องของธรรมชาตินะครับ นั่น คือ การกระทำของคนสองคน เท่านั้น อย่างที่ผมบอกไว้ว่า

เมื่อพรหมลิขิตแล้ว จากนี้ผมลิขิตเอง

only both of youมันเป็นเรื่องของคุณสองคน

ปล. คนมีคู่โปรดอ่านและคิดตาม ส่วนคนไม่มีคู่ผมก็อยากให้คุณเตรียมความพร้อมให้ตัวเองเพราะใครจะรู้ว่า ธรรมชาติจะส่งคนที่ใช่มาเมื่อไหร่ แต่ตรึกตรองดี ๆ นะครับ คนที่ใช่ ต้องใช่ทั้งคน เวลา สถานที่ และถูกต้อง ถ้าผิดแต่ข้อ 1 ข้อใดอาจจะเป็นแค่คนที่ชอบไม่ใช่คนที่ใช่ https://cities.trueid.net/post/209679

ท้ายนี้ขอบพระคุณ ภาพ

1.ปก โดย Danica Tanjutco จาก unsplash https://unsplash.com/photos/N7CzWylkOhA

2. ที่ 1 โดย wayhomestudio จาก freepik https://bit.ly/2OcbpPV

3.ที่ 2 โดย rawpixel.com จาก freepik https://bit.ly/3q50Lb0

4.ที่ 3 โดย shurkin_son จาก freepik https://bit.ly/3r1Un5N

5.ที่ 4 โดย drobotdean จาก freepik https://www.freepik.com/free-photo/happy-african-lady-dressed-warm-sweater-pointing-you_7796906.htm

เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์