ไลฟ์แฮ็ก

4 วิธีการดูแลรักษารถ ที่จะช่วยยืดอายุรถยนต์ของคุณ

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
4 วิธีการดูแลรักษารถ ที่จะช่วยยืดอายุรถยนต์ของคุณ

รถยนต์ เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ช่วยอำนวยความสะดวกสะบายแก่ผู้ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการไปเที่ยว ทำธุระต่างๆ หรือว่าจะเป็นการขนของนั้น รถยนต์สามารถช่วยเราได้เป็นอย่างมาก แต่ไม่ว่าจะใช้งานในรูปแบบไหนก็ตาม รถยนต์ก็ต้องได้รับการดูแลรักษา เพื่อยืดอายุการใช้งานของรถต่อไป ซึ่ง มี 4 วิธีดังต่อไปนี้

กำลังเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง

(ภาพนี้ถ่ายตอนกำลังเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง)

1.หมั่นเปลี่ยนถ่ายของเหลวต่างๆ ในระบบของรถยนต์

นี่คือปัจจัยสำคัญที่ต้องหมั่นเช็คให้เป็นอย่างดี เพราะถ้าหากปล่อยปะละเลยระยะเวลากำหนดนั้น จะทำให้เครื่องยนต์และชิ้นส่วนต่างๆ สึกหรอและมีอายุการใช้งานที่สั้นลง ทำให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนหรือซ่อมแซมอีกด้วย ของเหลวในระบบนั้นประกอบไปด้วย น้ำมันเครื่อง, น้ำมันเกียร์, น้ำมันเฟืองท้าย, น้ำมันเบรก, น้ำยาหล่อเย็น และน้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์ โดยมีระยะเปลี่ยนแต่ละชนิดดังนี้

Advertisement

Advertisement

น้ำมันเครื่อง - ขึ้นอยู่กับการเลือกใช้

-น้ำมันเครื่องเกรดธรรมดา เปลี่ยนทุกๆ 3,000-5,000 กิโลเมตร
-น้ำมันเครื่องเกรดกึ่งสังเคราะห์ เปลี่ยนทุกๆ 5,000-10,000 กิโลเมตร
-น้ำมันเครื่องเกรดสังเคราะห์แท้  เปลี่ยนทุกๆ 10,000-20,000 กิโลเมตร

แต่ถ้ารถของคุณใช้งานไม่ถึงระยะตามข้างบนในระยะ 6 เดือน ควรเปลี่ยนเพราะว่าน้ำมันเครื่องจะค้างอยู่ในเครื่องยนต์นานเกินไป

น้ำมันเกียร์,น้ำมันเฟืองท้าย - ทุกๆ 20,000-40,000 กิโลเมตร

น้ำมันเบรก - ทุกๆ 80,000 กิโลเมตร

น้ำยาหล่อเย็น - ทุกๆ 50,000 กิโลเมตร

น้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์ - ทุกๆ 80,000 กิโลเมตร


จอดรถ

ภาพจาก https://pixabay.com

2.ไม่ควรจอดรถตากแดดเป็นเวลานาน

ทุกคนย่อมรู้ดีว่าแสงแดดประเทศไทยนั้นรุนแรงแค่ไหน และส่งผลกระทบต่อรถยนต์อีกด้วย ซึ่งการที่เราจอดรถตากแดดเป็นเวลานานๆ เป็นประจำ ก็จะส่งผลกระทบต่อรถยนต์เลยคือ เกิดความร้อนสะสมภายในห้องโดยสาร ทำให้เกิความเสียหายต่อคอนโซลรถเสื่อมสภาพ ถ้าหากมีความจำเป็นต้องจอดตากแดดเป็นเวลานานๆ ควรจะลดกระจกลงเล็กน้อย เพื่อระบายอากาศภายในห้องโดยสาร

Advertisement

Advertisement


Drift

ภาพจาก https://pixabay.com

3.ไม่ควรเบรกรถอย่างรุนแรงหรือออกตัวอย่างรุนแรง

นอกจากจะทำให้ผ้าเบรกสึกหรอเร็วและสิ้นเปลืองน้ำมันนั้น การเบรกอย่างรุนแรงส่งผลทำให้หน้ายางและดอยางสึกหรอได้อีกด้วย เพราะหน้ายางนั้นสัมผัสกับพื้นถนนอยู่ตลอดเวลา ถ้าหากคุณขับมาด้วยความเร็วและเบรกอย่างรุนแรงกะทันหัน หน้ายางก็เกิดแรงเสียดสีกับพื้นถนนมากกว่าปกติ ส่งผลให้ดอกยางสึกหรอได้ง่าย เช่นเดียวกับการออกตัวอย่างรุนแรงล้อฟรี ก็จะส่งผลต่อยางเหมือนกัน



ล้างรถ

ภาพจาก https://pixabay.com

4. หมั่นล้างรถเป็นประจำ

ถ้าหากเราปล่อยปะละเลยไม่ล้างรถเป็นประจำนั้น นอกจากจะทำให้รถเป็นแหล่งสะสมของสิ่งสกปรกและทำให้รถดูหม่นหมอง ก็ยังส่งผลกระทบต่อความสดใสเงางามของสีรถอีกด้วย เพราะสิ่งสกปรกที่สะสมอยู่เป็นเวลานาน จะทำให้ทำความสะอาดได้ยากกว่าเดิม โดยเฉพาะคราบขี้นกหรือคราบยางมะม่วงซึ่งมีฤทธิ์เป็นกรด สามารถกัดกร่อนผิวสีรถให้สีผิวรถเสียได้ ทำให้ต้องเสียเงินค่าทำสีรถอีก

Advertisement

Advertisement


ขอให้ทุกคนดูแลรักษารถเป็นอย่างดีนะครับ สวัสดี

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์