ทำไมค่าอาหารที่สั่งผ่านเดลิเวอรี่ถึงแพงมาก?

ทำไมค่าอาหารที่สั่งผ่านเดลิเวอรี่ถึงแพงมาก แต่ก็ยังมีคนสั่งอยู่ตลอด? ในช่วงเวลาที่รัฐบาล ออกมาตรการล็อกดาวน์เข้มงวด เพื่อลดการพบปะกันของผู้คน และขอความร่วมมือให้ประชาชนออกจากบ้านให้น้อยที่สุด ตอนที่สถานการณ์การระบาดของ โควิด-19 ในประเทศเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จากข้อจำกัดต่างๆ ทำให้หลายๆคนที่ไม่เคยใช้ หรือไม่ค่อยได้ใช้บริการ การสั่งอาหารบนแอพพลิเคชั่น หันมาให้ความสนใจกับบริการเหล่านี้กันมากขึ้น รวมถึงมีลูกค้าเก่าที่ใช้บริการเป็นประจำอยู่แล้ว ทำให้ความนิยมในการสั่งอาหารแบบเดลิเวอรี่มีมากยิ่งขึ้นไปมากกว่าปกติหลายเท่าขอขอบคุณเครดิตรูปภาพที่ 2 จาก xegxef โดย pixabay

แต่เมื่อมาสำรวจราคาอาหาร ที่ขายผ่านแอพพลิเคชั่นสั่งอาหารเดลิเวอรี่ เกือบแทบจะทุกแอพฯ ราคาอาหารจะมีราคาสูงจนน่าตกใจ มีราคาแพงกว่าหน้าร้านประมาณถึง 30 - 40 % เช่น ข้าวราดผัดกะเพราหมูสับไข่ดาว ราคาหน้าร้านประมาณ 40 บาท แต่ในแอพพลิเคชั่น มีตั้งแต่ราคา 50 - 80 บาท แถมบางร้านยังไม่รวม ราคาของไข่ดาวด้วยซ้ำ เมื่อสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น หลายๆคนได้รับวัคซีนป้องกันโควิดกันครบโดสแล้ว มาตราการต่างๆได้ผ่อนคลายลง สามารถนั่งรับประทานอาหารที่ร้านได้บ้างแล้ว แต่พบว่าแนวโน้มคนใช้งานแอพพลิเคชั่นสั่งอาหารเดลิเวอรี่ไม่ได้ลดลงมากมายสักเท่าไร หลายๆคนยังใช้บริการอยู่ในทุกๆวัน แล้วอะไรล่ะที่เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้แอพพลิเคชั่นสั่งอาหารเดลิเวอรี่จึงยังได้รับความนิยมอยู่ ?

ทำไมราคาอาหารในแอพฯถึงแพง? เพราะว่าแต่ละแอพพลิเคชั่น มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมการใช้บริการกับทางร้านค้า โดยจะจัดเก็บประมาณ 30 - 35 % ในทุกๆออเดอร์ จะมากน้อยแตกต่างกันในแต่ละแอพฯ อีกทั้งยังไม่รวมค่าภาษีด้วยนะ จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมราคาอาหารในแอพพลิเคชั่นสั่งอาหารถึงได้แพงมากกว่าปกติ และอาจจะมีบ้างที่ร้านค้าบางร้านตั้งราคาสูงมากจนเกินไป จนทำให้อดคิดไม่ได้ว่า ต่อไปคงจะได้กิน ข้าวกะเพราไก่ไข่ดาว จานละ 100 บาท ในอนาคตอันใกล้นี้ก็เป็นได้

ขอขอบคุณเครดิตรูปภาพประกอบที่ 1 และ ที่ 5 จาก dittapongchu โดย pixabay

ขอขอบคุณเครดิตรูปภาพหน้าปก จาก Dow โดย pixabay

เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !