อื่นๆ

ที่เกิดเหตุ

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุ

ผมเพิ่งย้ายมาอยู่แถวฝั่งธน ได้เพียง 2 เดือนเศษเท่านั้นเองครับ ยังไม่คุ้นชินกับถนนหนทางละแวกนี้เท่าไหร่ สาเหตุที่ผมต้องย้ายมา ก็เพราะผมมีแฟนเป็นคนแถวนี้

หลังจากแต่งงานกันแล้ว เธอชวนผมมาเช่าบ้านอยู่ใกล้ ๆ บ้านแม่ของเธอ เพราะจะได้ไปดูแลท่านได้สะดวก ฝ่ายผมเองไม่มีใครให้ต้องห่วงแล้ว เพราะพ่อแม่ผมเสียชีวิตไปหมด จึงตัดสินใจย้ายมาอยู่แถวฝั่งธนฯ กับแฟน แล้วก็มาหางานทำแถวนั้น

ผมมาได้งานที่โรงงานแห่งหนึ่ง ไม่ไกลจากบ้านเธอเท่าไหร่ ส่วนแฟนผมเธอทำงานในห้างสรรพสินค้า ต้องเข้างานเป็นกะ ถ้าวันไหนแฟนผมเข้างานเช้า เธอก็จะกลับมาบ้านก่อน แต่บางวันที่เธอเลิกดึก ผมก็จะขับรถไปรับเธอที่ทำงาน ผมทำงานในตัวกรุงเทพฯมาตลอด ยังไม่ค่อยชินถนนหนทางแถวนี้สักเท่าไหร่ บางทีก็ขับหลงไปทางนั้นทางนี้บ้าง เพราะมันจะเป็นซอยลัดไปลัดมา และไม่มีป้ายบอกละเอียดเหมือนในตัวกรุงเทพฯ แต่ก็ยังดีว่า รถราไม่แออัดมากนัก

Advertisement

Advertisement

มีอยู่คืนหนึ่ง แฟนผมเลิกงานประมาณ 4 ทุ่ม ผมก็เตรียมตัวออกไปรับตั้งแต่ 3 ทุ่มครึ่งกว่า ๆ เพื่อจะได้ไปถึงตอนแฟนเลิกงานพอดี พอเธอขึ้นรถกลับมา ผมก็โชว์ความสามารถในการจำเส้นทาง โดยการพาเธอขับมาทางลัด ที่ไม่ต้องวิ่งบนถนนใหญ่

“เฮ้ย! พี่ ทำไมมาทางนี้ล่ะ”

“ทางนี้ก็ไปได้ไม่ใช่เหรอ พี่ถามเขามาหมดแล้ว”

“ก็ไปได้ แต่มันเปลี่ยวนะ”

“ไม่เห็นเป็นไรเลย สำรวจเส้นทางใหม่ ๆ ดูบ้าง ถนนก็เพิ่งทำใหม่ ๆ ดูสิ วิ่งดีจะตาย วิ่งเส้นใหญ่รถมันเยอะ”

“แล้วแต่ละกัน”

ระหว่างที่ผมกำลังขับรถไปในเส้นทางลัด ที่ผมศึกษามาอย่างดีแล้ว ว่ามันเป็นทางที่ทะลุไปบ้านของผมได้เช่นกัน ผมก็เริ่มรู้สึกอะไรแปลก ๆ กับถนนเส้นนี้

“ทำไมมันเงียบขนาดนี้วะ” ผมนึกในใจ

ระหว่างที่กำลังคิดอะไรเพลิน ๆ อยู่นั้น สายตาผมก็เหลือบไปเห็นอะไรบางอย่างที่ข้างทาง

“เฮ้ย! อะไรวะนั่น” ผมร้องอุทาน

Advertisement

Advertisement

“มีอะไรเหรอพี่”

“เมื่อกี้เห็นอะไรมั้ย ข้างทางน่ะ”

“ไม่เห็นมีอะไรเลยพี่ ร้องซะตกอกตกใจ พี่เห็นอะไร”

“เปล่า ๆ ไม่มีอะไร เดี๋ยวถึงบ้านค่อยคุยกัน”

ผมไม่บอกแฟน ว่ามองเห็นอะไรที่ข้างทางนั่น เพราะกลัวว่าจะทำให้เธอตกใจ นาทีนี้ ให้ผมตกใจคนเดียวจะดีกว่า

และตลอดเส้นทางที่ผมขับกลับบ้าน ขนก็ลุกซู่มาตลอด รู้สึกหนาว ๆ ร้อน ๆ ยังไงบอกไม่ถูก

พอกลับมาถึงบ้าน ผมก็รีบไปอาบน้ำอาบท่า ไม่ยอมพูดถึงเรื่องที่เห็น แต่แฟนผม ก็ยังนึกสงสัยไม่หาย ว่าผมไปเจออะไรเข้า

“เมื่อกี้ พี่เห็นอะไร ถึงได้ทำหน้าตาตื่นขนาดนั้น” แฟนถาม

“ถามก่อน ว่าตรงที่พี่เห็นนั่น เคยมีอุบัติเหตุอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า” ผมถามกลับ

“หนูไม่รู้หรอกพี่ หนูก็เพิ่งกลับมาอยู่พร้อมพี่นี่แหละ ก็ไม่เห็นมีข่าวอะไรนี่”

“เมื่อกี้พี่เห็น ผู้ชายสองคน เดินจูงมอร์เตอร์ไซต์ สภาพแต่ละคนยับเยินมาก เลือดท่วมหน้า อีกคนนึงกระโหลกยุบไปข้างนึงเลย สยองมาก” ผมอธิบาย

Advertisement

Advertisement

“ห๊า! เห็นขนาดนั้นเลยเหรอ ทำไมหนูไม่เห็นอะไรเลย”

“ก็ถ้าหนูเห็นเหมือนพี่ พี่ก็คงคิดว่าคนประสบอุบัติเหตุ แต่นี่หนูดันไม่เห็น แล้วพอพี่ขับเลยมา มองไปที่กระจกหลัง มันก็หายไปแล้ว”

“แสดงว่าพี่โดนผีหลอกเหรอเนี่ย”

“พี่อยากรู้จัง ว่าแถวนั้นเคยมีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า หรือพี่แค่ตาฝาดไปเอง”

ผมอดสงสัยไม่ได้ กับสิ่งที่เห็น ว่ามันคือภาพลวงตาที่ผมมโนขึ้นมาเอง หรือ ณ จุดนั้น เคยมีใครประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ผมจึงตัดสินใจชวนแฟนขับรถไปแถวนั้นอีกครั้ง ในวันหยุด แต่ไปตอนกลางวัน และเมื่อไปถึงตรงจุดนั้น ผมก็มองเห็นอะไรบางอย่าง ที่ดูเหมือนคราบเลือดจาง ๆ อยู่ที่พื้นถนน

“พี่ว่า มันต้องเคยเกิดอะไรขึ้นตรงนี้แน่ ๆ เลย”

“เอางี้มั้ยพี่ บ้านเพื่อนหนูอยู่ซอยนี้ เปิดร้านก๋วยเตี๋ยวอยู่ เราไปถามมันกันมั้ย”

แฟนผมเอง ก็อยากรู้เหมือนกัน ว่าที่ผมเห็นนั้น มันมีที่มาที่ไปหรือเปล่า จึงชวนกันไปนั่งกินก๋วยเตี๋ยวที่ร้านของเพื่อน แล้วถาม

“แมว เอาก๋วยเตี๋ยวมาสองชามสิ แล้วมานั่งคุยกะเราหน่อย มีเรื่องจะถาม”

แมวทำก๋วยเตี๋ยวมาสองชาม แล้วนั่งลงข้าง ๆ “มีอะไรก็ถามมาเลยแก”

“จะถามว่าตรงตีนสะพานนั่น เคยมีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า”

“แกหมายถึงอุบัติเหตุน่ะเหรอ”

“ใช่ ๆ ”

“กินให้เสร็จก่อนสิ เดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง”

“เล่ามาเลยสิแก เราอยากรู้”

“แน่ใจนะ ว่าฟังแล้วจะกินต่อได้... คือเมื่อเดือนที่แล้ว มีคนเมาสองคนขับรถมาอย่างเร็วเลย เสยกับต้นไม้ข้างทางนั่น คนหนึ่งเสียชีวิตคาที่เลยแกเอ้ย! สภาพศพนี่นะ หัวยุบไปข้างหนึ่งเลย เลือดนองพื้นไปหมด แต่อีกคนเหมือนจะไปเสียที่โรงพยาบาลนี่แหละ แล้วทำไมแกถึงถามแบบนี้ล่ะ”

“คือ แฟนเราเห็นน่ะสิ เมื่อคืนก่อน”

พอได้รู้เรื่องราวว่าที่ตรงนั้น เป็นจุดที่เคยเกิดอุบัติเหตุมาก่อนเมื่อไม่นานมานี้ ผมก็รู้สึกขนลุกวาบขึ้นมาทันทีทันใด แสดงว่าที่ผมเห็นนั่น ก็คือวิญญาณ ที่ยังวนเวียนอยู่ในที่ ๆ ตัวเองตาย ยังไม่ไปไหนเลยล่ะสิ

หลังจากนั้น แฟนก็ชวนผมไปทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้วิญญาณที่เห็น เขาคงจะไปไหนไม่ได้ หรือยังไม่ถึงเวลา จึงต้องมาวนเวียนอยู่แบบนั้น

แล้วก็อย่าหวังเลย ว่าผมจะขับรถผ่านเส้นทางนั้นอีก โดยเฉพาะในยามค่ำคืน ยอมวิ่งเบียดกับรถเยอะ ๆ บนถนนใหญ่ อุ่นใจกว่าเป็นไหน เข็ดเลยคราวนี้....


ภาพปกโดยpixabay.com

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์