อื่นๆ

พรุ่งนี้มีสัมภาษณ์งานต้องเตรียมตัวอย่างไร

518
คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
พรุ่งนี้มีสัมภาษณ์งานต้องเตรียมตัวอย่างไร

เมื่อคุณกำลังจะมีโอกาสได้เริ่มงานกับองค์กรที่คุณใฝ่ฝันและต้องการทำงานด้วยแล้วนั้น ด่านแรกคือ การเข้าสัมภาษณ์งาน ซึ่งคุณจะต้องแสดงความรู้ โชว์ความสามารถ รวมถึงศักยภาพในตัวคุณให้ผู้สัมภาษณ์ตรงหน้าคุณ  ได้เห็นว่า คุณนั้นแหละ  เหมาะสมที่จะได้โอกาสในการเริ่มงานในครั้งนี้

ภาพ1


“พรุ่งนี้แล้วสินะ ที่ต้องไปสัมภาษณ์งาน คุณต้องไม่พลาดในการเตรียมตัว”


1.การแต่งกาย นับว่าการแต่งกายเป็นสิ่งสำคัญมาก ในการเข้าสัมภาษณ์งานควรเลือกสวมใส่ชุดทรงสุภาพให้เหมาะสมกับตำแหน่งงาน เช่น ผู้จัดการเลขานุการ  เจ้าหน้าที่สำนักงาน  วิศวกร พนักงานออฟฟิต  ต่อให้คุณเก่ง มีความรู้ความสามารถมากแค่ไหน แต่หากสวมใส่ชุดที่ไม่สุภาพ ไม่รู้จักกาลเทศะ คุณก็อาจจะพลาดงานครั้งนี้ตั้งแต่ยังไม่ถูกสัมภาษณ์เลยก็ได้  ดังนั้นการแต่งกายที่ดีนับว่ามีชัยไปกว่าครึ่ง อีกทั้งยังช่วยเสริมบุคลิกภาพของคุณให้ดูดีอีกด้วย

Advertisement

Advertisement

ภาพ2

2.ความตรงต่อเวลา หลายบริษัทให้ความสำคัญเรื่องการตรงต่อเวลา เป็นสิ่งที่แสดงถึงความกระตือรือร้น ความพร้อม มีระเบียบวินัย  ดังนั้นคุณควรวางแผนในเรื่องการเดินทาง เพื่อให้คุณไปถึงตามเวลานัดหมาย โดยปกติแล้ว ควรไปถึงก่อนเวลา 30 นาที

3.เตรียมเอกสารประกอบการเขียนใบสมัครงานให้พร้อม นอกเหนือจาก Resume ที่คุณได้ส่งสมัครกับบริษัทแล้วนั้น  บริษัทก็จะมีแบบฟอร์มใบสมัครงานของบริษัทให้คุณกรอกข้อมูล พร้อมเอกสารแนบประกอบด้วยได้แก่ รูปถ่ายขนาด 1 รูป ,สำเนาบัตรประชาชน, สำเนาทะเบียนบ้าน, สำเนาวุฒิการศึกษา, ใบผ่านการฝึกอบรม หากผู้ชายต้องมีใบผ่านการเกณฑ์ทหาร

Interview

4.เตรียมพร้อมสำหรับข้อมูลในการตอบคำถามจาก HR และหัวหน้างาน คำถามที่มักพบบ่อย ขอยกตัวอย่างดังต่อไปนี้

- HR จะเริ่มต้นโดยให้คุณแนะนำตัวเอง  การศึกษา และเล่าประสบการณ์ที่ผ่านมา คำถามนี้ผู้สัมภาษณ์คาดหวังที่จะทราบประวัติและรายละเอียดของคุณที่นอกเหนือจากการที่คุณเขียนลงในใบสมัครงาน  ประสบการณ์ทำงานที่ผ่านมานั้นเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพราะบางองค์กรนั้นต้องการผู้ที่มีประสบการณ์ในงานมาก่อน  โดยคุณก็สามารถดูตามรายละเอียดงานที่องค์กรนั้นๆประกาศรับสมัครงาน นำมาประกอบการบรรยายและควรบรรยายในลักษณะเชิงบวก  แต่หากคุณยังไม่มีประสบการณ์หรือพึ่งจบใหม่มานั้นก็ไม่ต้องกังวล หากองค์กรได้พิจารณาคัดเลือกคุณเข้ามาสัมภาษณ์แล้ว ก็ถือว่าคุณสมบัติของคุณผ่านเกณฑ์ จึงมีสิทธิได้เข้าสัมภาษณ์ครั้งนี้ โดยคุณสามารถบอกถึงความสามารถพิเศษ การเคยทำงาน Part time  การฝึกงาน การเข้ารับการฝึกอบรม หรือทำกิจกรรมต่างๆ ผลงานที่คุณสร้างไว้ในสมัยเรียน ความสามารถในการใช้โปรแกรม เป็นต้น  นอกเหนือจากนั้นสิ่งที่ผู้สัมภาษณ์ต้องการเห็น คือ ทักษะการสื่อสาร  การกล้าแสดงออก  บุคลิกภาพ  ปฏิภาณไหวพริบ ของคุณด้วยนั่นเอง

Advertisement

Advertisement

- ทำไมคุณถึงสมัครงานตำแหน่งนี้กับบริษัทเรา คำถามนี้ HR คาดหวังที่จะทราบเหตุผลที่คุณต้องการทำงานหรือมาร่วมงานกับบริษัท อยากรู้ว่าภาพลักษณ์ขององค์กรมีชื่อเสียงและยังน่าสนใจเพียงใด และสิ่งสำคัญคุณต้องศึกษาประเภทธุรกิจของบริษัทไว้ด้วย ทั้งนี้ให้คุณกล่าวถึงทักษะ ความสามารถของคุณที่ตรงกับตำแหน่งงาน และสิ่งที่จะเป็นประโยชน์สำหรับการทำงานครั้งนี้

- ทำไมคุณจึงลาออกจากที่ทำงานเก่า โดยอาจจะถามสาเหตุที่คุณลาออกจากที่ทำงานที่เก่า หรือสาเหตุที่คุณต้องการทำงานที่ใหม่  แต่ไม่ว่าจะลาออกด้วยสาเหตุอะไร  คุณไม่ควรพูดถึงบริษัทเก่า เจ้านายเก่า เพื่อนร่วมงานเก่าในเชิงลบ คุณควรมองถึงอนาคตความก้าวหน้า คุณต้องทำให้ผู้สัมภาษณ์รู้สึกว่าเมื่อรับคุณเข้ามาร่วมงานแล้วคุณจะสามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างไม่มีปัญหาหรืออุปสรรคในการทำงานใดๆ

Advertisement

Advertisement

- คุณต้องการเงินเดือนเท่าไร หากคุณยังไม่ได้ลาออกจากที่เก่าแต่ต้องการได้งานที่ใหม่ ความคาดหวังในเงินเดือนของคุณคงต้องมากกว่าที่เก่า แต่ควรเรียกเงินเดือนให้เหมาะสมกับตำแหน่งหน้าที่ อายุและประสบการณ์ของคุณ และแน่นอนว่า เมื่อคุณกรอกเงินเดือนที่ต้องการไป หากเรียกสูงเกินไป HR จะเข้ามามีบทบาทในการต่อรองเงินเดือน ให้ได้ตามฐานโครงสร้างเงินเดือนของบริษัท

- หากคุณได้เริ่มงานกับบริษัท คุณสามารถเริ่มงานได้วันไหน บางทีบริษัทก็ต้องการคนที่สามารถเริ่มงานได้ทันที อาจเป็นเพราะต้องการให้เข้ามาเรียนรู้งานต่อจากคนเก่า  แต่หลักๆแล้วหากคุณยังทำงานที่เก่าอยู่ ก็ควรจะต้องขอลาออกจากที่เก่าตามระเบียบดีที่สุด ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่าคุณเป็นคนมีความรับผิดชอบ  แต่คุณจะลาออกจากที่เก่าคุณต้องมั่นใจว่าคุณจะได้เริ่มงานกับที่ใหม่แน่นอน หรือได้เซ็นสัญญาจ้างกับที่ใหม่แล้ว

- คุณมีอะไรจะถามหรือไม่ มักเป็นคำถามปิดการสัมภาษณ์ ซึ่งก็เปิดโอกาสให้คุณได้สอบถามในสิ่งที่คุณต้องการทราบ แต่คุณควรเลือกถามตามความเหมาะสม ไม่ควรถามเยอะเกินจำเป็น อาจจะถามว่า ดิฉันจะสามารถทราบผลการสัมภาษณ์งานนี้ภายในกี่วันค่ะ   และขอบคุณที่ให้โอกาสในการสัมภาษณ์งานในวันนี้

5.มารยาทความอ่อนน้อมถ่อมตน โดยเริ่มตั้งแต่เดินเข้าไปติดต่อ รปภ. การเข้ามารอสัมภาษณ์งาน การพบเจอเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลก่อนเข้าห้องสัมภาษณ์ อาจพบเห็นสายตาจับจ้องของคนในที่ทำงานที่เดินผ่านไปมา มีผลต่อการประเมินพฤติกรรมและบุคลิกภาพของคุณด้วย เมื่อเข้าห้องสัมภาษณ์สิ่งแรกที่คุณควรทำเลยคือการไหว้สวัสดีผู้สัมภาษณ์ตรงหน้าของคุณ และเมื่อจบการสัมภาษณ์ ก็อย่าลืมกล่าวสวัสดีเพื่อขอบคุณที่ให้โอกาสเข้าสัมภาษณ์งานในครั้งนี้

Interview2

6.สิ่งที่ต้องพึงระวังในวันไปสัมภาษณ์งาน

- ไม่ควรมีผู้ติดตามมานั่งรอคุณสัมภาษณ์ด้วย

- นั่งก้มหน้าเล่นมือถือ เล่นเกม ขณะรอสัมภาษณ์งาน

- เสียงสายเรียกเข้าดัง

- กรอกใบสมัครด้วยความรีบร้อน จนลายมือไม่ชัด ไม่สวยงามเรียบร้อย

- สนทนาไปโยกเก้าอี้ไป

- การพูดคุยสื่อสารระหว่างสัมภาษณ์งานอย่าพูดแข็งเกินไป เร็วเกินไป ควรพูดให้ชัดเจน ผู้ฟังเข้าใจง่าย ไม่ถามคำตอบคำ

- แสดงความกระตือรือร้น เดินอย่างคล่องแคล่ว มุ่งมั่นตั้งใจ

สุดท้ายนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ คุณต้องให้สัมภาษณ์ด้วยความจริงใจ ไม่โกหก รู้จักกาลเทศะ และมองไปที่ผู้สัมภาษณ์ของคุณว่าเป็นคนแบบไหน จริงจัง ใจดี คุยสบายๆ ร่าเริง เพราะการที่เขาจะรับคุณร่วมงานด้วย ทัศนคติ ความคิดเห็น ท่าทีต่างๆ ต้องเข้ากันได้เป็นที่ชื่นชอบ ถูกใจ ไม่น้อยไปกว่าความรู้ความสามารถของคุณเลย หรือที่เรียกได้ว่า เคมีตรงกันหรือเข้ากันได้นั่นเอง

เครดิตภาพ

ภาพปก โดย h8ndsf729n จาก canva.com

ภาพที่ 1 โดย Tumisu จาก pixabay.com

ภาพที่ 2 จาก Free-Photos จาก pixabay.com

ภาพที่ 3 จาก Tima Miroshnichenko จาก pexels.com

ภาพที่ 4 จาก Edmond Dantès จาก pexels.com

เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์