มีแฟน ดีจริงหรือไม่

หากคุณ คือ คนที่กำลังหาคำตอบว่า การมีแฟน หรือมีคู่ เป็นเรื่องที่ดี จริงหรือไม่ บทความนี้ จะไขทุกข้อข้องใจ และข้อสงสัยของคุณว่า การมีแฟน หรือมีคู่ นั้น เป็นเรื่องที่ดีจริงหรือไม่

ก่อนอื่นมาทำความรู้จัก และทำความเข้าใจคำว่า แฟน ก่อนนะครับ

นิยามของคำว่า แฟน หากจะแปลให้มีความเข้าใจโดยง่าย และครอบคลุมมุมมองโดยรวมมากที่สุด ก็คือ คนที่มีสถานะ ความสัมพันธ์ร่วมกันกับเพศตรงข้าม ความสัมพันธ์ในที่นี้หมายถึง ความสัมพันธ์แบบคนที่มีความรักให้แก่กันและกัน แบบฉบับคู่รักหนุ่มสาว หรือก็คือ คนมีคู่ นั่นเอง โดยไม่มีการแบ่งแยกเพศ และมีอคติที่ไม่ดี และคำว่า แฟน ก็สามารถจะเป็นได้ในทุกความหมาย ในแบบฉบับความเข้าใจของคนๆ หนึ่ง หรือคู่รัก คู่หนึ่ง

มีแฟน หรือมีคู่ ดีจริงหรือไม่

คำตอบ สามารถแบ่งตอบได้ด้วย มุมมองหลักๆ 2 มุมมอง คือ

2. ตอบในมุมมองของคนโสด แต่มีชีวิตที่ดี และมีความสุข มากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ แนวโน้มของคำตอบที่ออกมาคือ การเป็นโสดดีกว่า การมีแฟน อย่างแน่นอน ซึ่งในมุมมองของคนโสด โดยส่วนใหญ่ก็จะการันตีในความแน่นอนของคำตอบ มากกว่าคนมีแฟน หรือคนมีคู่ เพราะคนโสดก็สามารถพิสูจน์ได้แล้วว่า การไม่มีแฟน หรือมีคู่ชีวิต ก็สามารถประสบความสำเร็จในชีวิตได้ และก็สามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุขได้ แต่โดยส่วนมากแล้ว คนโสดจะไม่ได้มองว่า การมีแฟน หรือการมีคู่ชีวิต เป็นสิ่งที่สำคัญ และจำเป็นเสมอไป แต่คนโสดก็ไม่ได้จะปฏิเสธการมีแฟน หรือมีคู่ชีวิต เพียงแต่แค่มีมุมมอง และความคิดที่แตกต่างออกไปเท่านั้น

คนมีแฟน หรือคนมีคู่ มีมุมมองแบบไหน

มุมมองที่ 1 : มุมมองต่อตัวเอง

คนมีแฟน หรือคนมีคู่ ในเรื่องมุมมองที่มีต่อตัวเอง และชีวิตในเรื่องต่างๆ หรือปัจจัยอื่นๆ ส่วนใหญ่ไม่ได้แตกต่างจากคนโสดมาก เพียงแต่ในแง่มุมของคนมีแฟน หรือคนมีคู่ มองว่าชีวิต และความสุขเป็นเรื่องที่สามารถแชร์ และแบ่งปันกับใครสักคนได้ คนมีแฟน หรือคนมีคู่ไม่ได้มองว่า การทำอะไรเพียงลำพังจะทำให้ไม่มีความสุข แต่จะมองว่า ความสุขในสิ่งที่ทำ หรือความสุขในเรื่องที่ทำ สามารถมีร่วมกับคนสักใครได้ และมันก็เป็นเรื่องที่ดี และไม่ได้มีอะไรเสียหาย คนมีแฟน หรือคนมีคู่จะมองว่า เราสามารถใช้ชีวิตให้มีความสุขกับใครสักคนได้ และร่วมกันสร้างความสุขให้กับชีวิตของกัน และกันในเรื่องต่างๆ ได้ โดยที่เราทั้งสองต่างก็มีความสุขในตัวเองอยู่แล้ว คนมีแฟน หรือคนมีคู่ ก็เป็นคนที่รักตัวเองเป็น และมีความสุขด้วยตัวเองได้ เพียงแต่แค่อยากมอบความสุขที่ตัวเองมีให้กับใครสักคน หรือมีความสุขร่วมกับใครสักคนเท่านั้นเอง

มุมมองที่ 2 : มุมมองต่อผู้อื่น

คนมีแฟน หรือคนมีคู่ ไม่ได้มีมุมมองที่มีอคติที่ไม่ดีต่อคนอื่นๆ ที่เป็นคนโสด หรือคนที่มีคู่ด้วยกันเองแต่อย่างใด คนมีแฟน หรือคนมีคู่เอง ก็เป็นคนที่มีมุมมองที่เปิดกว้าง เหมือนกับคนโสด แต่จะมีมุมมองที่มีอยู่บนพื้นฐานของความเป็นกลาง จะไม่เป็นผู้แนะนำ หรือชี้แนะให้กับคนคนอื่นๆ ว่าอะไรดี หรือไม่ดี ควรมี หรือไม่ควรมี และจะรักษาจุดยืนของตัวเองเสมอ เพราะรู้ดีว่า จุดที่ตัวเองยืนอยู่ เป็นอย่างไร รู้ว่าเมื่อไหร่ควรรับฟัง เมื่อไหร่ควรปฏิเสธ  หรือเมื่อไหร่ ควรขอความคิดเห็น คนมีคู่จะแตกต่างจากคนโสดตรงที่มีมุมมองของชีวิตในเรื่องต่างๆ จะครอบคลุมมากกว่าคนโสด เพราะผ่านประสบการณ์การเป็นโสดมาแล้ว และประสบการณ์ของการใช้ชีวิตคู่ก็มีอยู่ในปัจจุบัน จึงทำให้คนมีคู่ มีมุมมองที่กว้าง และลึกมากกว่าคนโสด แต่ก็ไม่ใช่ในทุกเรื่องเสมอไป

มุมมองที่ 3 : ชีวิตเป็นสิ่งที่ดี งดงาม มีคุณค่า และมีความหมาย เรามีสิทธิ์ที่อยากจะส่งมอบสิ่งดีๆให้กับใครสักคน และเรามีสิทธิ์ที่จะใช้ชีวิต หรือสร้างชีวิตที่มีความสุขร่วมกับใครสักคนได้

คนมีแฟน หรือคนมีคู่ ไม่ได้จะมองว่า การมีใครสักคนเข้ามาในชีวิต เป็นปัจจัยสำคัญในการประสบความสำเร็จในชีวิต หรือเป็นตัวกำหนดความสุขในเรื่องต่างๆ ของชีวิต แต่จะมองว่า การที่มีใครสักคนเข้ามา เป็นเรื่องของการสร้างชีวิตร่วมกันมากกว่า เราเองก็มีชีวิตเป็นของตัวเอง แต่ในขณะเดียวกัน เราก็สามารถจะสร้างชีวิตร่วมกับใครสักคนได้ โดยที่เราไม่ได้สูญเสียชีวิตของตัวเองไป

ส่วนในเรื่องต่างๆ ที่ประกอบเข้ามา ก็เป็นประโยชน์ และผลพลอยได้ของการมีชีวิตคู่ ซึ่งก็เป็นเรื่องธรรมดาที่คนสองคนจะมีแรงผลักดันมากกว่า คนๆเดียวอยู่แล้ว เพราะต่างก็เรียนรู้เป็นทั้งผู้ให้ และผู้รับในเวลาเดียวกัน ฉะนั้นแล้ว คนมีแฟน หรือคนมีคู่ ไม่ได้มองว่า การเป็นโสดเป็นสิ่งที่ไม่ดี แต่คนมีแฟน หรือคนมีคู่ แค่อยากจะสร้างชีวิตดีๆ และมีความสุขร่วมกับใครสักคนมากกว่า มันไม่ใช่เรื่องของการมองว่า อันไหนดีกว่ากัน แต่เป็นการเลือกว่า เราอยากเลือกแบบไหนมากกว่า

(ไม่มีการเลือกไหนที่ผิดหรือถูก เพราะเราทุกคนมีสิทธิ์ในการเลือกชีวิต และสิทธิ์ในการตัดสินใจเป็นของตัวเอง)

ข้อดีของคนมีแฟน หรือคนมีคู่ คือมีคนที่สามารถร่วมแบ่งเบาความทุกข์ในชีวิต

นี่คือ ข้อดีที่ดีที่สุด ของคนมีแฟน หรือคนมีคู่ชีวิต มีอยู่หนึ่ง คำกล่าวที่ว่า เราไม่ได้โหยหาทุกสิ่ง เราโหยหาแค่ความรัก เพราะความรักคือทุกสิ่ง คำกล่าวนี้ อาจจะฟังดูเกินความเป็นจริงไปหน่อย แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ว่า การที่เราได้เกิดมาบนโลกใบนี้ ไม่ได้เป็นผลมาจากความรัก หรือไม่มีความรักเป็นส่วนเกี่ยวข้องอยู่เลย ฉะนั้น เมื่อเราเกิดมาจากความรัก ทุกสิ่งก็สามารถถูกทดแทนด้วยความรักได้ ความรักอาจไม่ได้เป็นสิ่งที่ทำให้เรามีความสุขมากขึ้น แต่ในยามที่เราเป็นทุกข์ ความรักเป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เรารู้สึกว่า ความทุกข์นั้น ลดน้อยลง

คนมีแฟน หรือคนมีคู่ชีวิต จะมีสิ่งที่คนโสดไม่สามารถทดแทนได้ นั่นคือ การมีคนที่สามารถร่วมแบ่งปันความสุข ในทุกเรื่องของชีวิตได้ และในขณะเดียวกัน เมื่อยามชีวิตต้องพบกับอุปสรรค หรือปัญหาและความยากลำบากต่างๆ ก็จะมีคนที่ร่วมแบ่งเบาความทุกข์ที่เกิดขึ้นไปพร้อมๆ กัน นี่คือ สิ่งที่คนโสดไม่สามารถหาสิ่งใดมาทดแทนได้ หรืออีกความหมายหนึ่งก็คือ ยามเราเดินหน้าก็จะมีแรงสนับสนุนจากคนข้างหลัง ยามเราล้มลง ก็จะมีคนข้างหลังคอยช่วย และให้กำลังใจเราให้ลุกขึ้น เพื่อการก้าวเดินต่อไปอีกครั้ง ในทุกๆ เรื่องของชีวิต

เราก็จะมีทั้งคนที่คอยสนับสนุน และระวังหลังให้เราเสมอ หากเป็นความหมายโดยนัย ก็คือ เมื่อเราเป็นหยินคู่ของเราก็จะเป็นหยางให้กับเรา หรือเมื่อเราเป็นหยางคู่ของเราก็จะเป็นหยินให้กับเรา ความเป็นจริงของโลกนี้ไม่มีอะไรที่สมบูรณ์แบบในสิ่งที่เป็น แต่ทุกสิ่งล้วนก่อกำเนิด และดำรงอยู่ได้ด้วยความสมดุล เปรียบดังการมีคู่ชีวิต ที่คนทั้งสองแม้จะมีความแตกต่างกัน แต่เป็นความแตกต่างที่ลงตัว จึงก่อให้เกิดเป็นความสมดุลของชีวิต ที่เจริญเติบโต และผลิบานเป็นความสุข

ข้อเสียของการ มีแฟน หรือมีคู่ คือ แม้จะมีอิสระ แต่ก็เป็นอิสระที่ต้องอยู่ภายใต้ การยอมรับได้ซึ่งกันและกัน

ตราบใดที่มีแสงสว่าง ความมืดก็ยังคงอยู่ ทุกสิ่งล้วนมีสองด้านเสมอ ดังหยินกับหยาง แม้จะถูกมองว่าเป็นข้อเสีย แต่สำหรับคู่ชีวิตแล้ว ซึ่งเป็นข้อเสีย ที่ไม่ได้เสียหายมากกว่า แต่เป็นสิ่งที่ต่างฝ่าย ต่างยินดีให้กันและกันมากกว่า มันไม่ใช่เรื่องของการยอมให้กัน เพื่อรักษาความรัก แต่เป็นการให้ด้วยความยินดี เต็มใจ เพราะรัก ต่างฝ่ายจะต่างรัก และห่วงใยความรู้สึกของอีกฝ่ายเสมอ

ดังนั้น ในเรื่องบางอย่าง แม้จะมีความต้องการส่วนตัว แต่ก็จะคิดถึงอีกฝ่ายอยู่เสมอ มันเป็นการปฏิเสธความต้องการของตัวเองในบางเรื่อง แต่มันก็เป็นการปฏิเสธที่เกิดจากความเต็มใจ เพื่อความสุขของคนที่รัก เมื่อต่างฝ่ายต่างเลือกที่จะปฏิเสธความต้องการของตัวเองด้วยความเต็มใจ พื้นที่ ที่กั้นระหว่างคำว่า ตัวเอง หรือ ตัวฉัน และ ตัวเธอ ก็จะหายไป และก็จะเหลือพื้นที่ว่างตรงกลางที่มีคำว่า เรา ที่คือ พื้นที่สำหรับคนสองคนที่มี ความรัก ความเข้าใจ ความห่วงใย และความใส่ใจให้กันและกัน มันจึงไม่สามารถเรียกว่าเป็นข้อเสีย แบบเต็มร้อยได้เสียทีเดียว

บทสรุป คือ การมีแฟน หรือมีคู่ เป็นเรื่องที่ดี แต่ก็ไม่ได้แปลว่า การเป็นโสด เป็นเรื่องที่ไม่ดี ไม่ว่าจะเป็นการเป็นโสด หรือ มีแฟน ต่างก็มีข้อดีในแบบที่เป็นอยู่ เพียงแต่มันขึ้นอยู่ที่ว่า เราจะเลือกข้อดีในแบบไหนเท่านั้นเอง และการเลือกก็ไม่มีผิด หรือถูกแต่อย่างใด และทั้งสองแบบต่างก็มีข้อเสียในแบบที่เป็นอยู่เช่นกัน แต่ก็เป็นข้อเสียที่ยอมรับได้ เพราะทุกสิ่ง ทุกอย่างล้วนมีสองด้านเสมอ

เครดิตภาพ : ขอบคุณภาพปกทั้งหมดจาก canva ภาพที่1 โดย sketchify ภาพที่2 โดย Sparklestroke Global ภาพที่3 โดย Sparklestroke Global ภาพที่4 โดย Sparklestroke Global ภาพที่5 โดย Sparklestroke Global ภาพที่6 โดย Sparklestroke Global

เครดิตภาพ : ขอบคุณรูปภาพประกอบทั้งหมดจาก unsplash ภาพที่1 โดย PHUOC LE ภาพที่2 โดย Toa Heftiba ภาพที่3 โดย Anthony Tran ภาพที่4 โดย Jason Briscoe ภาพที่5 โดย Ben White ภาพที่6 โดย Ann Danilina ภาพที่7 โดย Jessica Rockowitz ภาพที่8 โดย Jessica Rockowitz ภาพที่9 โดย Jonathan Borba ภาพที่10 โดย Jessica Rockowitz

อัปเดตบทความดีต่อใจ ๆ แบบนี้อีกมากมาย โหลดเลยที่ App TrueID ฟรี !